25 พ.ค. 58 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือข้อราชการกับนายโจเซเอีย โวเรเก ไบนีมารามา นายกรัฐมนตรีรัฐฟิจิ ว่า วันนี้ตนได้พบหารือข้อราชการกับท่านนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิพร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประมงและป่าไม้ของฟิจิ และคณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนประเทศไทยเพื่อการเจรจาทำงาน หรือ Working visit การเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมความร่วมมือในหลายสาขาระหว่างทั้งสองประเทศ โดยไทยและฟิจิมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกันมากว่า 43 ปี นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2515 มีการแลกเปลี่ยนการเยือนและการพบหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหลายโอกาส ไทยเห็นว่าฟิจิเป็นมิตรประเทศที่สำคัญในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งไทยมุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศเหล่านี้ โดยไทยได้เข้าเป็นประเทศคู่เจรจาของเวทีความร่วมมือประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก หรือ พีไอเอฟ ตั้งแต่ปี 2547 และส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมประเทศคู่เจรจาเป็นประจำทุกปี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ฟิจิ เป็นประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ กับไทย ในด้านเศรษฐกิจการค้า ฟิจิเป็นแหล่งทรัพยากร ได้แก่ ประมง ป่าไม้ และแร่ธาตุ ซึ่งสามารถเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมของไทย นอกจากนี้ ฟิจิเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีศักยภาพในการเติบโต มีความต้องการสิ่งก่อสร้างและระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของฟิจิ ซึ่งเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญ ไทยมีความตั้งใจจะส่งเสริมให้การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าสูงขึ้นอีกเพราะฟิจิเป็นตลาดที่นับว่าใหญ่พอสมควรในบรรดาประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก หรืออันดับที่สอง สินค้าส่งออกของไทยไปยังฟิจิ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว สินค้านำเข้าจากฟิจิ ได้แก่ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค โดยในปี 2557 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลได้ดุลการค้า 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเรายังมีศักยภาพในการขยายความร่วมมือเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้อีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ตนและท่านนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิ พร้อมคณะ ได้หารือเกี่ยวกับ 1. โอกาสในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกด้านทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง การค้า และการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวทางการดำเนินความร่วมมือระหว่างกันในด้านวิชาการ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ในสาขาอ้อย น้ำตาล น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ประมง พลังงานทดแทน การท่องเที่ยว 2.โอกาสในด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน รวมถึง 3.การจัดทำความตกลงระหว่างกัน อาทิ ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน รวมถึงความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างกัน นอกจากความสัมพันธ์ทวิภาคี ไทยกับฟิจิยังได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดในเวทีระหว่างประเทศตลอดมา ฟิจิเป็นประเทศที่มีบทบาทนำในภูมิภาคหมู่เกาะแปซิฟิกในเวทีระหว่างประเทศ ผมจึงได้แจ้งย้ำให้ท่านนายกรัฐมนตรีฟิจิทราบด้วยว่า ในวาระปี 2560-2561 ประเทศไทยได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประเภทไม่ถาวร และหวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับความสนับสนุนจากฟิจิด้วยดี นอกจากนี้ยังได้หารือถึงการขอเสียงแลกเสียงระหว่างกันในเวทีระหว่างประเทศต่างๆ ได้แก่ การสมัครตำแหน่งผู้พิพากษาศาลกฎหมายระหว่างประเทศของไทย สมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และประธานสมัชชาสหประชาชาติของฟิจิ ตนเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การมาเยือนประเทศไทยของท่านนายกรัฐมนตรีจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐฟิจิพัฒนาเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี