27 พ.ค.58 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.กล่าวถึงข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทำในนามคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ใช่ คสช.แต่เมื่อลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.ถือว่าเป็นคนๆ เดียวกัน ว่า เรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้น คสช.อยู่ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวก เพื่อให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญเดินไปได้ตามกรอบเวลา ส่วนเรื่องเนื้อหาเป็นเรื่องขององค์กรหลักที่รับผิดชอบ สำหรับข้อเสนอเพิ่มเติมจาก ครม.ที่ให้ไปกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นไปในลักษณะของกลุ่มคณะ ไม่ใช่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการเพียงคนเดียว ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ตามกรอบและแนวทางที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ กรณีที่นายณัฐวุฒิ ตั้งข้อสังเกตว่า การจงใจไม่พูดถึงที่มาของนายกฯ เท่ากับ คสช.ชูธงเห็นด้วยเรื่องนายกฯ คนนอก ตลอดจนถึง ที่มาของ ส.ส.และ ส.ว.เหมือนรับได้กับร่างฉบับแรกนั้น ทั้งสองประเด็นเป็นเพียงมุมมองที่ไม่ตรงใจนายณัฐวุฒิอยู่แต่เดิมแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการพิจารณาขององค์กรที่รับผิดชอบ เพราะเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงมานานแล้ว สำหรับข้อเสนอที่ทาง ครม.มีต่อคณะ กมธ.ยกร่างฯ ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นความเกี่ยวข้องในเชิงการบริหารราชการ ที่อาจต้องมีความสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นในด้านการเมืองนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรง
"ส่วนที่นายณัฐวุฒิ มองว่าจนถึงขณะนี้ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าเนื้อหารัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยนั้น เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวของนายณัฐวุฒิ ที่เห็นเนื้อหาบางส่วนในร่างรัฐธรรมนูญไม่ตรงกับใจตัวเอง เพราะขณะนี้เนื้อหาบางส่วนก็ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการปรับแก้ โดยคำกล่าวอ้างของนายณัฐวุฒิ ไม่ชัดเจนว่าจะใช้มาตรฐานอะไรมากำหนด เพื่อพิสูจน์ความเป็นประชาธิปไตย จึงอยากให้ใช้เวลาและมองที่ผลสัมฤทธิ์ที่ตามมามากกว่า ซึ่งการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ถ้าพิจารณาให้ครบองค์ประกอบ เห็นชัดเจนว่ามีบุคคลผู้มีส่วนร่วมหลักในกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในคณะ กมธ.ยกร่างฯ หรือสมาชิกในสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็ล้วนเป็นผู้ที่มีความสันทัดในเรื่องของประชาธิปไตยเป็นอย่างดี รวมทั้งมีการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามาเสนอแนะความคิดเห็นตามช่องทางที่เหมาะสมด้วย" พ.อ.วินธัย กล่าว
นอกจากนี้ พ.อ.วินธัย ยังกล่าวตอบโต้นายณัฐวุฒิ ที่ระบุว่าประเทศไทยยังคงมีการปฎิบัติ 2 มาตรฐาน ว่า ประเทศไทยมีมาตราฐานเดียว คือ มาตรฐานตามกฎหมาย ส่วนที่ผ่านมาคำว่า 2 มาตรฐาน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของบางบุคคลที่นำไปบิดเบือนใช้เป็นวาทะทางการเมือง มาโจมตีเมื่อตนเองหรือพวกพ้องเสียประโยชน์ หวังสร้างประเด็นให้ผู้สนับสนุนคล้อยตาม
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องหลักประกันของประเทศในอนาคตนั้น เป็นสิ่งที่หัวหน้า คสช.ห่วงใย และไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปเผชิญปัญหาแบบเดิม จึงได้พยายามให้ผู้ที่รับผิดชอบในงานต่างๆ ร่วมกันคิดหาแนวทางในการสร้างหลักประกัน เป็นความปรารถนาและความตั้งใจจริงต่อประเทศชาติและประชาชน ขออย่าแปรเจตนาในเชิงลบ ทั้งนี้ หลักประกันเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เป็นเรื่องที่ทุกส่วนต้องช่วยกันคิดช่วยกันสร้างให้เกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี