สั่งการบ้าน3ข้อ
แผนสำรองถ้ารธน.คว่ำ
‘ประยุทธ์’เตรียมพร้อม
บวรศักดิ์แอ่นรับผลโหวต
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว คสช.เตรียมหารือให้แก้ไขมาตรา 38 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อต่ออายุให้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ว่าเรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้น แต่ฝ่ายกฎหมายอาจเตรียมการไว้ ซึ่งไม่ใช่เป็นการเตรียมต่ออายุ แต่ตนได้มอบแนวทางให้ไปหามาตรการมาว่า 1.หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่าน สปช.แล้วจะทำอย่างไร เพราะหากไม่ผ่านก็ต้องล้มทั้งหมด ใช้เวลาในการเลือกใหม่ จึงต้องไปคิดหาวิธีการที่เหมาะสมมา 2.หากผ่าน สปช. แต่เมื่อทำประชามติแล้วไม่ผ่านจะทำอย่างไรและประเด็นสุดท้ายคือ หากร่างรัฐธรรมนูญผ่าน แต่ไม่มีคนสานต่อการปฏิรูปแล้วจะทำอย่างไร ซึ่งตนให้โจทย์ไปเพียงแค่นี้
บิ๊กตู่ยันรัฐประหารเพื่ออนาคต
ต่อมา เวลา 17.00น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ’คืนความสุขให้คนในชาติ’ออกอากาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งถึงการบรรยายพิเศษของ ศจ.มิเชล โทเปอร์ จากมหาวิทยาลัยปารีสที่ 10 ซึ่งเป็นนักวิชาการ 1 ใน 3 คนที่รัฐบาลเชิญมาบรรยายเรื่องการนำประเทศเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย ว่า ศจ.โทเปอร์ให้ข้อคิดว่า รัฐประหารอาจไม่ใช่การทำลายประชาธิปไตยเสมอไป เพราะบางครั้งการรัฐประหารในหลายประเทศเป็นการทำเพื่อเตรียมไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในอนาคต จึงอยากให้คนไทยตระหนักว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยมีปัญหามาตลอด หากปล่อยไว้ประเทศก็พังพินาศ รัฐบาลนี้เข้ามาตอนที่กำลังจะไปไม่รอด เมื่อมาแล้วก็ต้องการให้เปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม สามารถวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อเตรียมไปสู่ระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ดี ปัญหาที่สะสมมายาวนานก็ต้องช่วยกันแก้ อย่าโยนภาระให้รัฐบาล หรือคสช.เพราะการใช้อำนาจอย่างเดียวคงไม่สำเร็จ
ปฎิรูปตร.ให้ดูกองทัพต้นแบบ
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องการปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จะใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา44 อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะการปฏิรูปมีหลายเรื่อง ต้องคำนึงถึงโครงสร้างต่างๆด้วย หากรื้อทั้งหมดทีเดียวก็ทำงานไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องจัดระเบียบก่อนและกำหนดส่วนใดที่จะทำในช่วงนี้และส่วนใดที่ต้องทำในรัฐบาลต่อไป เช่น การปฏิรูปตำรวจ ก็ต้องแยกมาดูเรื่องอำนาจหน้าที่ต่างๆของตำรวจ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน นอกจากการให้บริการประชาชนเพื่อให้ได้รับความเชื่อถือจากสังคมแล้ว การแต่งตั้งก็ควรใช้รูปแบบเดียวกับกองทัพ ที่มีการกลั่นกรองเป็นลำดับชั้น เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสม มีสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจนและขึ้นมาด้วยความชอบธรรม
แนะล็อคต้องปฎิรูปไว้ในรธน.
“ผมสรุปแล้วปัญหาใหญ่ๆ เรื่องใหญ่นั้นที่ยังค้างอยู่ในระยะที่2 ของผมนี่ผมจะส่งไประยะที่3ของผม คือรัฐบาลใหม่ แล้วรัฐบาลใหม่ก็ไปกำหนด 1-2-3 ทำก็แล้วกัน คงเข้าใจตามนี้ หรือถ้าหากทุกคนเกรงว่า จะไม่ทำ สภาปฏิรูปฯกำหนดไว้ ก็อาจจะเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญได้ไหม หรือกฎหมายลูก หรืออะไรก็แล้วแต่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า
รธน.ใหม่ต้องไม่ทะเลาะกันอีก
วันนี้เราทำทุกอย่างตามโรดแมปทั้งหมด ขอให้มีประชามติตนก็เปิดทางให้ทำ แต่ห่วงว่าเมื่อถึงการเลือกตั้งแล้วจะวุ่นวาย เพราะมีคนไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งปกครองไม่ได้ขึ้นมาอีก ตนห่วงเรื่องเหล่านี้มากกว่า ไม่ได้ห่วงรัฐธรรมนูญเท่าไร เพราะถือเป็นเรื่องที่ คสช.ต้องรับผิดชอบด้วย สำหรับรัฐธรรมนูญนั้น ควรเป็นกฎหมายที่ไม่ต้องตีความกันมาก เราต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ไม่ถูกนำมาทะเลาะเบาะแว้งกันอีก รัฐธรรมนูญใหม่นั้นต้องสร้างความสมดุลระหว่าง 3อำนาจ บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ แล้วมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นผู้ใช้อำนาจ 3อำนาจผ่านการเลือกผู้แทนราษฎร ถ้าท่านเลือกดี เขาก็ดูแลท่านดี บ้านเมืองก็เจริญไปข้างหน้า ซึ่งการเลือกผู้แทนนั้น อย่าไปมองเฉพาะเรื่องนโยบายพรรคอย่างเดียว ต้องมองว่านโยบายของพรรคการเมืองเหล่านั้น วางยุทธศาสตร์ของชาติไว้อย่างไรด้วย
‘บวรศักดิ์’แจง’พลเมือง’สำคัญ
ด้าน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมูญ ซึ่งมีหลายประเด็น ว่า ในส่วนของคำว่า พลเมือง ครม.ไม่ได้เสนอคำขอแก้ไข เพียงแต่ให้ข้อสังเกตมาเท่านั้น ทั้งนี้การบัญญัติคำว่าพลเมืองในร่างรัฐธรรมนูญนั้น เพื่อวางรากฐานแก้ปัญหาซื้อสิทธิ์ขายเสียงการเลือกตั้ง เพราะมีวัฒนธรรมราษฎรที่ยังพึ่งพาผู้นำทางการเมือง จึงต้องลดความเหลื่อมล้ำให้ราษฎรเป็นคนชั้นกลางระดับกลาง ไม่ต้องพึ่งพาใคร รวมถึงต้องการให้ราษฎรที่ไม่ให้ความสนใจการเมืองเท่ากับการบ้านของตนเอง หันมาสนใจการเมืองเท่ากับการบ้านของตนเอง ไม่ใช่แค่การใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพียง 1นาที แล้วมอบอำนาจให้ผู้ใดไปดำเนินการผ่านตัวแทน การเขียนคำว่าพลเมืองไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ จึงไม่ใช่แค่ถ้อยคำ หรือวาทกรรม เหมือนวาทกรรมคำว่า เหาะเกินลงกา หรือเรือแป๊ะ
เผยหมวดปฎิรูปใส่ใน’กม.ลูก’
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเสนอให้ปรับหมวดปฏิรูปและปรองดอง รวมถึงตัดการปฏิรูปด้านต่างๆ ออก นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า คำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่ ครม.เสนอให้พิจารณาไม่ใช่ตัดออก โดยให้นำหลักการปฏิรูปไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนรายละเอียดให้เขียนไว้ในพระราชบัญญัติ (พรบ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญมีความกระชับ โดยการจัดทำร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญนั้น ให้ สปช.ดำเนินการ เมื่อทำเสร็จให้แนบร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญแนบไปกับร่างรัฐธรรมนูญในช่วงของการทำประชามติ
พร้อมรับคำพิพากษาร่างรธน.
“ประเด็นปฏิรูปก็เป็นอย่างที่ทุกฝ่ายเรียกร้องตั้งแต่ก่อนวันที่ 22พฤษภาคม2557ไม่ใช่หรือ แล้วหากต้องการปฏิรูปสภาที่มีอยู่ก็มีชื่อว่า สปช.ไม่ใช่หรือ ดังนั้นคำถามสำคัญคือ เราจะย้อนกลับไปอีกหรือ ในหมวดปฏิรูปยืนยันว่า จะมีในร่างรัฐธรรมนูญแน่นอน เช่นเดียวกับคำขอแก้ไขของ สปช.ทั้ง 8กลุ่มและของประชาชนที่เสนอเข้ามา แต่จะพิจารณาอย่างไร ต้องดูเหตุผลอีกครั้ง อย่างไรก็ดี เมื่อปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญและส่งให้ สปช.พิจารณาลงมติแล้ว ถือเป็นเอกสิทธิ์ที่ สปช.จะลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ส่วนผมก็หมดหน้าที่ และเมื่อ สปช.เห็นชอบแล้วส่งให้ประชาชนลงประชามติ ส่วนประชาชนจะลงมติให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่านก็เป็นเอกสิทธิ์ของประชาชนเช่นกัน ส่วนผมพร้อมรับคำพิพากษาและไม่มีถอดใจ” นายบวรศักดิ์ กล่าว
ผู้ตรวจฯเฮครม.ค้านรวม’กสม.’
ขณะที่ นายศรีราชา วงศารยางค์กรู ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการควบรวมผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตามร่างรัฐธรรมนูญของกมธ.ยกร่างฯว่า จุดยืนของผู้ตรวจการแผ่นดินยังเหมือนเดิม คือไม่เห็นด้วยกับการควบรวม 2 หน่วยงาน และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ.ยกร่างฯว่า จะแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอที่คสช. ครม.และและหน่วยงานต่างๆ เสนอไปหรือไม่ ซึ่งในส่วนของ ครม.ที่เสนอประเด็นแก้ไขรวม 117ประเด็นทราบว่า มีประเด็นไม่เห็นด้วยกับการควบรวม ผู้ตรวจฯกับ กสม.เช่นเดียวกับสภานิติบัญญัติ(สนช.)และสปช.ก็ไม่เห็นด้วย จึงค่อนข้างแน่ชัดว่า80-90%ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี