ผบ.ตร.เด้งรับถอดยศแม้ว
ทำตาม'มติ'
'บิ๊กตู่'พร้อมนำทูลเกล้าฯ
กำชับถอนพาสปอร์ตทุกเล่ม
'ทักษิณ'โต้ไม่ใช่เรื่องใหญ่
พท.โวยลั่นฝูงไฮยีน่ารุมขย้ำ
รวมถึงการเดินหน้าถอดยศนั้น
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษาสบ 10 ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงถึงการพิจารณาถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณว่า เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีการกลั่นแกล้ง เป็นการพิจารณาในรูปแบบของคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับถอดยศ ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พิจารณาเพิ่มเติมในประเด็นที่พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษก แล้วหลบหนีไปตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งสิ้น 5 หมาย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามข้อ 1 (6) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 ที่ระบุว่า การเสนอถอดยศตำรวจทั้งแก่ผู้ที่อยู่ในราชการและพ้นจากราชการไปแล้ว ให้กระทำได้ต่อเมื่อเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาแล้วหลบหนีไป
ย้ำมติเอกฉันท์ถอดยศ‘แม้ว’
“เมื่อคณะกรรมการฯนำมาพิจารณา และหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว พบว่าเข้าข่ายองค์ประกอบในการถอดยศ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ และภายในวันนี้จะเสนอ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)พิจารณามีความเห็นต่อไป”พล.ต.อ.ชัยยะกล่าว
‘สมยศ’ยังไม่ได้รับเรื่องย้ำรอบคอบ
ขณะที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวเรื่องการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเท่าที่ทราบคณะกรรมการฯพิจารณาเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องยังไม่ส่งมาถึงตน ถ้าเรื่องมาถึงตนต้องนำมาพิจารณาอีกครั้ง เรื่องความถูกต้อง เพื่อความละเอียดรอบคอบ สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณานั้น ทำในรูปแบบคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ผู้มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ถ้าผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯเป็นเช่นใดก็ต้องว่าไปตามนั้น จะไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวหักล้างหรือไปแก้ความคิดเห็นของคณะกรรมการฯ ทั้งนี้ จะใช้ระยะเวลาพิจารณาเท่าใดนั้น คงตอบไม่ได้ เพราะประชาชนสนใจต้องรอบคอบ อาจใช้เวลามากไปบ้างอย่าเร่งรัด
ไม่มีใบสั่งจากนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ไม่มี เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องทำตามกฎหมาย ละเว้นไม่ได้ โดยขั้นตอนต่อไปเป็นไปตามลำดับชั้น เมื่อพิจารณาแล้วตนจะเสนอ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการต่อ
นัดไต่สวนคดีหมิ่นผบ.ทบ.7ก.ย.
ขณะที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก หลังพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มอบอำนาจให้พล.ต.ศรายุทธ กลิ่นมาหอม ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลยความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326และ 328 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม คำฟ้องบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 19-20 พฤษภาคม 2558 จำเลยใส่ความโจทก์ว่า เป็นบุคคลน่ารังเกียจ เป็นอันตรายและทำความเสียหายให้ประเทศชาติ ซึ่งไม่ใช่ความจริง โดยจำเลยให้สัมภาษณ์ถึงการเมืองในประเทศไทย มีการเผยแพร่ผ่านยูทูบและสื่อออนไลน์ ส่งผลให้โจทก์เสียชื่อเสียง จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 โดยศาลอาญารับคำฟ้องไว้ในสารบบคดีดำหมายเลข อ.1824/2558 นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 7 กันยายน เวลา 13.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หากศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว หลังมีคำสั่งว่าคดีมีมูลแล้วประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษา พ.ต.ท.ทักษิณจะตกเป็นจำเลยตามกฎหมาย ซึ่งศาลจะต้องนัดสอบคำให้การจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ โดย
ขั้นตอนนี้จำเลยก็ต้องมาสอบคำให้การต่อหน้าศาล แต่หากศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ เห็นว่าคดีไม่มีมูลแล้วสั่งยกฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ตกเป็นจำเลย ขณะที่ตามกฎหมายหากคู่ความยังติดใจ สามารถยื่นอุทธรณ์-ฎีกาคดีได้
ปปช.จ่อฟัน‘ปู-ปึ้ง’คืนพาสปอร์ต
นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าจากกรณีมีผู้ร้องเรียนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ กรณีจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) (4) ในฐานะเป็นผู้ออกหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถูกศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศ และถูกออกหมายจับหลายคดี โดยขอให้ตรวจสอบว่าทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งองค์คณะไต่สวน ป.ป.ช. ที่มีนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.รับผิดชอบสำนวนได้ดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้ว จนถึงขณะนี้เตรียมสรุปข้อมูลข้อเท็จจริง รายงานที่ประชุมป.ป.ช.เดือนมิถุนายน เพื่อขอมติว่ามีมูลเพียงพอแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่
โดยนายณรงค์กล่าวว่า เรื่องนี้ดำเนินการเสร็จกว่า 80% แล้ว และก่อนหน้านี้องค์คณะไต่สวนเคยสรุปเรื่องรายงานที่ประชุม ป.ป.ช.แล้วครั้งหนึ่ง แต่ที่ประชุมให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ขณะนี้ทำงานไปได้มากแล้ว
‘แม้ว’แผ่เมตตา-เย้ยไม่ใช่เรื่องใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ วันเดียวกัน ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว @thaksinlive ถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศยกเลิกหนังสือเดินทาง 2 เล่ม เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมแชร์สถานที่ (Location) ไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ร.11รอ. มีข้อความระบุว่า หลังได้อุ้มหลานที่สิงคโปร์ วันนี้กลับมาดูไบแล้ว มีเวลานั่งสมาธิ แต่ครั้งนี้ได้เพิ่มการแผ่เมตตาให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายพ้นจากความโลภ โกรธ หลง จะได้มีสติปัญญาแก้ปัญหาบ้านเมือง สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่บริหารแต่อำนาจ และสร้างความแตกแยกให้มากยิ่งขึ้น
“ผมเชื่อคำสั่งสอนพระพุทธเจ้าที่ว่า ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง คือ ทุกสิ่งไม่มีอยู่จริง เมื่อเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป พาสปอร์ตก็เช่นกัน ไม่อยากให้เป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โต ผมก็ยังเป็นคนเดิมจนกว่าจะลาโลกไป อยากให้คนไทยมีเมตตาต่อกัน กฎหมายและปืนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นอกจากเมตตาเท่านั้น” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พท.ซัดฝูงไฮยีน่ารุมขย้ำนายใหญ่
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวถึงกรณีอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์แสดงความเห็นต่อการเพิกถอนหนังสือเดินทางพ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณว่า เหมือนฝูงไฮยีน่าได้กลิ่นเลือด แล้วเหยียบย่ำว่าเป็นนักโทษหนีคดี ขอถามว่าการเซ็นชื่อให้ภรรยาไปประมูลที่ดิน และคดีเกิดหลังยึดอำนาจปี 2549 เป็นความผิดหนักมากหรืออย่างไร พรรคประชาธิปัตย์เคยได้ยินคดีสร้างคฤหาสน์กลางป่าสงวนแล้วสั่งไม่ฟ้อง อ้างขาดเจตนาหรือไม่ หรือ คดี ปรส.ชาติเสียหาย 8.5 แสนล้านบาท ทำไมปล่อยให้ขาดอายุความ คดีโกงสร้างโรงพัก คดีเหล่านี้ทำชาติเสียหายมากกว่าคดีเซ็นยินยอมให้ภรรยาประมูลซื้อที่ดินอีก ถ้าอยากปรองดองจริง อย่าพูดใส่ร้ายกันด้วยความเท็จ
เพ้อท้าทำประชามติเอาทักษิณกลับ
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ขอนแก่นกล่าวว่า เป็นเรื่องกลั่นแกล้ง ดิสเครดิตกันฝ่ายเดียว ทำให้คนที่รักความเป็นธรรมเกิดคำถามว่าใครอยู่เบื้องหลัง ทำเพื่ออะไร เพื่อใคร ความจริงต่างๆ ก็จะปรากฏ เรื่องจะบานปลาย สุดท้ายบ้านเมือง ปรอดองกันไม่ได้ จะทำอะไรก็ทำไป ไม่ได้เกิดผลอะไร ต่อให้ทำประชามติให้นำพ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นนายกฯหรือให้กลับบ้าน เชื่อว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยจะลงคะแนนให้
“จะทำอะไรต้องมีเหตุผลชี้แจงได้ ไม่เช่นนั้นอีกหน่อยไทยจะหาคนทำดีไม่ได้ ตอนนี้ประเทศต้องการความสามัคคี อย่ารังแกกันและก้าวข้ามทักษิณเสียที อย่าหาเรื่องกลบปัญหาเศรษฐกิจ” นพ.เชิดชัยกล่าว
นายกฯลั่นยกเลิกพาสปอร์ตทุกเล่ม
ทีทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเพิกถอนหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยยืนยันว่า กรณีกระทรวงต่างประเทศ ประกาศยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น มีกี่เล่มก็ถอนทั้งหมดทุกเล่ม จะเล่มสีน้ำตาล สีแดง สีน้ำเงิน อะไรก็แล้วแต่ ก็ถอนหมด เห็นมีข่าวว่าเพิกถอนหมดทุกเล่มหรือยัง กำลังตรวจสอบอยู่ว่ามี 3 หรือ 4 เล่ม มีกี่เล่มก็ถอนหมดทุกเล่ม
รอทูลเกล้าฯถอดยศ‘ทักษิณ’
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังประชุมคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ถึงความคืบหน้า
การถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณว่า ตามขั้นตอนเขาว่าอย่างไร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมติอย่างไรและจะส่งมาที่ตน ก็ให้ส่งมา ตนจะดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่ใช้อำนาจพิเศษตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จแล้วก็ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
ปัดเกลียดชังยันทำตามกม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวเปิดแท็บเลตให้นายกฯดูภาพอินสตราแกรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โพสต์ภาพกำลังนั่งสมาธิแผ่เมตตา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กล่าวอะไร ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที จากนั้นได้มอบหมายให้ทีมงานมาขอยืมแท็บเลต เพื่อไปอ่านข้อความอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบหมายให้ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงเพิ่มเติมว่า การดำเนินการเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด ไม่ได้ทำเพราะความเกลียดชัง แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมระบุว่า นายกฯฝากบอกอีกว่า เป็นคนของประเทศไม่ได้ทำอะไรด้วยอำนาจ ทุกอย่างอยู่ที่กฎหมาย ระเบียบและความถูกต้อง การเป็นผู้นำประเทศ ไม่มีความรู้สึกรักหรือเกลียด เพราะต้องดูแลคนทั้งหมด้วยความเที่ยงธรรม
‘บิ๊กป้อม’ยันว่าตามกม.ปัดแก้แค้น
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงการดำเนินคดีพ.ต.ท.ทักษิณโดยยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไปพูดทำให้เกิดความเสียหายกับหน่วยงาน สถาบัน ก็ว่ากันไปตามขั้นตอนกฎหมาย
“ไม่ใช่เรื่องการแก้แค้น หรือกลั่นแกล้ง เพราะคสช.และรัฐบาลก็เข้ามาบริหารประเทศ 1 ปีกว่าแล้ว ไม่เคยดำเนินการใดๆ กับท่าน แต่พอมีเรื่องทำผิดกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน หน่วยงานและอีกหลายอย่าง ก็ต้องดำเนินการ อยากให้ไปดูเทปให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณว่า พูดอะไรไว้ สื่อเองก็รู้ดี เรื่องนี้ประชาชนก็ร้องเรียนมา” พล.อ.ประวิตรกล่าวและว่า เช่นเดียวกับการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ก็ชี้แจงชัดเจนว่า ประชาชนร้องเรียนเข้ามา จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูและเสนอหน่วยงานความมั่นคง ก่อนเสนอให้กระทรวงต่างประเทศพิจารณาว่าเข้าหลักการหรือไม่
ถอนพาสปอร์ต-ถอดยศทำตามกม.
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า กรณีพ.ต.ท.ทักษิณถูกเพิกถอนพาสปอร์ตและถอดยศนั้น ต้องทำความเข้าใจกับคนไทยให้รู้ว่าเป็นการทำตามกฎหมาย วันข้างหน้าถ้าตนผิดแล้วถูกลงโทษ จะบอกว่ากลั่นแกล้งกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าพูดว่าเป็นการกลั่นแกล้งจะเดินไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่ต่างๆ ยังไม่พบความเคลื่อนไหว คิดว่าคนไทยเข้าใจอะไรดีขึ้น
ฮึ่ม!อย่าสร้างเงื่อนไขขัดแย้ง
ส่วนกรณีทหารบุกที่ประชุมอดีตส.ส.อีสาน แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่นัดหารือเตรียมความพร้อมสู้คดีแก้รัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา สว.มิชอบต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)พิจารณาถอดถอนนั้น พล.อ.อนุพงษ์ชี้แจงว่า อยากบอกว่าอย่าเอาอะไรมาเป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ถ้าไม่ยืนตรงจุดนี้ แล้วกล่าวอ้างว่ากลั่นแกล้งกัน จะเดินต่อไปไม่ได้ อย่าเอาทุกอย่างมาเป็นความขัดแย้งแล้วเอามวลชนมาขัดแย้งอีก
ขู่ฟันผู้ว่าฯปล่อยมวลชนก่อหวอด
รมว.มหาดไทยกล่าวต่อว่า การปกครองของมหาดไทยต้องไม่ทำให้คนออกมา ปลุกปั่น สร้างความขัดแย้ง ลุกลามรุนแรง แม้ว่าจะชอบต่างกันไม่เป็นไร แต่อย่ามาขัดแย้งกันเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ส่วนเรื่องหมู่บ้านสีแดงในภาคอีสานนั้น เท่าที่ติดตามขณะนี้ไม่มี ใครจะชอบสีใด ตนไม่ว่า แต่อย่าไปปลุกปั่นโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ ทั้งนี้ ไม่ได้คาดโทษผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ย้ำว่าถ้าไม่ทำตามนโยบายตนลงโทษเลย จะเอาคนมาตีกันไม่ได้ เพราะประเทศเสียหาย
ย้ำ‘แม้ว’ไม่มีพาสปอร์ตไทยแล้ว
นายไพศาล พืชมงคล นักวิชาการและนักเขียนอิสระโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตการเพิกถอนหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณครบหมดทุกเล่มหรือไม่ว่า จากการตรวจสอบเรื่องหนังสือเดินทางการทูตของพ.ต.ท.ทักษิณได้รับการยืนยันจากผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงแล้วว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีพาสปอร์ตทางการทูต มีเพียงพาสปอร์ตธรรมดา 2 เล่ม และถูกเพิกถอนเรียบร้อยไป หมายความว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีหนังสือเดินทางไทยอีกต่อไป
‘สมชาย-จิ๋ว’ปฏิเสธทุบม็อบพธม.
ส่วนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ มีการนัดพิจารณาคดีครั้งแรกและสอบคำให้การคดีหมายเลขดำ อม.2/2558 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยที่ 1-4 ความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 295 และ 302 จากกรณีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ปิดล้อมรัฐสภา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 471 ราย หลังศาลอ่านสรุปคำฟ้องให้จำเลยแล้ว จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ จากนั้นศาลอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 30 มิถุนายน พร้อมปฏิเสธคำขอให้พิจารณาลับหลังจำเลย โดยระบุจำเลยมีหน้าที่ต้องมาศาลทุกนัด จากนั้นศาลนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งวันที่18 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ขณะเดียวกัน ศาลสั่งห้ามจำเลยเดินทางออกนอกประเทศยกเว้นได้รับการอนุญาตจากศาล
ยกฟ้อง‘บิ๊กตู่’ยึดอำนาจ
วันเดียวกัน ผู้พิพากษาศาลอาญาอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ อ.1805/2558 ที่นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับและพวก 15 คน เป็นโจทก์ฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.กับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลยฐานกบฏ กรณีล้มล้างเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ 2550 สิ้นสุดลง ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการเป็นความผิด
ฐานกบฏ อีกทั้ง ยังออกคำสั่งในนาม คสช.ละเมิดสิทธิ์และเสรีภาพประชาชนและสื่อมวลชน ผิดกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 113 และ 114 ซึ่งศาลพิพากษาว่า แม้จำเลยทั้ง 5 ยึดอำนาจ แต่ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2557 ฉบับชั่วคราว ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 บัญญัติละเว้นความผิดและความรับผิดไว้ในมาตรา 48 ดังนั้นการกระทำของจำเลยทั้งห้าตามฟ้องจึงพ้นจากความผิดและความรับผิด จึงไม่มีมูลที่ศาลรับไว้พิจารณา พิพากษายกฟ้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี