23 มิ.ย.58 นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวถึงกรณีที่ ศาลแพ่ง และศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้แกนนำกลุ่ม พธม.จำนวน 13 คน ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.51 จนกว่าจะชำระเสร็จ จากกรณีกลุ่ม พธม.และแนวร่วม บุกยึดสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า คดีนี้จะครบกำหนดยื่นฎีกา ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ซึ่งตนและทีมทนายความกำลังพิจารณารายละเอียดเพื่อยื่นฎีกาต่อสู้คดี แต่เป็นไปได้ที่จะยื่นคำฎีกาไม่ทันช่วงกำหนดดังกล่าว ดังนั้น จึงเตรียมแนวทางที่จะยื่นคำร้องขอขยายเวลาฎีกาก่อน และยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาเป็นกรณีอนาถาเพื่องดการวางเงินค่าธรรมเนียมในการฎีกาด้วย เนื่องจากตามขั้นตอนการฎีกาคดีนี้ ฝ่ายจำเลยจะต้องวางเงินเป็นค่าธรรมเนียมศาลในการยื่นฎีกา จำนวน 7 ล้านบาท จึงต้องดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร และมีคำสั่งอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกซึ่งเป็นแกนนำ พธม.รวม 13 คน ในคดีหมายเลขดำที่ 6453 /2551 ซึ่ง ทอท.ให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย กรณีระหว่างวันที่ 24 พ.ย. - 3 ธ.ค.51 พวกจำเลย ร่วมกันนำผู้ชุมนุมหลายหมื่นคน ไปบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เพื่อประท้วงรัฐบาล และขับไล่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ทำให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้งสองต้องหยุดลง
ทั้งนี้ ศาลแพ่งมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 มี.ค.54 ให้จำเลยทั้ง 13 คน ร่วมกันชดใช้เงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.51 จนกว่าจะชำระเสร็จ รวมทั้งให้จ่ายค่าธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์ เป็นเงิน 80,000 บาทด้วย เนื่องจากเห็นว่า การชุมนุมที่จะได้รับความคุ้มครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 นั้น หมายถึงการชุมนุมที่เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามมาตรา 63 วรรคหนึ่ง แต่การชุมนุมของพวกจำเลย ไม่ได้เป็นไปตามหลักการดังกล่าว และยังส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและประโยชน์สาธารณะ ละเมิดสิทธิและเสรีภาพการประกอบอาชีพและการคมนาคมของประชาชน ซึ่งการชุมนุมจะต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี ตามมาตรา 28 รวมทั้งการชุมนุมจะต้องตั้งอยู่บนหลักแห่งความสมดุลกับสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่ใช้สิทธิเด็ดขาด ที่พวกจำเลยทั้ง 13 เป็นผู้จัดการชุมนุมหรือผู้เข้าร่วมชุมนุม จะสามารถกระทำการใดๆ ก็ได้โดยไม่อยู่ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ ทั้งสิ้น
ซึ่งการปิดสนามบินยังก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายในหมู่ผู้โดยสาร และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพาณิชย์ ส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างรุนแรง จึงเป็นวัตถุประสงค์ให้เกิดความไม่สงบภายในบ้านเมือง ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แล้วยังเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมที่เกินสัดส่วน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี