1 ก.ค.58 นางชนิญญา ชัยสุวรรณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสุงสุด แถลงจุดยืนคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ กรณีเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงอัยการสูงสุด โดยกล่าวถึงการคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญในส่วนที่ว่าด้วยองค์กรอัยการ ว่า สำนักงานอัยการเป็นของประชาชน เพราะรับเงินภาษีมาจากประชาชนในการทำงาน เป็นองค์กรหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมอยู่ในชั้นกลางน้ำ ระหว่างจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาศาล จึงต้องทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้น การก้าวก่ายสำนักงานอัยการคือการก้าวก่ายประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุดจึงยื่นคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญในหลายประเด็น ที่รู้สึกว่าการทำงานถูกคุกคามโดยการถูกครอบงำ จึงต้องการสะท้อนออกไป เพราะเราไม่สามารถตั้งชุมนุมไม่ได้ โดยได้รวบรวมรายชื่อได้แล้วกว่า 500 รายชื่อ เพื่อขอให้มีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ ตนจึงขอความสะท้อนจากสื่อไปยังประชาชน และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าการร่างรัฐธรรมนูญไม่ควรมองด้านเดียวจะส่งผลเสีย
ขณะที่ตัวร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะตัวบทที่ระบุให้ประธานคณะกรรมการอัยการมาจากคนนอก โดยต้องไม่เคยผ่านการเป็นข้าราชการอัยการ หรือเป็นนักการเมืองนั้น มีข้อสงสัยว่าคนนอกตรงนี้จะมาจากไหน และจะรับรองได้อย่างไรว่าจะไม่รับคำสั่งนักการเมือง จึงควรมาจากผู้ที่เคยเป็นข้าราชการอัยการ เนื่องจากจะมีความเข้าใจระเบียบการบริหารงานบุคคล และการบริหารราชการของสำนักงานอัยการสุงสุด ตลอดจนจารีตประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติของข้าราชการอัยการได้ดีกว่าบุคคลภายนอก
นอกจากนี้ การคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญที่ระบุให้มีกรรมการอัยการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ได้เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการอัยการจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกรรมการอัยการที่เป็นข้าราชการอัยการ จึงตั้งข้อสงสัยว่าจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 นั้นมากกว่าเท่าใด หากรวมประธานด้วยก็จะมีกรรมการรวม 15 คน ดังนั้น 1 ใน 3 คือจำนวนมากกว่า 5 คน ซึ่งอาจมาจากคนนอกทั้งหมดก็เป็นได้ เพราะไม่มีการกำหนดจำนวนอย่างชัดเจน อีกทั้งไม่มีการระบุคุณสมบัติว่ากรรมการอัยการคนนอกจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 ที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้ ก็มีกรรมการคนนอก 4 คน และกรรมการที่เป็นอัยการ 11 คน ซึ่งยังไม่พบปัญหาใดๆ ในการดำเนินการ
ส่วนคำชี้ขาดของสำนวนคดีที่อัยการทำขึ้น หลังคณะ กมธ.ยกร่างฯ ระบุให้ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะนั้น เห็นว่าไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีหลักประกันคุ้มครองผู้เสียหายและพยานบุคคล วัตถุ เอกสาร เนื่องจากในบางส่วนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ จะมาขอดูสำนวนสอบสวนไม่ได้
ทั้งนี้ การที่คณะ กมธ.ยกร่างฯ ได้ระบุห้ามพนักงานอัยการเป็นกรรมการหรือทำหน้าที่ใดๆ ในรัฐวิสาหกิจหรือกิจการใดๆ ของรัฐนั้น ทางอัยการสูงสุดไม่ได้เดือดร้อนในการได้เงินแต่มองประโยชน์ของรัฐ ทางอัยการสูงสุดต้องรับผิดชอบทางแพ่ง ทางอาญา คือ มีวินัยควบคุมการทำงานอยู่แล้ว การทำหน้าที่ใดๆ ก็ต้องเอาประโยชน์ของรัฐเป็นที่ตั้ง อาจเพราะในอดีตคนมองหรือสงสัยว่าจะไปมีผลประโยชน์ได้เสีย แต่ก็ไม่ไปดำเนินการทางแพ่ง ทางอาญา แล้วรัฐวิสาหกิจจะไม่ต้องใช้นักกฎหมายหรือ ถ้าไม่ให้นั่งในกรรมการหรือทำหน้าที่ใดๆ รัฐวิสาหกิจหรือกิจการใดๆ ของรัฐ ก็จะทำให้องค์กรเหล่านี้เสียผลประโยชน์ของประเทศ ที่ต้องจ้างทนายความเอกชนจำนวนมาก และผูกพันเพียงสัญญาว่าจ้างธรรมดา ที่ผ่านมาหลายครั้งรัฐต้องเสียผลประโยชน์ในการสู้คดีจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานอัยการยื่นหนังสือคัดค้านไปยัง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะ กมธ.ยกร่างฯ แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี