3 ก.ค.58 ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดประชุมนัดพิเศษ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและรับฟังข้อเท็จจริง กรณีการจับกุมนักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โดยมีผู้ปกครอง อาจารย์ของนักศึกษา พร้อมด้วยชาวบ้านที่เคยทำงานภาคประชาชนร่วมกับกลุ่มนักศึกษา และผู้แทนจากสภาทนายความ เข้าร่วมการประชุม
นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา กล่าวว่า เหตุเกิดในช่วงที่ลูกชายไปชู 3 นิ้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ใน จ.ขอนแก่น โดยลูกชายถูกเรียกไปปรับทัศนคติกับทหาร ตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ถึง 3 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่าทำไมไม่สั่งสอน เลี้ยงลูกให้ดี แต่ตนยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง รู้แค่ลูกไปรวมกลุ่มกับดาวดินเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ขณะเดียวกันมองว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับรู้การช่วยเหลือชาวบ้านของนักศึกษา แต่กลับจับตาเพียงการต่อต้านรัฐประหารที่เกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งในวันที่กลุ่มนักศึกษาถูกจับ มีสิ่งที่ตนสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยให้มีการทำกิจกรรมโดยไม่มีการห้าม แต่ดำเนินการจับด้วยความผิดในมาตรา 116 ที่ถือเป็นกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในสังคมต้องเคารพเพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม แต่กฎหมายดังกล่าว ตนไม่ถือว่าเป็นกฎหมาย แต่เป็นสิ่งที่เกินกว่าเหตุ จึงอยากขอให้คณะกรรมการสิทธิฯ ช่วยพิจารณากฎหมายมาตราดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ตนมั่นใจว่า นักศึกษาทุกคนทำกิจกรรมด้วยตนเองไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะลูกเคยบอกไว้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองสีต่างๆ
ด้าน นางเรวดี ศุภโสภณ มารดาของ นายรัฐพล ศุภโสภณ กล่าวว่า เมื่อวานมีทหารมาพบโดยไม่มีการแสดงตนใดๆ ซึ่งทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ส่วนที่มาในวันนี้อยากจะเรียกร้องให้ปล่อยเด็กเหล่านี้ เพราะเด็กพวกนี้ไม่ใช่กบฎ มีความรักชาติเหมือนกับทหาร เห็นได้ชัดข้อเรียกร้องของเด็กๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทหารต้องการให้เกิดอยู่แล้ว โดยการเรียกร้องนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครบงการ เพราะทำกิจกรรมแต่ละครั้งไม่มีการแจ้ง ไม่ต้องการมวลชน ไม่ต้องการให้เสื้อสีไหน หรือนักการเมืองมาอยู่เบื้องหลัง เพราะเด็กเหล่านี้จะรู้สึกโกรธ หากมีคนมาวุ่นวายขณะทำกิจกรรม จึงอยากขอให้มองในแง่ดีว่า 10 ปีที่ผ่านมา สังคมของประเทศไทยแย่ลง สิ่งเหล่านี้จึงหล่อหลอมให้เด็กเหล่านี้สนใจทางการเมือง เพื่อให้เกิดประเทศในแบบที่อยากได้ ในแง่ของผู้ปกครองจึงอยากเรียกร้องขอให้ คสช.เข้าใจเด็ก เพราะนักศึกษาทั้ง 14 คนเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่ต้องการแสดงความเห็นที่พอจะทำได้ในสังคมที่เขาอยู่ โดยไม่ได้ทำลายความมั่นคงของใคร ขอสังคมให้โอกาสและพื้นที่เด็กเหล่านี้จะยังต้องเติบโตและเป็นอนาคตของชาติต่อไป เด็กไม่มีความผิดและไม่ได้สร้างความวุ่นวาย เป็นเพียงนักศึกษาแค่ 14 คน แต่ประเทศยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ขออย่าทำลายอนาคตของเด็กด้วยการยัดข้อหาทำลายความมั่นคง ซึ่งเป็นข้อหาที่เกินกว่าเหตุ เชื่อว่าสิ่งที่เด็กเหล่านี้ทำ ทำให้ตัวเขาเดือดร้อนแล้ว และไม่ทราบว่าความต้องการของแม่ที่จะให้ลูกได้ปล่อยตัวจะตรงกับ ความต้องการของนักศึกษาที่ถูกจับทั้งหมดหรือไม่ แต่เชื่อว่าคำตอบคือไม่ เพราะเด็กเหล่านี้ทำงานตามมติของกลุ่ม
ต่อมา ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านดงมูล จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอขอบคุณกลุ่มดาวดินที่ทำให้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงสิทธิของตัวเอง นำเอาความรู้ด้านกฎหมายมาสอนให้รู้จักสิทธิในสังคม ย้ำว่าไม่ใช่การปลุกระดมให้เกิดความปั่นป่วนในสังคม ขณะเดียวกันตั้งแต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น มีทหารเข้ามาพบชาวบ้านบ่อยมาก แต่ขอยืนยันว่าการกระทำของชาวบ้านเป็นไปเพื่อสิทธิไม่ใช่การปลุกระดม ซึ่งไม่ทราบว่าการเรียกร้องสิทธิของชาวบ้านเกี่ยวข้องกับการเมืองได้อย่างไร ขออย่ายัดเยียดให้เป็นเรื่องเดียวกัน การที่ชาวบ้านมีความผูกพันด้านจิตใจไปให้กำลังใจกลับถูกมองว่า เป็นการสนับสนุนในการทำความผิด ขอยืนยันว่า สิ่งที่ดาวดินทำเพราะรู้สึกอึดอัด แต่อาจจะเป็นความขี้ขลาดของชาวบ้านที่ไม่กล้าออกมาแสดงความเห็น เพราะการทำกิจกรรมในด้านสิ่งแวดล้อมถูกยัดเยียดเป็นการเมือง ถูกมองว่าทำลายความมั่นคงของชาติ แต่ขอให้มองด้วยว่ากลุ่มนายทุนได้มาทำลายการดำรงชีวิตของชาวบ้านกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่มีสิทธิไม่มีเสียง โดยบอกว่าคนกลุ่มเล็กๆ ควรเสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศทำให้ชาวบ้านรู้สึกเสียใจและรู้สึกว่า เป็นกลุ่มคนที่ไม่มีความหมายในสังคมเลย
ส่วนตัวแทนชาวบ้านจากกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดเหมืองทอง จ.เลย กล่าวว่า ข้าราชการไม่เห็นความสำคัญและผลกระทบจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทอง ดาวดินเข้ามาสอนมาดูแล มีจิตใจที่งดงามเกิดมาทำเพื่อประชาชน แต่ข้าราชการกลับไม่เห็นในสิ่งเหล่านี้ ทั้งๆที่เด็กเหล่านี้จบไปจะได้ทำงานที่ดี แต่กลับเสียสละเพื่อชุมชน ทำในสิ่งที่ไม่ดีเพียงนิดเดียวแต่กลับทำให้ติดคุก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี