5 ก.ค. นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) กล่าวถึงกระบวนการพิจารณาคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญจาก 9 กลุ่ม และความเห็นจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะจากประชาชน ว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้พิจารณาถึงมาตรา 96 แล้ว เป็นไปตามแผนที่วางไว้ พิจารณาเสร็จไปแล้ว 2 ภาค สัปดาห์หน้าเริ่มพิจารณาภาค 3 รัฐสภา โดยในภาพรวมแล้ว รู้สึกพอใจต่อพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นในแต่ละหมวด ส่วน หรือรายมาตรา สามารถสรุปให้เห็นภาพรวมได้ดังนี้
1.สมัชชาพลเมือง ได้บัญญัติไว้หนึ่งมาตราเป็นการเฉพาะ เป็นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ไม่ใช่องค์กรใหม่ดังที่เข้าใจกัน ไม่มีเงินเดือน ค่าตอบแทนใดๆ หากแต่เป็นการเปิดพื้นที่ครั้งใหญ่ของชาติบ้านเมือง เป็นพื้นที่สร้างความเป็นพลเมือง วัฒนธรรมประชาธิปไตย ความเข้มแข็งของชุมชน สังคมและประเทศชาติ นี่คือประชาธิปไตยของการมีส่วนร่วม ประชาธิปไตยท้องถิ่น ประชาธิปไตยจากจากฐานล่างจะรองรับการกระจายอำนาจจากส่วนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และเหมาะสม ในอนาคตอันใกล้นี้
2.สิทธิ เสรีภาพ และการมีส่วนร่วม ของชนชาวไทย และบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีถิ่นอาศัยในประเทศไทย ก้าวหน้ากว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมา และก้าวหน้ากว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว
3.สิทธิชุมชน มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้น มีการประเมินระดับยุทธศาสตร์ ควบคู่กับการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพ มีกลไกและเครื่องมือทางวิชาการ ที่อิสระเป็นกลางมาทำหน้าที่ปกป้องผลกระทบต่อชุมชน ทั้งในด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ
4.องค์การอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคมีสิทธิในการฟ้องดำเนินคดีแบบกลุ่มหรือ class action ได้ จะป้องกันความเสียหายครั้งใหญ่จากสินค้าที่ด้อยคุณภาพและบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
5. ชนชาวไทยมีสิทธิรวมตัวกันในการเฝ้าระวังและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ในทุกขั้นตอน ทุกพื้นที่ของประเทศอย่างเป็นระบบ
6. ชนชาวไทยมีสิทธิร้องขอข้อมูล ติดตามและตรวจสอบ ทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
7. แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจแบบเสรีและเป็นธรรม สร้างประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ เน้นการป้องกันการผูกขาดและการใช้อำนาจเหนือตลาดโดยไม่เป็นธรรม ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ส่งเสริมระบบสหกรณ์ จัดระบบการถือครองที่ดินและการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ตลอดจนยกระดับความสามารถในการแข่งขันในทุกภาคเศรษฐกิจ พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์อย่างบูรณาการ
8. สนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานหมุนเวียนทุกประเภท( พลังงานแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล น้ำ ) ให้เต็มศักยภาพ เนื่องจากสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งพลังงานในอนาคต และช่วยลดปัญหาด้านมลพิษ ที่เกิดจากการใช้พลังงานในปัจจุบัน
9.ให้ความสำคัญกับโครงสร้างหรือโครงข่ายขั้นพื้นฐานของกิจการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐที่จำเป็นหรือเพื่อความมั่นคงของรัฐ ไม่ให้เอกชนมีอำนาจครอบงำหรือตกเป็นกรรมสิทธิของเอกชน อีกทั้งมีสิทธิติดตามสาธารณะสมบัติของแผ่นดินคืนจากผู้ครอบครองโดยมิชอบ เพราะในอดีตที่ผ่านมาแม้มีคำสั่งของศาลให้คืนสมบัติของแผ่นดิน แต่การติดตามคืนเป็นไปด้วยความยากลำบาก
10. ส่งเสริมวัฒนธรมและศิลปะในทุกมิติทุกพื้นที่เพื่อให้เป็นรากฐานเอกลักษณ์ของชาติและท้องถิ่น พัฒนาคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมตลอดจนส่งเสริมการกีฬาเพื่อสุขภาพ คุณภาพชีวิตและเพื่อความเป็นเลิศในทุกระดับ นับเป็นครั้งแรกที่ให้ความสำคัญบัญญัติเรื่องวัฒนธรรมและศิลปะ ตลอดจนการกีฬาเป็นการเฉพาะไว้ในแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี