'ประสาร'อัด'เชิดชัย'ดันเหมาเข่ง ชงใช้ม.44นิรโทษผู้ชุมนุมสุจริต
วันอาทิตย์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558, 15.10 น.
Tag :
5 ก.ค. 58 นายประสาร มฤคพิทักษ์ สปช.ด้านการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ น.พ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการนิรโทษกรรมเหมาเข่งคดีอาญาและคดีอื่นๆ ทุกคดีว่า ข้อเสนอของ น.พ.เชิดชัย คงทำไม่ได้และไม่มีใครเอาด้วย เพราะการนิรโทษกรรมในขั้นตอนแรกควรขีดวงจำกัดเฉพาะผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองในฐานความผิดไม่ร้ายแรง เช่น กระทำความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคง) พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 (พ.ร.บ.จราจร) เป็นต้น ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน เป็นกลุ่มประชาชนที่ร่วมชุมนุมโดยสงบอย่างสุจริตใจ รวมถึงระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ ที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ส่วนคนต้องคดีอาญา คนสั่งการเผาบ้านเผาเมือง คนทุจริต คนผิดคดีหมิ่นสถาบัน ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องรับโทษทัณฑ์ และต้องสำนึกผิด จะมาห้อยโหนขอเป็นตู้ขบวนรถพ่วงไม่ได้ นพ.เชิดชัย ต้องก้าวไปให้พ้นเข่งอัปยศใบเดิมที่เรียกคนออกมาหลายล้านคนขับไล่รัฐบาลชุดที่แล้วออกไป
"ขอเสนอให้รัฐบาลใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ 2557 พิจารณาดำเนินการให้มีการนิรโทษกรรมประชาชนกลุ่มแรกที่เข้าร่วมชุมนุมโดยสุจริตใจ ถ้าทำได้เร็วตามแนวทางนี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่สังคมรับได้กว้างที่สุด จะเป็นสัญญาณทางบวก ทำให้เกิดความไว้วางใจว่า คสช.เอาจริงในความพยายามที่จะเปิดทางสู่การเดินหน้าปรองดองในขั้นต่อไป" นายประสาร กล่าว
นายประสาร กล่าวอีกว่า กรณีนี้เป็นการนำหลักความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านมาใช้ เป็นกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ เพราะการจะสมานฉันท์หรือเมตตาธรรมโดยทิ้งกฏหมายไปไม่ได้ ขณะที่จะใช้กฏหมายอย่างเข้มงวดกวดขันโดยทิ้งเมตตาธรรม ก็จะทำให้การปรองดองเดินหน้าได้ยาก ถือเป็นการอำนวยความยุติธรรม เพื่อเอื้อให้เกิดการสำนึกผิดและให้อภัย ทอดสะพานไปสู่สังคมสันติสุข ไม่คืนกลับไปสู่ความรุนแรงอีก แต่ก็ต้องเตรียมใจรับสภาพว่า การปรองดองไม่ใช่การบ่มแก๊สรมควันผลไม้ที่จะเร่งเวลาได้ เพราะมาตรการหนึ่งใด ไม่ใช่จะทำให้สำเร็จได้ฉับพลัน ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางสังคม เศรษฐกิจและการเมือง จึงต้องยอมให้เรื่องการปรองดองต้องใช้เวลาอีกยาวไกล