7 ก.ค.58 ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต จาก 250 คน เป็น 300 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จาก 200 คน เป็น 150 คน และปรับให้การเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นบัญชีเดียวทั้งประเทศ ว่า การปรับแก้ในเนื้อหาดังกล่าว ไม่กระทบต่อเจตนารมณ์ดั้งเดิมที่ได้มีการพิจารณาไว้แล้ว ซึ่งการแก้ไขรายมาตราที่ผ่านมาเป็นเพียงการปรับรายละเอียด โดย กมธ.ยกร่างฯ ได้พยายามนำทุกคำขอแก้ไขเพิ่มเติมมาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และรักษาเจตนารมณ์เดิมเอาไว้ เช่น ระบบเลือกตั้ง ส.ส.ที่คงระบบสัดส่วนผสมเพื่อให้ทุกคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชนมีค่า มีความหมาย และพรรคการเมืองได้รับจำนวน ส.ส.ที่ตรงตามเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน โดยยืนยันว่าเจตนารมณ์เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง ส.ส.คือ ทุกคะแนนเสียงประชาชนมีความหมาย และพรรคการเมืองมีความหมาย ได้จำนวน ส.ส.ตรงตามคะแนนนิยม
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้การลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นไปโดยลับนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นข้อเสนอส่วนบุคคล ซึ่งการจะใช้วิธีการใดต้องยึดข้อบังคับการประชุม สปช.แต่ที่ผ่านมาการลงมติในร่างรัฐธรรมนูญก็ใช้การโหวตโดยเปิดเผย ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการลงมติร่างรัฐธรรมนูญควรเป็นไปตามข้อบังคับและยึดถือตามประเพณีปฏิบัติที่เคยเป็นมา และมองด้วยว่าโดยพื้นฐานเชื่อมั่นในวิจารณญาณของสมาชิก สปช.ที่จะใช้วิจารณญาณพิจารณาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด ตนเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่มีการปรับแก้และเสนอให้ที่ประชุมสปช.พิจารณาอย่างเป็นทางการ เมื่อสมาชิก สปช.เห็นจะเกิดการยอมรับ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนจะไม่ขอก้าวก่ายการตัดสินใจหรือสิทธิ์การแสดงความเห็นของสมาชิก สปช.
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า การกำหนดให้ สปช.ที่ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญเข้ารับฟังการชี้แจงรายละเอียดของการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ยังไม่ได้กำหนดเพราะต้องดูการทำงานและช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อน โดยก่อนหน้านี้ทาง กมธ.ยกร่างฯ ได้ทำหนังสือถึง นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.เพื่อให้พิจารณาในสองประเด็น คือ ส่งสมาชิก สปช.ให้เข้าร่วมเป็นอนุกรรมาธิการพิจารณายกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูป และการเชิญผู้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมมารับฟังรายละเอียดของการปรับแก้ ขณะที่ในส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะเชิญมาในฐานะผู้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี