2 ส.ค.58 นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการเมือง กล่าวถึงข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่กลับมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ว่า ตนเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องดังกล่าว เพราะการเลือกตั้งสำหรับเมืองไทย จะได้นักเลือกตั้งเข้ามาครองเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่พ้นจากทุนและระบบอุปถัมภ์ จึงเป็นกลุ่มคนที่เสพติดอำนาจมากกว่าจะมุ่งมั่นปฏิรูป อย่างเก่งก็ได้แค่หว่านโปรยนโยบายประชานิยม เพื่อคืนสู่อำนาจซ้ำอีก แถมเป็นนโยบายที่สร้างปัญหาระยะยาวให้กับประเทศไทย เช่น นโยบายรถคันแรก นโยบายจำนำข้าว เป็นต้น ดังนั้น การปฏิรูปก่อนเลือกตั้งต้องทำความกระจ่างต่อสังคมให้ได้ว่าในระยะเวลาที่แน่นอน จะต้องการให้เกิดผลรูปธรรมระดับไหน ต้องเข้าใจว่าการปฏิรูปไม่อาจเกิดผลได้ฉับพลัน เพราะมันไม่ใช่การเปิดปิดสวิทช์ไฟ ไม่ใช่การบ่มมะม่วง แต่เป็นงานเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ซับซ้อน หลากหลายมิติ ยากลำบากและใช้เวลา
"การปฏิรูปก่อนเลือกตั้งจึงต้องสร้างสมดุลให้ได้ระหว่างเนื้องานปฏิรูปที่เป็นจริง ซึ่งต้องการให้เกิดกับวันเวลาตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่อาจยืดหยุ่นได้ แต่ควรเป็นที่ยอมรับของสาธารณะ การตั้งคำถามเรื่องนี้ควบไปกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เป็นทางออกอย่างหนึ่ง" นายประสาร กล่าว
นายประสาร กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอให้สมาชิก สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อยืดอายุ คสช.ว่า ไม่เห็นด้วย เพราะการจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบต่อร่างรัฐธรรมนูญ ควรพิจารณาจากบทบัญญัติ ถ้าดีก็รับ ถ้าไม่ดีก็ไม่รับ การเอาไปผูกโยงกันอย่างนั้น แปลว่าไม่ไยดีกับเนื้อหา ไม่ต้องมองเหตุมองผลเป็นวิธีคิดที่ไม่เป็นธรรมต่อบทบัญญัติ และไม่ยุติธรรมต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ในเมื่อรัฐธรรมนูญเป็นอนาคตเป็นชะตากรรมของประเทศชาติ จึงต้องการวิจารณญาณที่มีภูมิปัญญา และใช้วุฒิภาวะ และถ้า สมาชิก สปช.คว่ำร่างฉบับนี้ คสช.จะต้องตั้งกรรมการยกร่างขึ้นมาใหม่ รวม 21 คน ทำร่างใหม่ให้เสร็จภายใน 6 เดือน มีใครประกันได้ว่าร่างใหม่จะวิเศษกว่าร่างนี้
"ผมถือหลัก 80 : 20 ถ้า 80 รับได้ อีก 20 ยังขัดใจผมอยู่ ผมจะลงมติเห็นชอบผมจะดูส่วนทั้งหมดไม่ใช่ดูเฉพาะส่วน ดูป่าทั้งป่า ไม่ใช่ดูเพียงต้นอุตพิด 5 ต้น ผมว่าไม่มีผู้วิเศษคนไหนที่ร่างรัฐธรรมนูญได้ถูกใจทุกคนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เราต่างได้ในบางเรื่อง ไม่ได้ในบางอย่างด้วยกันทั้งนั้น" นายประสาร กล่าว
นายประสาร กล่าวว่า ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เท่าที่ตนสำรวจดูแล้ว มีบทบัญญัติเรื่องสิทธิชุมชน สิทธิเสรีภาพของประชาชนกระจายอยู่ทั่วไปแทบจะทุกเรื่อง ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข สังคม สตรี คนด้อยโอกาส ผู้บริโภค พลังงาน ศิลปวัฒนธรรม แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รวมทั้งสมัชชาพลเมืองยังอยู่ในมาตรา 27 ที่จะมี พ.ร.บ.ออกมารองรับด้วยเพื่อให้ประชาชนมีความชอบธรรมในการร่วมกำหนดนโยบายสาธารณะและตรวจสอบภาครัฐได้จริง แม้ว่าจะตัดสมัชชาคุณธรรมและสภาตรวจสอบภาคพลเมืองออกไปก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี