‘เทียนฉาย’โยนรัฐบาล
ตัดสินใจเอง
ปมปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
ไฟเขียว‘สปช.’ชงตั้งคำถาม
‘ไพบูลย์’เริ่มล่ารายชื่อหนุน
คสช.หวั่นเพิ่มความขัดแย้ง
‘บิ๊กตู่’เตือน‘เทือก’อย่าผิดกฎ
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดตัวมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ว่า “เกี่ยวอะไรกับตน เป็นเรื่องของมูลนิธิ ก็ทำไป แต่อย่าทำผิดกฎหมาย เพราะตนมีหน้าที่รักษากฎหมาย รักษากติกาด้วยกฎหมายตัวเดียวกัน ฉบับเดียวกันทั้งหมด ดังนั้นอย่าระรานกันอย่าพูดจาเสียหาย ไม่เฉพาะพวกนี้ แต่ที่ตนพูดหมายถึงทุกพวกขอให้จำไว้ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) บางส่วนสนับสนุนให้สปช.ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งว่า ไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้คิดแต่เรื่องงาน “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” อย่างไรก็ตามการที่สปช.จะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ตนไม่ได้ไปควบคุม รัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 เขียนเอาไว้ว่าอย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น ดังนั้นไม่ต้องกังวล อย่าเอาอะไรตีกัน อะไรที่ดีก็ว่ากันไป อะไรที่มีปัญหาก็ถกแถลงกันไป ส่วนอะไรที่จะต้องแก้ไขก็แก้กันไป ขอให้เบาๆบ้าง เพราะสิ่งดีๆกำลังจะเกิด
ลั่นรธน.เขียนยังไงก็ทำตามนั้น
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ และอดีตหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ที่เสนอให้คสช.อยู่ต่อจนกว่าจะปฏิรูปเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะอยู่ได้อย่างไร ก็ไปหามา รัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไรก็ตามนั้น ขอให้ไปอ่านรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวให้เข้าใจ
“บิ๊กต๊อก”รับหลักการตรงกปปส.
ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีข้อเสนอของมูลนิธิกปปส.ให้มีการปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จก่อนจัดการเลือกตั้งว่า วันนี้ไม่มีใครตอบได้ไม่ใช่หรือว่า การปฏิรูปจะไม่เป็นไปตามโรดแม็ป และโรดแมปที่นายกรัฐนตรีพูดก็คือการปฏิรูป คิดว่าจะใช้ระยะเวลาตามโรดแม็ป ดังนั้นสิ่งที่กลุ่มกปปส.เสนอว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง หลักการก็ตรงกันอยู่แล้ว
“ในเมื่อการปฏิรูปของนายกฯยังไม่จบสิ้น แล้วจะรู้ได้อย่างไรจะปฏิรูปไม่สำเร็จในระยะเวลาตามโรดแม็ป และมีอะไรบ่งชี้ว่าการปฏิรูปจะไม่สำเร็จตามโรดแม็ป ต้องตอบตรงนี้เสียก่อน นายกฯเองก็ต้องบอกว่ากำลังปฏิรูปอยู่”พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
หวั่นเกิดชนวนความขัดแย้งอีก
เมื่อถามว่า ขณะที่กลุ่มการเมืองอีกฝ่าย ตีความว่าข้อเสนอของกลุ่มกปปส.จะส่งผลให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า แต่ละฝ่ายก็คิดได้ เช่น กลุ่มนปช.ก็ต้องบอกว่าต้องเลือกตั้ง เพราะนายกฯพูดโรดแมปไว้อย่างนี้ กลุ่มกปปส.บอกว่าไม่ได้ โรดแมปต้องขยายออกไป ถ้าการปฏิรูปไม่สำเร็จ แน่นอนความขัดแย้งต้องตามมาแน่ ต้องทำความเข้าใจว่า อะไรคือสิ่งที่ต้องว่ากันต่อไป หรือเอาตามนั้นไม่สนใจการปฏิรูป เมื่อโรดแมปบอกไว้แล้ว 2 ปีต้องมีการเลือกตั้ง
“วันชัย”ปูดการเมืองล็อบบี้ผ่านรธน.
ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสปช.กล่าวว่าสปช.จังหวัดให้ข้อมูลว่ามีการเคลื่อนไหวจากนักการเมืองจะให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ได้เตรียมการประสานกับชาวบ้าน บรรดาหัวคะแนนเตรียมแผนเลือกตั้ง พยายามชี้ให้ประชาชนเห็นว่า ประชาชนไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง ไม่มีตัวแทนแก้ปัญหาความทุกข์ยาก ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาของชาวบ้านได้ ทางฝ่ายการเมืองจึงประสานให้สปช.หลายจังหวัดช่วยโหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญ
แฉปลุกไม่เอาคสช.ต้องเลือกตั้ง
นายวันชัย กล่าวอีกว่า สปช.ต่างจังหวัดบางคนได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเรื่องการทำประชามตินั้น ฝ่ายการเมืองที่ต้องการเร่งให้เลือกตั้ง ยืนยันว่าสามารถคุมคะแนนให้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติได้ โดยจะสร้างกระแสในการทำประชามติว่า “ถ้าไม่เอาคสช. ต้องการเลือกตั้ง ให้โหวตรับรัฐธรรมนูญ” จะเป็นสโลแกนสำคัญในการรณรงค์ทำประชามติ เพื่อให้รัฐธรรมนูญผ่าน พร้อมมีการให้ข้อมูลผ่านหัวคะแนนและนักการเมืองท้องถิ่นในแง่ร้ายต่อคสช.ว่า เล่นงานเฉพาะฝ่ายตรงข้าม เล่นพรรคเล่นพวกในการแต่งตั้งโยกย้าย การเลือกตั้งเท่านั้นที่จะแก้ปัญหานี้ได้
เดินหน้าชูปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
“ถ้าการปฏิรูปประเทศยังไม่เสร็จ การแก้ปัญหาความขัดแย้งยังไปไม่ถึงไหน แล้วปล่อยให้มีการเลือกตั้ง วังวนแห่งความชั่วร้ายคงจะกลับมาในประเทศนี้อีกเหมือนเดิม การปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมาก็ล้มเหลว คสช.ควรจะแก้ปัญหาทุกเรื่องที่เป็นเหตุของการรัฐประหารให้เสร็จสิ้น แล้วจึงเข้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ ไม่เช่นนั้น จะเข้าทางของฝ่ายการเมืองที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้”นายวันชัย กล่าว
‘เทียนฉาย”รับตกใจข่าวคว่ำรธน.
ส่วนนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ เรียกร้องให้สมาชิกสปช.โหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปิดทางให้รัฐบาลทำงานปฏิรูปต่อให้สำเร็จว่า รู้สึกตกใจเมื่อเห็นพาดหัวข่าวแต่พออ่านรายละเอียดก็ไม่กังวลแล้ว เพราะเป็นความเห็นของนายวันชัยเพียงคนเดียว ไม่ใช่เป็นของสปช.ทั้งหมด
โยนครม.ชี้ขาดถามปฏิรูปก่อน
ส่วนกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสปช. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะล่ารายชื่อสมาชิกสปช.เพื่อสนับสนุนให้ตั้งคำถามควบคู่ไปกับการทำประชามติว่าจะปฏิรูปประเทศ 2 ปีก่อนเลือกตั้งหรือไม่ว่า ก็สามารถเสนอได้ ถือเป็นสิทธิ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าลืมว่าสมาชิก สปช.อีก 200 กว่าคนก็มีสิทธิเสนอคนละ 1 คำถามเช่นกัน
“โดยหลักต้องมาเสนอผ่านที่ประชุม สปช.ว่าใครจะเสนอหรือไม่ เสนออะไร เรื่องล่าชื่อนั้นไม่แปลก แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าจะเอาด้วยหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ สปช.เสนอได้ แต่รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ”นายเทียนฉายกล่าว
‘ไพบูลย์’ลุยล่ารายชื่อชงต่ออายุ
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิก สปช. กล่าวว่า ตนยังยืนยันที่จะเสนอต่อที่ประชุมสปช.ให้ตั้งคำถามการทำประชามติให้มีการปฏิรูปประเทศเป็นเวลา 2 ปีก่อนแล้วจึงจัดการเลือกตั้ง โดยวันที่ 3 ส.ค.นี้ ตนจะขอให้สมาชิกสปช.ที่เคยเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวร่วมลงลายมือชื่อเพื่อสนับสนุน ส่วนคนคัดค้านก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ข้อเสนอดังกล่าวเราทำตามความเรียกร้องของประชาชนที่มีความต้องการเช่นนั้น
เตรียมเสนอแก้ร่างรธน.รองรับ
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า หากข้อเสนอปฏิรูปประเทศ 2 ปีก่อนให้มีการเลือกตั้ง ถูกนำไปเป็นคำถามในการทำประชามติและผ่านความเห็นชอบจากเสียงข้างมากของประชาชน ก็ต้องมีผลตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 37/1 ที่กำหนดให้กมธ.ยกร่างฯดำเนินการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับผลการทำประชามติ ซึ่งตนจะเสนอให้ปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของบทเฉพาะกาล มาตรา 277 (1 ) โดยแก้ไขให้เป็นว่าเมื่อครบกำหนด 2 ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ให้ดำเนินการเลือกตั้งส.ส.ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน แต่ถ้าผลการทำประชามติออกมาว่าประชาชนเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการปฏิรูป 2 ปี ก่อนเลือกตั้งก็ดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น
กมธ.ชี้เป็นความต้องการปชช.
นายสุจิต บุญบงการ กรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าข้อเสนอปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งนี้ไม่ได้มาจากความคิดของคสช. แต่มาจากความต้องการประชาชน ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมามีคนมาพูดอย่างไม่เป็นทางการถึงข้อเสนอนี้ค่อนข้างมาก เพราะประชาชนส่วนหนึ่งยังไม่วางใจว่าหลังการเลือกตั้งแล้วรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะสามารถปฏิรูปประเทศสานต่อตามแนวทางที่ได้วางเอาไว้หรือไม่
‘ประสาร’หนุนปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสปช. ด้านการเมือง กล่าวเห็นด้วยกับข้อเสนอให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งไม่อย่างนั้นเราก็จะกลับไปสู่วังวนเดิมๆอีก แต่เงื่อนไขการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งก็ต้องทำความกระจ่างต่อสังคมให้ได้ว่าในระยะเวลาที่แน่นอน จะต้องการให้เกิดผลรูปธรรมระดับไหน และต้องสอดรับกับวันเวลาโรดแมปของ คสช.ที่อาจยืดหยุ่นได้ แต่ควรเป็นที่ยอมรับของสาธารณะ การตั้งคำถามเรื่องนี้ควบไปกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เป็นทางออกอย่างหนึ่ง
ค้านคว่ำร่างรธน.ยืดอายุคคสช.
ส่วนข้อเสนอให้สมาชิก สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อยืดอายุ คสช.นั้น นายประสาร กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะการจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบต่อร่างรัฐธรรมนูญ ควรใช้วิจารณญาณที่มีภูมิปัญญาและใช้วุฒิภาวะพิจารณาจากบทบัญญัติ ถ้าดีก็รับ ถ้าไม่ดีก็ไม่รับ การเอาไปผูกโยงกันอย่างนั้น แปลว่าไม่ไยดีกับเนื้อหาและไม่ยุติธรรมต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งตนเห็นว่าไม่มีผู้วิเศษคนไหนที่ร่างรัฐธรรมนูญได้ถูกใจทุกคนแบบ100เปอร์เซ็นต์
‘ดิเรก’สะกิดบิ๊กตู่อย่าหลงคำยอ
ในขณะที่นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิกสปช.จ.นนทบุรี กล่าวถึงกระแสข่าวว่ามีสปช.สายต่างจังหวัดได้รับการประสานจากฝ่ายการเมือง ให้โหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่เห็นมีใครติดต่อมาหาเลย ตนคิดว่าร่างรธน.จะผ่านหรือไม่ผ่านขึ้นกับเนื้อหามากกว่า อย่างที่มานายกฯคนนอก ที่มาสส.-สว.ถอยหลังลงคลองแบบนี้ตนรับไม่ได้อยู่แล้ว
“ส่วนที่มีการเสนอให้ปฏิรูปอีก 2 ปีก่อนเลือกตั้งนั้น ถ้ารากฐานรัฐธรรมนูญวางไม่ถูกทาง อยู่ต่อปฏิรูปไปอีก 5 ปี ก็ไม่ดีขึ้น ซึ่งควรทำตามโรดแม็ปเหมาะสมที่สุดแล้ว ดังนั้นขอให้นายกฯอย่าหลงคำสรรเสริญเยินยอมาก ปรึกษากับทีมงานให้ดีว่าจะไม่สนใจแรงกดดันทั้งในและต่างประเทศได้หรือไม่ประชาชนจะแย่จากผลกระทบด้านเศรษฐกิจหรือไม่”นายดิเรก ระบุ
อุเทน”แนะดึงคนคิดเป็นช่วยงาน
ส่วนนายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของไทยว่า
โดยภาพรวมทั้งหมดแล้วน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งทั้งตัวเลขการส่งออกที่ลดลง การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี)ของปีนี้เหลือเพียง 3% จากที่ก่อนหน้านี้ก็เคยปรับลดมาแล้วสะท้อนให้เห็นว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลดำเนินนโยบายผิดพลาดมาอย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมาผมเคยเสนอนายกฯปรับครม.โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ให้นำคนที่ดิดได้และทำได้จริงเข้ามาทำงาน แต่เมื่อเห็นรายชื่อแคนดิเดตที่ออกมาในขณะนี้ก็ไม่เชื่อว่าจะสามารถเข้ามากอบกู้วิกฤติได้ จึงอยากฝากไปถึงนายกฯว่า ต้องนำคนที่คิดได้ทำเป็น และคิดเป็นได้เข้ามา และหากมีการปรับตัวบุคคลแล้ว ก็จำเป็นต้องปรับแนวนโยบายควบคู่กันไปด้วย มิเช่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นโดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐต้องเลือกใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและลดต้นทุนการผลิตในประเทศ ซึ่งจะเป็นทางรอดของวิกฤติในตอนนี้ ทั้งยังช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนได้ด้วย” นายอุเทน ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี