3 ส.ค. 58 เมื่อเวลา 17.00 ที่กรมยุทธศึกษาทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการเคลื่อนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูป ว่า ตนก็ดีใจที่แต่ลุกลุ่มมีความเข้าใจรัฐบาล พร้อมทั้งมีความปราถนาดี เราก็ดีใจ ซึ่งทุกสิ่งทุดอย่างทางนายกรัฐมนตรีได้บอกแล้วว่าทุกกลุ่มก็ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และข้อเสนอที่ดี ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งต่างๆที่ไม่ดีต้องพยายามทำความเข้าใจ เพื่อปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ก็ขอให้แต่ละกลุ่มมีความสบายใจ ซึ่งตนมองว่าถ้าออกมาในแนวทางที่ดี มีความเข้าใจกัน สนับสนุนกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าถ้ารัฐบาล และคสช.ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องทุกก็กลุ่มสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ถ้าหากมีสิ่งใดที่ต้องแก้ไข เพราะเราพร้อมยอมรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ อีกทั้งตนได้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง อะไรที่มีข้อบกพร่อง ก็สามารถเสนอแนะมาได้เสมอ เพื่อนำเอาข้อเสนอเข้ามาสู่ระบบการประชุมหารือ ว่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร ถ้าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของแต่ละกลุ่ม เราจะดูว่าอยู่ในกรอบหรือไม่ ถ้าเกินกรอบที่คสช.กำหนด เราก็จะใช้วิธีการพูดคุยกันต่อไป
พล.อ.อุดมเดช กล่าวถึงกระแสข่าวที่คสช.ให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของนายสุเทพว่า ตนไม่ได้มองเช่นนั้น เพราะยังมีอีกหลายกลุ่มที่มีแนวคิดต่างๆ ถ้าดีก็ดี ถ้าอะไรที่ไม่ดีก็จะพูดคุยทำความเข้าใจกัน ซึ่งคสช.ก็ได้ทำแบบนี้มาตลอด ประกอบกับปัจจุบันในภาพรวมก็ได้รับความร่วมมือกับทุกกลุ่ม แต่อาจจะมีบางช่วงบางตอนที่ไม่เข้าใจกันก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจ ก็จะส่งผลให้ภาพรวมของประเทศชาติอาจถูกมองในแง่ไม่ดีได้ และที่ผ่านมาก็ได้มีการตักเตือนกันไป ตนก็ขอขอบคุณที่กลุ่มต่างๆเข้าใจ และให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ตนขอเน้นว่าการทำงานของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ยังดำเนินการอยู่ ในขณะเดียวกันก็จะมีการจัดเวทีให้ร่วมแสดงวามคิดเห็นได้ อย่างไรก็ตามเราพยายามดำเนินการตามแผนงานที่ได้ผลดีพอสมควร เพราะส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ก็ไปเข้าไปเยี่ยมเยียมทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปอยู่เสมอ เพื่อรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ของประชาชนด้วย เพราระชาชนบางส่วนอาจไม่สะดวกมาร่วมแสดงความคิดเห็นในเวทีศปป. ทั้งนี้ยังมีประชาชนบางกลุ่มที่ถูกชักนำไปในทางที่ไม่ดีทหารก็จะเข้าไปทำความเข้าใจพูดคุย ชี้แจงว่าสิ่งที่ทำนั้นดีหรือไม่ดี อย่างไร
เมื่อถามว่า จะเสนอให้ทุกกลุ่มนำข้อเสนอแนะไปที่ศปป.ดีกว่าอกมาแสดงความคิดเห็นกันเอง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า จริงๆแล้วเรามีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ได้คัดเลือกมาตามลำดับ โดยมีผู้แทนแต่ละจังหวัด เพื่อทำให้ประชาชนในพื้นที่สามารถส่งข้อคิดเห็นมาให้ผู้แทนสปช. ก็เป็นออีกช่องทางหนึ่ง พร้อมทั้งยังมีเวทีของศปป.ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ อย่างไรก็ตามตนคิดว่าจะเป็นเรื่องการให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาล และคสช.รับฟังความคิดเห็นของประชาชน อีกทั้งย้ำว่าเรารับฟังจริงๆไม่ใช่รับฟังมาเฉยๆ ถ้าอะไรที่เป็นประโยชน์รัฐบาลก็จะนำไปสานต่อได้
เมื่อถามถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มนปช.ออกมาแสดงความคิดเห็นว่ารัฐบาล และคสช.เลือกปฏิบัติอย่างสองมาตรฐาน เลขาธิการคสช. กล่าวว่า "ขอให้มั่นใจเถอะครับ เรารูอยู่แล้วสิ่งต่างๆจะออกมาแบบนี้ ฝ่ายความมั่นคงก็ระมัดระวัง เพราะฉะนั้นถ้าอะไรไม่เกินกรอบ และแสดงความเห็นที่ไมม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่นำเอามวลชนออกมาชุมนุม ที่อาจให้สถานการณ์บานปลาย ซึ่งถ้ามามาในลักษระนั้นทางเจ้าหน้าที่คงจำเป็นต้องออกไประงับไม่ให้กลุ่มตต่างดำเนินการ ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่ปรากฎเช่นนั้น ผมก็ให้กลุ่มอื่นๆสบายใจได้ ว่าฝ่ายความมั่นคงให้ความเท่าเทียมกัน
เมื่อถามถึงสปช. และนายสุเทพ ออกมาแสดงความคิดเห็นให้ปฏรูปกก่อนการเลือกตั้ง อาจส่งผลให้คสช.ขยายโรดแมป พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็เป็นปตามรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 โดยความคิดเห็นดังกล่าวเป็นมุมมองส่วนตัวของแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้เราจะมีขั้นตอนว่าจะรับหรือไม่รับความคคิดเห็นดังกล่าว แต่ว่าทางนายกรัฐมนตรียืนยันเสมอว่าต้องเป็นไปตามโรดแมป แต่บางช่วงอาจมีการปรับระยะเวลา เนื่องจากอาจมีเหตุการณ์บางประการ อย่างไรก็ตามทุกคนพยายามอย่างยิ่ง และดำเนินการให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า โรดแมปดังกล่าวจะขยายเวลาไปเป็นปี 2560 เลขาธิการ คสช. กล่าวว่า "ต้องไปบวกลบคูณหาร วันเวลากันอย่างละเอียด ถ้าผมบอกไปมันอาจจะคาดเคลื่อนได้"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี