ศาลฎีกายืนคุก1ปี6เดือน
เอ๋-ชนม์สวัสดิ์
ปิดฉาก16ปีคดีโคตรโกง
นำบัตรผียัดหีบเลือกตั้งปากน้ำ
ราชทัณฑ์นำตัวเข้าเรือนจำทันที
ทนายเตรียมยื่นเรื่องขอพักโทษ
ส่วนอดีตรองนายกอบจ.หนีคดี
ยังเจอโทษตัดสิทธิอีกคนละ4ปี
ที่ห้องพิจารณาคดี 7 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อบ่ายวันที่ 4 สิงหาคม ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดำเลขที่ อ.10182/2545 คดีแดง อ.3579/2549 โดยคำพิพากษาศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เป็นเวลา 1ปี 6 เดือนโดยไม่มีการรอลงอาญา ในคดีทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ
คดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชนม์สวัสดิ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายปิติชาติ ไตรสุรัตน์ อดีตรองนายก อบจ.สมุทรปราการ( ขณะดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการ) เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เป็นเหตุให้การจัดการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยเรียบร้อยบริสุทธิ์และยุติธรรมตามกระบวนการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย และปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ
มูลเหตุในคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค.2542 เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ โดยมีผู้สมัคร 2 กลุ่ม คือกลุ่มปากน้ำ 2000 ของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม บุตรชายนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย และกลุ่มเมืองสมุทร ของนายประสันต์ ศีลพิพัฒน์ มีช่างภาพทีวีสามารถจับภาพชายลึกลับกำลังนำบัตรเลือกตั้งผีมาใส่หีบบัตร ต่อมา นายประสันต์ ศีลพิพัฒน์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า การเลือกตั้งมีการทุจริต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการ และอัยการสั่งฟ้องคดีจำเลยทั้ง 2 เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2545 ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาล พ.ศ.2482 การกระทำของจำเลยทั้งสองตามฟ้องมีเจตนาเพียงอย่างเดียวคือไม่จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย จึงถือเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้บทลงโทษหนักที่สุด สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ลงโทษจำคุก 4 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลรักษาเอกสารกระทำการปลอมเอกสารให้จำคุก 6 ปีกับให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยทั้งสองมีกำหนดเวลาคนละ 4 ปี ริบของกลาง ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ และยื่นอุทธรณ์
ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 ปี เพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งจำเลยทั้งคู่เป็นเวลา 4ปี ในส่วนศาลฎีกา ได้พิเคราะห์สำนวนอย่างละเอียดแล้ว มีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 มีการอ่านคำพิพากษาลับหลังเนื่องจากหลบหนี ให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษ และให้ถอนสิทธิการเลือกตั้งจำเลยทั้งสองคนละ 4 ปี
หลังเสร็จสิ้นคำพิพากษาศาลฎีกา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดสมุทรปราการได้เข้าควบคุมตัวชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม จำเลยที่ 1 ทันที เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษจำคุก ตามคำพิพากษาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับเป็นการนัดหมายคดีในชั้นศาลฎีกาครั้งที่ 6 หลังจาก ครั้งที่ 5 และครั้งก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 1 และ 2 ผลัดกันขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษา กระทั่งการนัดหมายครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชนม์สวัสดิ์ ได้เดินทางมาที่ศาล แต่นายปิติชาติไม่มาศาล โดยแจ้งเหตุขัดข้องเรื่องความเจ็บป่วยแต่ไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดง ศาลจึงสั่งให้ออกหมายจับ นายปิติชาติ เนื่องจากเคยกำชับแล้วว่า คดีนี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษามาหลายครั้ง และขอให้จำเลยทั้งสองหลีกเลี่ยงการไม่มาตามนัดศาล
ก่อนอ่านคำพิพากษาคดี นายชนม์สวัสดิ์ได้เดินทางด้วยรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1 กจ 1 สมุทรปราการ พร้อมทนายความส่วนตัว เพื่อมาฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง มีสื่อมวลชนมารอทำข่าวกันแน่นขนัด โดยนายชนม์สวัสดิ์ เดินลงจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องพิจารณาคดี และหลังฟังคำพิพากษาถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญาแล้วจึงถูกนำตัวส่งเรือนจำ
สำหรับ นายชนม์สวัสดิ์ หรือ”เอ๋”เพิ่งถูกสั่งพักงานในตำแหน่งนายก อบจ.สมุทรปราการ ตามคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2558 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.58 จากกรณีความไม่โปร่งใสในการเบิกจ่ายงบประมาณในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
ด้านนายจำเริญ วราภรณ์ ทนายความจำเลย กล่าวว่า นายชนม์สวัสดิ์ก็ต้องรับโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาก่อน ส่วนเรื่องการขออภัยโทษ หรือจะขอพักโทษ จะทำได้หรือไม่ ก็ต้องดูข้อกฎหมาย และกำหนดข้อกฎหมายอีกครั้งว่า จะสามารถดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับนายชนม์สวัสดิ์ มากนัก เพราะหลังจากฟังคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวไว้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี