‘วันชัย’ชี้4จุดอันตราย
ยำร่างรธน.
ประกาศลุย‘ปลุกคว่ำ’
‘สมบัติ’ซัดปล่อยผ่านไม่ได้
กมธ.โดดอุ้มกก.ยุทธศาสตร์
ยันไม่ได้เปิดช่องรัฐประหาร
ครม.ใหม่ถวายสัตย์ฯเริ่มงาน
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ให้สัมภาษณ์ถึงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญภายหลังจากคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่งมอบร่างให้กับสมาชิกสปช. เพื่อพิจารณาศึกษาภายใน 15 วัน ก่อนทำการโหวตในวันที่ 6 กันยายนนี้ ว่า เท่าที่ได้อ่านและพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแล้วเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้อย่างแท้จริง และก็ยังไม่สามารถที่จะทำการปฏิรูปประเทศได้ต่อไป ทั้งยังเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่มีเนื้อร้ายสอดแทรกอยู่ อันจะก่อให้เป็นพิษ เกิดวิกฤติต่อประเทศในอนาคต
ไม่มั่นใจทำให้เลือกตั้งยุติธรรม
นายวันชัยกล่าวว่า เท่าที่ดูจากเนื้อหาสาระหลักใหญ่ใหญ่แล้วเห็นได้ ดังนี้ 1.ยังไม่มีกลไกที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว จะทำให้มีการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม สามารถป้องกันการทุจริตซื้อสิทธิขายเสียงได้ ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ในรัฐธรรมนูญที่จะทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจะได้คนดีเข้าสภา และสกัดคนชั่วไม่ให้เข้าสภาได้ 2.ยังไม่มั่นใจในกลไกป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น และการใช้อำนาจรัฐที่ฉ้อฉลว่าจะใช้ได้ผล เพราะดูจากร่างแล้วยังไม่เห็นความเข้มข้นในรัฐธรรมนูญว่าจะป้องกันและปราบปรามได้จริง
นายวันชัยกล่าวต่อว่า 3.ระบบการเลือกตั้ง สส. เป็นแบบสัดส่วนผสม จะทำให้เกิดรัฐบาลอ่อนแอ ไม่สามารถจะแก้ปัญหาของประเทศในภาวะเช่นนี้ได้ ซ้ำร้ายระบบการได้มาซึ่ง สว.ก็เป็นแบบเดิมที่มีปัญหาความขัดแย้ง เป็นเป็ดง่อย ก็ยังเอากลับมาใช้เหมือนเดิม คงจะมีปัญหาและสร้างปัญหาต่อไป
ซัดศปป.เนื้อร้ายก่อวิกฤติปท.
และ 4.คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) เป็นนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ ดูเหมือนต้องการจะให้มีฤทธิ์มีเดช และมีอำนาจพิเศษในการปฏิรูปและสร้างความปรองดอง มีเจตนาดี แต่ถ้าพิจารณาจากร่างรัฐธรรมนูญแล้ว เชื่อว่าตรงนี้จะเป็นเนื้อร้ายที่สร้างพิษก่อวิกฤติให้กับประเทศ เพราะนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งจะไม่เอาด้วย ยิ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ คสช. จะหาทางทำลายและแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ หรือไม่ก็ขัดแข้งขัดขาทำให้การทำงานของกรรมการยุทธศาสตร์ไปไม่ถึงไหน
ชี้กมธ.เขียนร่างรธน.เอาใจคสช.
“ไปๆ มาๆ ก็จะไม่มีราคาค่างวด ยิ่งนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมเสียเอง ก็จะคุม ผบ.เหล่าทัพและตำรวจเสียหมด กรรมการยุทธศาสตร์จะทำอะไรได้ ถ้าผมเป็น คสช.พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว คงไม่เอาด้วยกับ ศปป.
เป็นแน่ เพราะสถานการณ์ตอนนั้นกับตอนนี้ย่อมไม่เหมือนกัน ตอนนี้มีอำนาจตอนนั้นอาจไม่มีก็ได้ กมธ.ยกร่างฯ เขียนไว้เหมือนเอาใจให้ คสช.ทำการปฏิรูปและสร้างความปรองดองต่อไป แต่ถ้าพิจารณาให้ถ่องแท้แล้วอาจจะสร้างความช้ำใจและความผิดหวังให้กับ คสช.ในอนาคตก็ได้” นายวันชัย กล่าว
ประกาศคว่ำร่างรธน.แน่นอน
นายวันชัยกล่าวอีกว่า การตัดสินใจในการโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของ สปช.ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ไม่ใช่เป็นการดูแต่ร่างรัฐธรรมนูญว่าดีหรือไม่ดีเท่านั้น แต่เป็นการโหวตตัดสินใจต่อการรับผิดชอบในการแก้ปัญหาของประเทศเพื่อให้ประเทศเดินต่อไป
“ด้วยเหตุดังกล่าว ผมยังยืนยันว่าไม่อาจจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ และในวันที่ 24 นี้ กมธ.ปฏิรูปการเมืองฯ และกมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และสปช.อีกหลายคนจะได้ร่วมกันพิจารณา วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญนี้โดยละเอียด พร้อมแถลงให้สาธารณชนได้รับทราบและประกาศจุดยืนกันต่อไป” นายวันชัย กล่าว
‘สมบัติ’ย้ำจุดอ่อนทำรบ.อ่อนแอ
ด้านนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สมาชิกสปช. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สปช. กล่าวว่า ยังยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการออกแบบรัฐธรรมนูญให้มีรัฐบาลสัดส่วนผสมเพราะทำให้รัฐบาลอ่อนแอ ขาดเอกภาพ และขาดการตรวจสอบที่ดี ทำให้พรรคขนาดกลางและขนาดเล็กมีอำนาจต่อรองสูง และนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจกำกับดูแลกระทรวงต่างๆ ได้เลย ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างลำบากขาดเสถียรภาพ
ตอก‘บวรศักดิ์’ดูรธน.แบบนางงาม
ต่อกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปรียบร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เหมือนนางงามที่ต้องดูภาพรวมนั้น นายสมบัติกล่าว รัฐบาลถือเป็นหัวใจของการบริหารประเทศ เมื่อเขียนรัฐธรรมนูญที่ทำให้รัฐบาลอ่อนแอ มันก็ยากจะทำส่วนอื่นให้ดี ถึงจะบอกว่า ได้วางแนวทางการปฏิรูปไว้ดี อย่างไรก็ตาม ก็คงไม่เป็นผล เปรียบเหมือนคนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจรั่ว แม้ร่างกายส่วนอื่นจะดี แต่ถ้าหัวใจไม่แข็งแรง ร่างกายก็ไปไม่รอด หากเปรียบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นนางงาม ถามว่าจะเดินโชว์ทรวดทรงองค์เอวได้กี่วัน
ลั่นปล่อยให้ผ่านออกไปไม่ได้
เมื่อถามว่า จากการหารือ สปช.ส่วนใหญ่มีแนวโน้มโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ไปในทิศทางใดบ้าง นายสมบัติกล่าวว่า สมาชิกสปช.ที่มีแนวความคิดเห็นแบบตนก็มี ที่เห็นด้วยกับกมธ.ยกร่างและรัฐบาลก็มี แต่ไม่ว่าใครจะลงมติอย่างไร ก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่จะพิจารณากันไปตามเหตุผล แต่ถ้าถามว่าตนจะโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ถ้าปล่อยไปแล้วมันทำร้ายประเทศ ก็คงไม่ปล่อยออกไป เพราะหากเอารัฐธรรมนูญไปใช้ โอกาสจะเกิดปัญหามันมีสูง
กมธ.โต้ม.280เปิดช่องรัฐประหาร
ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกมธ. กล่าวยืนยันว่า การให้อำนาจพิเศษคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯตาม ม.280 นั้น ไม่ใช่การเปิดช่องให้ทำรัฐประหารล่วงหน้า เพราะการใช้อำนาจพิเศษได้จะต้องเข้าเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1.เกิดความรุนแรงและความขัดแย้งทางการเมือง 2.รัฐบาลและองค์กรตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถใช้วิธีการปกติเพื่อแก้ไขปัญหาได้ 3.ได้รับความเห็นชอบจาก คปป.ด้วยเสียงสองในสาม4.ต้องได้มีการปรึกษากับประธานศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองก่อน และ 5.การดำเนินการโดยอาศัยอำนาจตามมาตรานี้ จะต้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับสู่ความสงบโดยเร็ว
‘เสธ.อู้’ยันป้องกันปัญหาการเมือง
ด้านพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า เรื่องนี้หลายฝ่ายก็ว่ากันไป แต่จริงๆ แล้วมาตรานี้ได้กำหนดเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาทางการเมืองซ้ำ ซึ่งเคยเกิดขึ้นกับรัฐธรรมนูญฉบับปี’40 และ ’50 ที่ไม่อาจแก้ไขปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองได้เนื่องจากฝ่ายการเมืองสู้กัน โดยไม่คำนึงถึงกติกา ทำให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานราชการแผ่นดินได้ตามปกติ และเป็นผลทำให้เกิดการรัฐประหารตามมา
“เราจึงต้องเขียนกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการ ให้คณะบุคคลคณะหนึ่ง ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย มาทำหน้าที่ระงับยับยั้งความรุนแรงและความขัดแย้งในกรณีที่รัฐบาล หรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถดำเนินการระงับเหตุด้วยวิธีปกติ เพื่อนำประเทศกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และเมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจแล้ว ทุกอย่างก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม” พล.อ.เลิศรัตน์ ระบุ
พีระศักดิ์ชี้ภาพรวมร่างรธน.รับได้
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมร่างรัฐธรรมนูญว่า หลักการพื้นฐานถือว่าพอไปได้ แต่จะให้พอใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ บางท่านอาจติดใจเรื่องที่มานายกฯคนนอกได้ แต่อยากให้มองหลักการว่า เป็นการเปิดช่องทางให้สส.จำนวน 2 ใน 3 มีมติเลือกคนนอกมากเป็นนายกฯในกรณีวิกฤตพิเศษอะไรขึ้น ไม่ต้องอ้างมาตรา 7 เหมือนวิกฤตที่ผ่านมา ส่วนจะผ่านการโหวตในวันที่ 6 ก.ย. หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสมาชิกสปช.แต่ละคน แต่ภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญถือว่าดี
‘อ๋อย’เปิดเหตุผลไม่ควรรับร่าง
ขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวถึงเหตุผลที่ไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญว่า จะเป็นรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายที่สุด เป็นเผด็จการที่สุดตั้งแต่เคยมีรัฐธรรมนูญกันมาในประเทศไทยก็ว่าได้ เมื่ออ่านร่างรัฐธรรมนูญโดยมองภาพรวมของเนื้อหาส่วนต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบแล้ว ไม่อาจรับร่างรัฐธรรมนูญนี้เพราะไม่สามารถบริหารประเทศตอบสนองความต้องการของประชาชนได้
ซัดอันตรายยิ่งกว่า‘ซีอุย’
นอกจากนี้ยังทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ในสภาพอ่อนแอไม่มีเสถียรภาพ และจะถูกล้มไปได้โดยง่าย เป็นระบบที่ออกแบบไว้เพื่อเปิดทางและเอื้ออำนวยให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี ระบบการถอดถอนทำลายหลักการของการตรวจสอบถ่วงดุลคือ ให้ สว.ลากตั้งมีอำนาจถอดถอนทุกฝ่าย และให้ สส.ฝ่ายรัฐบาล มีอำนาจถอดถอน สส.ฝ่ายค้าน รวมทั้งมีการวางระบบสืบทอดอำนาจคสช.ผ่านคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ เปิดช่องให้เกิดเผด็จการเต็มรูปแบบ
“อ่านร่างรัฐธรรมนูญนี้แล้วยังไงก็ไม่อาจเปรียบเทียบกับนางงาม แต่เป็นอะไรที่อัปลักษณ์ และอันตราย คนสมัยก่อนอาจนึกถึง ซีอุย ในขณะที่คนสมัยนี้ที่ชอบดูหนังซีรีส์ฝรั่ง ก็อาจนึกถึงฮันนิบาลเสียมากกว่า” นายจาตุรนต์ ระบุ
ปชป.ไม่มั่นใจตอบโจทย์ประเทศ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย และไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของประเทศได้จริง ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ปลุกกระแสคว่ำการทำประชามติในร่างรัฐธรรมนูญนั้นตนก็ยังสับสนกับพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทย ที่ปากเรียกร้องประชาธิปไตย ให้รัฐบาลคายอำนาจเดินตามโรดแมป เพื่อจัดเลือกตั้งให้เร็วที่สุด แต่วันนี้กลับออกมารณรงค์ให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ถามว่าถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญแล้วจะเลือกตั้งได้อย่างไร
นายกฯนำครม.เฝ้าฯถวายสัตย์ฯ
ทางด้านความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)นั้น เมื่อเวลา 15.50 น.พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลเพื่อนำคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ที่ รพ.ศิริราช
โดยบรรยากาศก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดารัฐมนตรีใหม่ต่างทยอยเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ตามมาด้วยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ต่างทยอยเดินทางมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี