25 ส.ค.58 ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้นำเสนอ ครม.พิจารณาเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ.2558 โดยตามที่ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.58 และมีผลบังคับใช้ 30 วัน หลังจากประกาศ คือวันที่ 13 ส.ค.58 ดังนั้น เมื่อมีการประกาศกฎหมายฉบับนี้แล้ว จำเป็นต้องมีแผน (Action Plane) มีการกำหนดรายละเอียดของผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนของหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนที่ทาง สตช.เสนอนั้น เพื่อต้องการให้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม ผู้ที่จัดการชุมนุม ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจากกระทรวง ทบวง กรม รวมทั้ง สตช.ได้ทราบถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเองว่ากฎหายฉบับนี้ใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยกำหนดเป็นเรื่องๆ เรื่องหลักการโดยทั่วไป มีกรอบแนวคิดว่าประชาชนโดยทั่วไปสามารถมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธและชุมนุมโดยสงบได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องคำนึงถึงหลัก 4 ประการ คือ 1.ประสิทธิภาพและความเหมาะสม 2.หลักแห่งความจำเป็น 3.หลักของการได้สัดส่วน 4.หลักของการห้ามเลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ ยังรวมถึงการปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ในการชุมนุมตั้งแต่ขั้นแรกคือ เจ้าหน้าที่ต้องมีการเตรียมข้อมูลด้านการข่าว จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่การชุมนุม มีการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้หน่วยเหนือได้รับทราบ ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการชุมนุมควบคู่กับการทำงานด้านมวลชนสัมพันธ์ ขั้นที่สอง เมื่อการชุมนุมเริ่มต้นขึ้นจะต้องมีการตั้งศูนย์ตรวจค้นอาวุธและมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ที่สำคัญคือต้องชี้แจงสิทธิต่างๆ ให้ผู้ชุมนุมรับทราบตลอดเวลา รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับข้อร้องเรียนของผู้ชุมนุม เพื่อลดความรุนแรงในระหว่างการชุมนุม
ขั้นที่สามคือ การใช้กำลังคลี่คลายการชุมนุม ในกรณีที่การชุมนุมมีแนวโน้มรุนแรงเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้อง เจ้าพนักงานที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุมมีอำนาจที่จะสั่งให้ผู้ชุมนุมหยุดการการะทำได้และต้องปฏิบัติตามขั้นตอนสากล จากเบาไปหาหนัก เริ่มตั้งแต่การชี้แจงความเข้าใจ การแสดงกำลัง จนถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆในการควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในกรอบกติกา
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนการปฏิบัติที่อยู่ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งให้การชุมนุมเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ขั้นต่อไปคือเมื่อมีการนำเรื่องเหล่านี้ไปร้องต่อศาลแล้วศาลมีคำสั่งให้เลิกการชุมนุม ในเวลานั้นเจ้าหน้าที่จะต้องประกาศให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่การชุมนุมซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม แล้วสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆได้ตามหลักการใช้กำลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลได้มีการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงเฉพาะกรณีขึ้นมา ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจเหล่านั้น สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายความมั่นคงเหล่านั้นได้ด้วย และขั้นตอนสุดท้ายคือขั้นตอนของการฟื้นฟู เมื่อสามารถจัดระเบียบของการชุมนุมได้แล้วจะต้องมีการจัดส่งผู้บาดเจ็บ มีการฟื้นฟูสถานที่ มีการจับกุมผู้กระทำผิด มีการบังคับใช้กฎหมายและสรุปผลการประชุม ขั้นตอนการปฏิบัติดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะต้องรับทราบและต้องมีการฝึกเพื่อให้เกิดความเข้าใจและความชำนาญในหน้าที่อย่างแท้จริง
"เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีบอกว่ามีบางประการที่น่าสนใจ ขอให้ลองไปดูในรายละเอียดของขั้นตอนของแผนที่ชัดเจนกว่านี้อีกนิดหนึ่ง เช่น การใช้ดุลยพินิจเมื่อมีการแจ้งขออนุญาตชุมนุมเข้ามา เรื่องบางเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ดุลยพินิจเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยว่าใช้ดุลยพินิจที่ถูกต้องหรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีคณะกรรมการอะไรสักอย่างเข้ามาช่วยกลั่นกรอง ซึ่ง สตช.ก็จะรับเรื่องนี้ไป" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี