27 ส.ค.58 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดเวทีราชดำเนินเสวนา หัวข้อ "ทำข่าววิกฤตไม่ให้วิกฤต...บทเรียนจากแยกราชประสงค์" ณ ห้องปนะชุมอิศราอมันตกุล จัดโดย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ หลักสูตรนิเทศศาสตร ดุษฎีบัณฑิต และหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์และสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย
โดยมี นายจักร์กฤษ เพิ่มพูน อดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ , นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการ สำนักข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส , นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ จิตแพทย์ และที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข , พ.อ.ชาญวิทย์ ราชธนบริบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดกรมสรรพาวุธทหารบก , นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ , นายอานนท์ บัวภา ตัวแทนนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และผู้ช่วยผู้อำนวยการหลักสูตรดุษฎีบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และ ดร.ชนัญสรา อรนพ ณ อยุธยา เป็นวิทยากรผู้บรรยาย
พ.อ.ชาญวิทย์ กล่าวว่า การก่อการร้ายเคยเกิดเหตุขึ้นมาหลายครั้งแล้ว และหลายครั้งที่มีเหตุระเบิด มักไม่ได้มีลูกเดียว เพราะการก่อเหตุนั้นไม่มีกติกา เมื่อมีการระเบิดลูกแรก ระเบิดลูกที่สองมักจะอยู่ห่างจากลูกแรกไม่ไกลกัน การเสี่ยงภัยของผู้สื่อข่าวภาคสนามหรือแพทย์ฉุกเฉินนั้นควรคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองด้วย นอกจากจะอันตรายแล้ว ยังทำให้วัตถุพยานป่นเปื้อนและเคลื่อนที่ ที่สำคัญหากการเก็บวัตถุพยานไม่ถูกต้อง อาจทำให้รูปคดีเปลี่ยน เช่น วัตถุมีลายมือของผู้วางระเบิดและลายมือของนักข่าวที่ไปเก็บมา ศาลจะไม่สามารถตัดสินได้ว่าเป็นลายมือใคร จึงต้องยกให้เป็นผลประโยชน์ของจำเลย
นายอานนท์ กล่าว่า การดูสถานการณ์ข่าว ควรรับข้อมูลจากสื่อหลายๆ ช่องทาง และควรถอยออกมาหนึ่งก้าว อย่าเพิ่งเชื่อหรือแชร์ อย่างไม่ใช่เหตุผล ขาดการคิดวิเคราะห์ว่าข้อเท็จจริงนั้นถูกต้องหรือไม่ เมื่ออยู่ในความสับสนวุ่นวาย เราควรดูข่าวจากโทรทัศน์ที่มีการกลั่นกรองมากกว่าสื่อด้านอื่น และดูประกอบกับสื่อด้านหนังสือพิมพ์ สำหรับเรื่องของจรรยาบรรณและจริยธรรมของสื่อ ส่วนตัวนั้นมีความเป็นห่วงถึงทักษะและความรู้ในตัดสินใจ เพราะปัจจุบันสื่อมีการเผนแพร่ภาพอุจาดตา และกรณีคุณฐาปณีย์ ที่เข้ารายงายข่าวในสถานที่เกิดเหตุ เพราะตนตระหนักถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะเหตุที่สื่ออ้างว่าต้องการสร้างสรรค์ข่าวนั้น ควรคำนึงถึงประโยชน์ของสังคม มากกว่าสร้างเสียงหัวเราะจากน้ำตาของใคร ซึ่งในอนาคตหากตนเรียนจบตนอาจจะเป็นอนาคตที่ต้องทำงานในด้านนี้ นักข่าวรุ่นใหม่ควรมีความฉลาด และความเฉลียว มีความคำนึงถึงประเทศชาติด้วย
นายนันทิวัฒน์ กล่าวว่า จากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ผมโทษบรรณาธิการ ไม่ใช่นักข่าวที่เป็นผู้สืบสาว เพราะบรรณาธิการควรประเมินคุณค่าข่าวได้ ไม่ควรคำนึงถึงการแข่งขันแย่งพื้นที่การขายข่าวโดยไม่คัดกรอง และควรมีการผลิตผู้สื่อข่าวสงครามด้วย เพื่อทำการรายงานที่ถูกต้องต่อสถานการณ์และสถานที่ อะไรที่ทำได้ หรือไม่ได้ รู้ว่าอะไรควรระวังตัว และการป้องกันตนเอง
นายจักร์กฤษ กล่าวว่า ปรากฏการที่น่าสนใจคือการออกมายอมรับผิดของสื่อ ที่ทำการนำเสนอข่าวอย่างผิดจรรยาบรรณและจริยธรรม โดยการออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสังคมอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งได้ทำการลงโทษต่อผู้กระทำผิดนั้น เป็นการยืนยันหลักจริยธรรมที่ยังมีอยู่ในวงการสื่อ และสื่อควรมีองค์ความรู้รอบด้านในการนำเสนอข่าว ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือของผู้ก่อการ ผู้สื่อข่าวไม่ควรตกเป็นเหยื่อ เพราะจุดประสงค์ของผู้ก่อความไม่สงบ เป็นพฤติการที่ต้องการสื่อสาร ไม่ว่าจะทางการเมือ หรือความสะใจส่วนตัว ซึ่งการรายงานข่าวนั้นเกี่ยวข้องกับงานสื่อมวลชนอย่างชัดเจน ที่จะมีผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี