28 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ว่า ขณะนี้สำนักงานกกต.ได้จัดทำแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย อยู่ระหว่างตรวจทานความเรียบร้อย และรอดูมติที่ประชุมสมาชิสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ว่าจะลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญส่งมอบให้ ก่อนที่จะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาในวันที่ 6 ก.ย.นี้ สำหรับขอบข่ายอำนาจหน้าที่ของกกต.เกี่ยวกับการจัดทำประชามตินั้น นอกจากกกต.จะมีหน้าที่จัดทำประชามติแล้ว กกต.ยังมีหน้าที่ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ซึ่งต้องไม่เป็นการชี้นำให้โหวตรับหรือไม่รับ พร้อมเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำประชามติครั้งนี้ โดยรูปแบบจะเป็นการเปิดให้ประชาชนที่สนใจจะร่วมแสดงความคิดเห็นให้มาลงทะเบียนที่ กกต.ทั่วประเทศ จากนั้นกำหนดวันให้ดีเบตกันโดยเป็นการบันทึกเทปโทรทัศน์ ก่อนจะนำไปเผยแพร่ทางทีวี
"การดำเนินการในลักษณะนี้จะอยู่ในรูปแบบเวทีหลัก ไม่ใช่เป็นการที่ กกต.จะไปจัดเวทีระดมความคิดเห็นในสถานที่ต่างๆ เนื่องจากเราต้องคำนึงถึงประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่ 7/2557 ที่ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองด้วย ดังนั้นเราจะทำอะไรต้องดูความเหมาะสมและทาวิธีทางที่ไม่ขัดต่อประกาศของคสช.ด้วย และเห็นว่าการรณรงค์ในครั้งนี้คงอาศัยสื่อหลัก เช่น สื่อโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เพราะมองว่าโซเชียลมีเดียมีการควบคุมยาก กกต.ไม่สามารถตรวจสอบได้" นายศุภชัย กล่าว
ด้านนายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในการออกเสียงประชามติจะมีลักษณะเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป ส่วนการจัดสรรเวลาในการแสดงความเห็นของฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยผ่านโทรทัศน์และวิทยุก็จะมีลักษณะคล้ายกรณีการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆก่อนเลือกตั้ง โดยจะให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยส่งตัวแทนมาอัดเทปแสดงความเห็นในเวลาเท่ากัน และเผยแพร่ในเวลาที่เท่าๆกัน ส่วนกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ระบุว่าหากมีการส่งไลน์หรือเอสเอ็มเอสในลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม ใช้คำพูดหยาบคาย รุนแรง ข่มขู่ ก้าวร้าวในการรณรงค์ร่างรัฐธรรมนูญทำไม่ได้ ผิดกฎหมายนั้น ผู้มีอำนาจ คือรัฐบาลและคณะรักษาความสงบต้องไปพิจารณา ว่าจะทำอย่างไร โดยผู้มีอำนาจอาจจะเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 เพื่อเพิ่มความผิดดังกล่าวใน พ.ร.บ.ดังกล่าว หรืออาจจะมีการเสนอให้ออกเป็นกฎหมายพิเศษก็ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี