30 ส.ค. 58 นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างฯ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว "Kamnoon Sidhisamarn" ชี้แจงถึงความสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่นอกเหนือจากประเด็นที่กำลังตกเป็นวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยได้ยกตัวอย่าง 9 ประการ ขึ้นมาเพื่อชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นของร่างรัฐธรรมนูญ ข้อความดังนี้
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้มีแค่คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ หรือ คปป. , อำนาจพิเศษ, นายกฯ ที่ไม่ได้บังคับว่าต้องมาจาก ส.ส.ทุกกรณี , ส.ว.ที่ไม่ได้มาแต่เฉพาะจากการเลือกตั้งทางตรง และ ฯลฯ ที่กินพื้นที่ข่าวพื้นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นส่วนใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายต่อหลายมาตรการใหม่ ๆ ที่จะทำให้การเมืองระบบรัฐสภามีประสิทธิภาพขึ้น มีดุลยภาพขึ้น และสามารถแก้ปัญหาภายในระบบได้มากขึ้น
ลองดูมาตรการที่ขอสกัดมาให้ดูเป็นตัวอย่าง 9 ประการ
1. กำหนดให้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง มาจาก ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน และให้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปอยู่ในที่ประชุมร่วมกันของประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎรในการวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติใดเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินหรือไม่ด้วย : มาตรา 129 วรรคสอง และมาตรา 144 วรรคสอง
2. กำหนดให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานสภาวุฒิสภา และประธานรัฐสภา รวมทั้งผู้ทำหน้าที่แทน ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ยกระดับมาตรฐานจากเดิมที่ให้วางตัวเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ห้ามประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งใด ๆ ในพรรคการเมือง และห้ามเข้าร่วมประชุมพรรคการเมืองด้วย มาตรา 97 วรรคสาม, มาตรา 129 วรรคหก และมาตรา 130 วรรคสอง
3. กำหนดให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านเป็นประธานกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือทำหน้าที่กำกับติดตามเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ : มาตรา 138 วรรคสอง
4. กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา มีหน่วยธุรการที่เป็นอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่น มาตรา 96 วรรคสาม
5. กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมีหน้าที่ต้องตอบกระทู้ถามโดยเร็ว มาตรา 159 วรรคแรก
6. กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปนั้นสามารถลาออกได้ หรือพ้นจากการต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเพราะเหตุอื่นได้ และถ้าเหลือจำนวนคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่ถึงครึ่ง ก็ให้คณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่พ้นหน้าที่ไปทั้งหมด ให้ปลัดกระทรวงร่วมกันรักษาราชการแทนจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ มาตรา 174
7. กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เพิ่มเติมให้วุฒิสภาประชุมได้ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือถูกยุบ คือ กรณีที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งซึ่งมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อให้งานของวุฒิสภาหรืองานด้านนิติบัญญัติสามารถดำเนินต่อไปได้ในระหว่างที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ในกรณีนี้ให้ประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมวุฒิสภาและเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโอการ มาตรา 137
8. กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เพิ่มเติมปิดช่องว่างมิให้ขาดผู้ทำหน้าที่แทนประธานรัฐสภา มาตรา 97 วรรคสอง
9. กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เพิ่มเติมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีอิสระจากมติพรรคการเมืองหรืออาณัติอื่นใดในการตั้งกระทู้ถาม การอภิปราย การลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การออกเสียงลงคะแนนเลือกหรือให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งใด และการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง โดยได้มีการปรับคำปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ใหม่ด้วย มาตรา 127 และมาตรา 128
ทั้ง 9 มาตรการนี้เป็นเพียงตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าในมาตรการใหม่ที่ 6 , 7 และ 8 นั้นหากเกิดสถานการณ์วิกฤตรัฐสภาอย่างช่วงเดือนธันวาคม 2556 จนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรอยู่เป็นเวลานาน มาตรการทั้งสามจะทำให้ระบบรัฐสภายังดำรงอยู่ได้ แก้ปัญหาได้ ไม่ถึงทางตันหรือเกิดข้อถกเถียงหาข้อสรุปไม่ได้อย่างที่ได้เกิดขึ้นมาแล้ว
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้มีแค่คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ หรือคปป., อำนาจพิเศษ, นายกฯที่ไม่ได้บ...
Posted by Kamnoon Sidhisamarn on 29 สิงหาคม 2015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี