นายสมชัย กล่าวต่อว่า 3.เนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม มีประเด็นที่ชี้ให้เห็นว่ามีความเชื่อมโยงกันคือให้มีการทำประชามติด้วยการออกประกาศกกต.โดยผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกำหนดให้นำเฉพาะบทลงโทษของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2552 มาใช้บังคับเท่านั้น ดังนั้น องค์ประกอบส่วนอื่นๆ ต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม หรือระบุไว้ในประกาศกกต.
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่กำลังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในขณะนี้ว่าจะใช้เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงหรือผู้มาออกเสียงนั้น ตนมองว่ากรณีสามารถแยกออกเป็นสองประเด็นย่อยคือ1.คำถามหลักว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญใช้เกณฑ์ใดตัดสิน และ2.คำถามพ่วงที่เพิ่มเติมมานั้นใช้เกณฑ์ใดตัดสิน โดยรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 37/1 เขียนไว้ชัดเจนว่าคำถามพ่วงนั้นใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงประชามติ แต่กรณีของคำถามหลักมีประโยคในรัฐธรรมนูญที่แปลความหมายสับสน คือ มาตรา 37 วรรคเจ็ด ที่ระบุว่า ในการออกเสียงประชามติ ผู้มีสิทธิออกเสียงต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสุดท้ายก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ และภายใต้บังคับมาตรา 37/1 ซึ่งประโยคที่ระบุว่า"และภายใต้บังคับมาตรา 37/1 "นั้น ฝ่ายที่ตีความหมายว่าใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงก็จะบอกว่าใช้แค่เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงก็ได้เพราะมีมาตรา 37/1 บังคับอยู่
นายสมชัย กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าผลประชามติครั้งนี้ต้องใช้เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงโดยอ้างประโยคที่ระบุว่า" ถ้าผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติโดยเสียงข้างมากเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ" ดังนั้น ประเด็นนี้จึงยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งกกต.เห็นว่าประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่กกต.จะต้องมาตอบคำถามกับสังคม เนื่องจากหน้าที่ของกกต.คือการจัดให้มีการออกเสียงประชามติให้ครบถ้วนสมบูรณ์รวมทั้งให้ทุกฝ่ายสามารถแสดงความเห็นได้เท่าเทียมกัน และเมื่อได้ผลประชามติแล้ว กกต.ก็จะนำผลตัวเลขของการทำประชามติรายงานให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ จากนั้นหน้าที่ของนายกฯคือต้องพิจารณาว่าเมื่อตัวเลขออกมาแบบนี้ผลประชามติจะเป็นการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี