‘ปู’ขนหัวลุก
งัดไม้แข็งสั่งใช้หนี้จำนำข้าว
‘วิษณุ’ลั่นไม่จำเป็นต้องฟ้องแพ่ง
ชี้เหมือนยึดทรัพย์-อย่างช้าต้นปี’59
ปปช.ชี้มูล15เอกชนเอี่ยวโกงจีทูจี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประกาศไม่จำเป็นต้องฟ้องร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพวก เพื่อเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว โดยแต่จะใช้วิธีออกคำสั่งให้จ่ายค่าเสียหายโดยตรงเช่นเดียวกับกรณียึดทรัพย์แทน โดย นายวิษณุ เปิดเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างตอบกระทู้เรื่องความคืบหน้าการดำเนินคดีทางแพ่งต่อผู้กระทำความผิดโครงการรับจำนำข้าว ที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้ยื่น ในการประชุมสนช.เมื่อวันที่ 3 กันยายน
“วิษณุ”แจงเชือดจำนำข้าว
นายวิษณุ กล่าวว่า การดำเนินการต่อการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.คดีทางการเมือง คือ เรื่องการถอดถอน ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สนช. ทำเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว 2.คดีอาญา มีการส่งเรื่องฟ้องศาลอาญาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งดำเนินการแล้ว และ 3.คดีแพ่ง เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจากผู้รับผิดชอบ เป็นสิ่งที่ทางรัฐบาลไม่ได้ละเลย
งัดกม.ความผิดทางละเมิดเล่นงาน
“เมื่อมีการถอดถอนแล้วถือว่า รู้ตัวผู้กระทำผิด มีการดำเนินการตามหลักนิติธรรม โดยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติกรณีที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องรับผิดเพราะกระทำละเมิด พ.ศ.2539 ซึ่งเป็นเหมือนกฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ”
แยกฟ้องแค่เอกชน-อย่างช้าต้นปี59
นายวิษณุ ยังอธิบายต่อว่า ตามหลักกฎหมายแล้วขั้นตอนแรก จะต้องตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จแล้ว คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 2 กลุ่ม คือ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว เพียงคนเดียว และ 2.บุคลากรจากกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง 6 คน ส่วนเอกชนที่เกี่ยวข้อง จะมีการแยกฟ้องเป็นอีกรูปคดีหนึ่ง โดยกำหนดเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนนี้ในการสรุปว่าใครจะเป็นผู้รับผิดทางแพ่งเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ก่อนส่งรายงานไปยังคณะรัฐมนตรี และส่งต่อให้คณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง ภายใต้กระทรวงการคลัง เพื่อออกคำสั่ง ซึ่งหากมีการเห็นชอบ ก็จะให้มีการเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอายุความคดีนี้อยู่ที่ 2 ปี จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 แต่เชื่อว่าจะเสร็จสิ้นได้ภายในปลายปี 2558 หรืออย่างช้าต้นปี 2559
ออกคำสั่งตรงให้“ปู”ชำระหนี้
“ถ้าพบว่ามีความผิด รัฐจะไม่ฟ้อง แต่จะสั่งให้ชำระหนี้ เหมือนคำสั่งยึดทรัพย์ ตรงนี้ผู้ที่ทำผิดสามารถไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ ซึ่งจะไม่กระทบอายุความ ส่วนเอกชนแยกออกไปฟ้องต่างหาก แม้อายุความจะน้อยกว่าแค่ 1 ปี แต่ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบ ยกเว้นจะพบความผิดเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้อง 2 กลุ่ม ก็ค่อยเรียกมาสอบ ดังนั้น เชื่อว่าจะไม่กระทบอายุความเช่นกัน”
อุทธรณ์ได้-ไม่เกี่ยวอายุความ
นายวิษณุ กล่าวว่า ความเข้าใจของสังคมตอนนี้คือ รัฐต้องฟ้องเขา แต่วันนี้รัฐได้เลือกกระบวนการอีกแบบหนึ่ง รัฐจะไม่ฟ้องเขา รัฐสั่งเหมือนกับให้ยึดทรัพย์ โดยไม่ต้องฟ้อง ถ้าผู้ถูกยึดทรัพย์ไม่พอใจ ก็อุทธรณ์ ถ้าอุทธรณ์แล้วฟังไม่ขึ้น ก็ต้องไปฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับอายุความ ซึ่งคดีจะจบอย่างไรก็อยู่ที่ศาล
ส่วนกลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้องนั้น เนื่องจากไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ไปยึดทรัพย์ไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือฟ้อง ขณะนี้เตรียมรูปคดีทั้งหมดเพื่อส่งให้พนักงานอัยการ ดำเนินคดีภายในปี 2558 ก่อนที่คดีขาดอายุความ
ปปช.ชี้มูลเอี่ยวจีทูจีข้าวอีก15ราย
วันเดียวกัน นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ กับพวก รวม 22 ราย ทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่าด้วยการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาล ได้ประทับฟ้องคดีดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว
นายวิชา กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม กลุ่มที่ 1 ซึ่งมีทั้งบริษัทและบุคคลจากประเทศจีน จำนวน 7 ราย ได้แก่ บริษัท Guangdong stationery & sporting goods imp. & exp. Corp., น.ส. Luo Wensui ตำแหน่ง General Manager, นาย Chen Li Purchase ตำแหน่ง Manager, นาย Lam Win ตำแหน่ง Coordinator, บริษัท Hainan grain and oil industrial trading company, นาย Lin Haihui ตำแหน่ง Deputy General Manager และ นาง Zhou Jing ตำแหน่ง Coordinator ว่าได้ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดตามฐานความผิดที่ระบุข้างต้น โดยจะส่งรายงาน เอกสารและความเห็นไปยังอสส. เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 ราย ตามฐานความผิดเดียวกับผู้ที่ถูกคณะกรรมการป.ป.ช.ชี้มูลไปก่อนหน้านี้
จ่อส่งอัยการฟ้องอาญาตามหลัง
นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูล ผู้ถูกกล่าวหากลุ่มที่ 2 อีกจำนวน 8 ราย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร, นายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร, บริษัทกิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด, นายทวี อาจสมรรถ กรรมการบริษัทกิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด, บริษัทเค.เอ็ม.ซี.อินเตอร์ไรซ์ท (2002) จำกัด, นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการบริษัทเค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด, บริษัทเจียเม้ง จำกัด และนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการบริษัทเจียเม้ง จำกัด ว่าได้สนับสนุนการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐอันมีมูลความผิดตามฐานความผิดเดียวกับผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลไปแล้ว และจะส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอสส. เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหา 8 รายนี้ ตามฐานความผิดเดียวกันกับผู้ที่ถูกคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ชี้มูลไปก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นายวิชา กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหากลุ่มที่ 3.นั้น ไม่ปรากฎพยานหลักฐานที่จะรับฟังได้ว่ามีการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา จึงเห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป และให้ถือว่าคดีนี้สิ้นสุดการพิจารณาของป.ป.ช.แล้ว ซึ่งคดีเกี่ยวกับจีทูจี ที่เกี่ยวข้องกับนายบุญทรง ปปช.ไต่สวนถึง 111 ราย และมีมติชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้นแค่ 37 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี