สปช.2ขั้วอ้างใบสั่งคสช.
ล็อบบีฝุ่นตลบ
ชูสภาขับเคลื่อนฯ-สว.ล่อ
กลุ่มคว่ำตีตื้นเสียงเกิน100
‘สิระ’คืน1.7ล้านถ้าไม่ผ่าน
‘บิ๊กตู่’ว้ากการเมืองห้ามจ้อ
เมื่อเช้าวันที่ 3 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานพิธีเปิดโครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ว่า เวลาที่เหลืออยู่ประมาณสัก 1 ปี เราต้องขับเคลื่อนประเทศให้ได้สร้างรากฐานให้เข้มแข็งทุกภาคส่วน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ใครจะเกลียดตน จะไล่ตนก็ไม่ว่า เพราะตนไม่ไปอยู่แล้ว จะอยู่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวของตนนี่แหละ มีแค่ไหนก็แค่นั้น
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญเขามีเพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรม กฎหมายมีประโยชน์ทั้งสองข้าง ใช้บังคับอย่างทั่วถึงเป็นธรรม ส่วนจะอยู่หรือไม่อยู่ ให้ดูที่รัฐธรรมนูญ เพราะตนสั่งรัฐธรรมนูญไม่ได้ว่า จะผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านก็ไม่ชอบ พอไม่ผ่านอีกพวกก็หาว่า ตนสั่งการ ตนลำเอียง ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง”
ห้ามนักการเมืองจ้อขัดโรดแมป
นายกฯ กล่าวอีกว่า แม้กระทั่งการออกมาพูดทีวีกลุ่มนี้พูดกลุ่มนี้ก็ต้องพูด ถ้าไอ้กลุ่มไหนพูดแล้วมันไม่ขัดแย้งกับรัฐบาล ผมก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร แต่ถ้ากลุ่มไหนพูดแล้วขัดแย้งก็ไม่ให้พูด เพราะตนเป็นกรรมการ ไม่เช่นนั้นตนก็ไม่มายืนตรงนี้ ให้ใครขึ้นมาก็ได้ ลูกน้องพลขับก็มาได้ “ถ้าผมเป็นกรรมการ ให้เวลาท่านเป็นกรรมการมานานแล้ว แล้วท่านทำไม่ได้ วันนี้ผมเป็นกรรมการแล้วผมจะทำให้ได้ ถ้าท่านคิดว่าจะไม่เอากรรมการแบบเดิม ก็ไปว่ากันมา ตัดสินใจกันมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ย้ำปท.ยังไม่ใช่ปชต.เต็ม100%
ต่อมา เวลา 12.00น.พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณีมีการขออนุญาตแสดงความคิดเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ทุกประเทศในโลก ถ้าเป็นประชาธิปไตย100% ใครอยากพูดอะไรก็พูดได้ แต่ก็รู้กันอยู่ว่าประเทศไทยไม่ได้100% ดังนั้นเอาเอาเรื่องนี้มาพูดกับตน ใครก็ตามที่พูดแล้วสนับสนุนแนวทางรัฐบาล โดยสนับสนุนให้เป็นไปตามโรดแมป สามารถพูดได้ แต่ถ้าพูด แต่มาต่อต้านตนก็จะทำให้โรดแมปเดินต่อไปไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ต้องแยกออกจากกันให้ได้ ไม่ใช่คนนี้พูดได้ คนนั้นก็ต้องพูดได้บ้าง ไม่ใช่ว่าใครมาพูดเข้าข้างตน เขาพูดตามโรดแมปของเขา ทั้ง 2พวกตนก็ให้พูดมาโดยตลอด
กำหนดกติกาเองใครจะทำไม
“ผมเป็นคนกำหนดกติกา ผมร่าง ผมทำมาแบบนี้ ทำจนแทบจะเป็นอาหารให้กินแล้ว ยังไม่เลือกที่จะกินอีก ถ้าจะทำใหม่ก็ไปกินที่อื่น ไปเปิดร้านหากินกันเอาเอง เข้าใจหรือยัง ผมไม่ใช่ศัตรูใคร ไม่ได้ว่าใคร แต่ใครที่ทำความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าจะให้ทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกมารับผิดชอบ แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาผมรับผิดชอบอยู่คนเดียว พูดแบบผมพูดซิ มีใครพูดแบบนี้หรือไม่ว่า วันหน้าถ้าเลือกตั้งแล้ว จะทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่ให้เกิดเหตุอย่างเดิมอีก ถ้าประท้วงต้องแก้ปัญหาให้ได้ ถ้ายิงกันฆ่ากันระเบิดกัน เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ มีพูดหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
‘คำนูณ’ทำใจผลโหวตร่าง6ก.ย.
ด้าน นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกระแสการเสนอคว่ำร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมาจากหลายฝ่ายว่า กมธ.ยกร่างฯ ทุกคนไม่วิตกกับกระแสคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสิทธิที่ทุกคนแสดงได้ โดยเฉพาะประเด็นที่ระบุว่า หากผ่านร่างรัฐธรรมนูญแล้ว จะมีความขัดแย้งรุนแรงตามมา ซึ่งต้องรับฟัง แต่เชื่อมั่นในวิจารณญาณของสมาชิก สปช.ซึ่ง กมธ.ยกร่างฯ รับได้ทั้งหมด ไม่ว่าการลงมติวันที่ 6กันยายน ผลจะออกมาเป็นเช่นไร
‘สิระ’โชว์1.7ล.เตรียมคืนถ้าคว่ำ
ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ สมาชิก สปช.แถลงว่า จะคืนเงินเดือนและสวัสดิการจากดำรงตำแหน่ง สปช. จำนวน 1.7ล้านบาท ให้กับรัฐ หากสปช.มีมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่า สปช.ทำงานล้มเหลว ไม่สามารถผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์ผ่านร่างรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดได้ ตนจึงไม่สามารถใช้เงินที่มาจากภาษีประชาชนได้ นอกจากนี้ขอให้เพื่อนสมาชิก สปช.ที่ร่วมกันลงมติไม่รับร่างแสดงความรับผิดชอบด้วย เนื่องจากทำให้ประเทศชาต้องสูญเสียงบประมาณที่เป็นเงินเดือน สปช.ไปเป็นจำนวนมาก ประกอบกับค่าเบี้ยการประชุมของ กมธ.ยกร่างฯที่ประชุมกันมากกว่า 160ครั้ง ซึ่งคิดเป็นเบี้ยประชุม 9แสนกว่าบาท ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลที่ควรรับผิดชอบต่อความเสียหายมี 2กลุ่ม คือ 1.กลุ่มคนที่ประกาศจะคว่ำร่างตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นร่างฉบับสมบูรณ์ 2.กลุ่มคนที่เห็นว่า รัฐธรรมนูญดี แต่ยังจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนจะทำการฟ้องต่อศาลแพ่งในฐานความผิดทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์ สปช.ที่คว่ำร่างฉบับที่ดีที่สุด คงไม่มีใครกล้าจ้างไปทำอะไรอีก เพราะทำงานแค่นี้ยังไม่สามารถทำให้กับประเทศชาติได้ อีกทั้งยังเป็นประวัติติดตัวไป
ชทพ.เตือนอย่าทำปชช.ผิดหวัง
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ได้ทำจดหมายปิดผนึกถึง นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.และสมาชิก สปช.โดยมีเนื้อหาสรุปว่า การลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6กันยายน.นี้ คิดว่าคนไทยทั้งประเทศมีหัวใจจดจ่อกับการพิจารณาของ สปช.เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายของประชาชนที่มีต่อการปฏิรูปประเทศประชาชนฝากความหวังว่าจะมีรัฐธรรมนูญดีที่สุด เป็นประชาธิปไตยที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศในทุกด้าน
“ผมเชื่อและเคารพในความเป็นคนไทยของท่านว่า ท่านรักประเทศไทยไม่น้อยกว่าคนไทยอีกกว่า 60 ล้านคน 1เสียงของท่านคือ อนาคตของประเทศ อย่าให้คนไทยผิดหวังนะครับ” นายสมศักดิ์ ระบุ
สปช.2ฝ่ายเร่งวิ่งล็อบบี้ตุนเสียง
สำหรับความเคลื่อนไหวของสมาชิก สปช.ที่จะลงมติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 6กันยายนนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มสปช.ที่จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและกลุ่มสปช.ที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญ ได้เดินเกมล็อบบี้สมาชิก สปช.กันอย่างหนัก เพื่อโน้มน้าวใจในการขอคะแนนเสียงทั้ง 2กลุ่ม ทั้งวิธีการโทรศัพท์ไปล็อบบี้เป็นรายบุคคล รวมไปถึงการจับกลุ่มรับประทานอาหาร
กลุ่มไม่รับดูดเพิ่มจาก50เป็น100
โดยช่วงค่ำวันที่ 2กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มสปช.ที่รับร่างประมาณ 20-30 คน ร่วมรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว เพื่อหารือถึงสถานการณ์ที่ถูกสปช.กลุ่มไม่รับร่าง ทำคะแนนตีตื้นขึ้นมา โดยสถานการณ์ในขณะนี้พบว่า กลุ่มสปช.ที่ไม่รับร่างคาดว่ามีผู้สนับสนุน 80-100คน จากเดิมมีประมาณ 50คน โดยได้เสียงเพิ่มจาก สปช.กลุ่มวิชาการ นักกฎหมายและสปช.จังหวัดที่เริ่มจะไม่รับร่าง
หันดึงสปช.จังหวัดมาสนับสนุน
ขณะเดียวกัน สปช.กลุ่มที่ไม่รับร่างยังพยายามจุดกระแสว่า มีสปช.ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้ขณะนี้สปช.กลุ่มรับร่างต้องเดินสายล็อบบี้ สปช.อย่างหนัก เพื่อดึงคะแนนกลับมาให้ได้ โดยเฉพาะในสายสปช.จังหวัด ที่เริ่มโน้มเอียงไปในทางที่จะไม่รับร่าง ทำให้กลุ่มรับร่างต้องรีบส่งตัวแทนไปล็อบบี้สปช.จังหวัดเพื่อดึงคะแนนกลับคืนมา อย่างไรก็ดีช่วงนี้ซึ่งถือเป็นช่วงโค้งสุดท้าย สปช.ทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ มีการนัดหารือกันบ่อยขึ้น พร้อมกับประเมินสถานการณ์คะแนนเสียงทั้งในฝั่งของตัวเองและฝั่งตรงกันข้ามอย่างเข้มข้นทุกวัน
อ้างใบสั่ง’ผู้มีอำนาจในคสช.’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในการล็อบบี้ขอคะแนนจากสปช.ทั้ง 2กลุ่ม ต่างอ้างว่ามีคำสั่งจาก ‘ผู้มีอำนาจในคสช.’มากล่าวอ้างเพื่อให้ลงมติเป็นไปตามแนวทางที่กลุ่มต้องการ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ การเข้าไปนั่งในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ 200คน ตลอดจนการได้เป็นสว.สรรหา 123 คน ที่ครม.รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นคนตั้ง
สปช.บุรีรัมย์รับมีล็อบบี้จริง
ด้าน นายทิวา การกระสัง สปช.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มสปช.ไม่รับร่าง กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้มีการเข้ามาล็อบบี้ สปช.จังหวัดบางคนให้ผ่านร่าง โดยให้เหตุผลว่า ร่างฉบับนี้ให้อำนาจประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงสปช.เป็นคนตั้งตัวแทน 21คนเข้าไปเป็น กมธ.ยกร่างฯหากไม่รับร่างในผลงานที่ตัวแทนของสปช.ส่งเข้าไปจะทำให้ สปช.เสียหาย รวมถึงโน้มน้าวว่า หากรับร่างก็จะมีโอกาสได้เข้ามาทำงานต่อในตำแหน่งต่างๆ ส่วนคะแนนเสียงกลุ่มของตนขณะนี้มีเสียงเกิน 100เสียง พร้อมที่จะพลิกกลับมาชนะได้
‘ประชา’จี้ยึดประโยชน์ประเทศ
ขณะที่ นายประชา เตรัตน์ สปช.ชลบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ไปทำความเข้าใจเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญกับสมาชิก สปช.แต่กลับถูกมองว่า ไปล็อบบี้ ฉะนั้นตนไม่สนใจว่า จะคว่ำหรือจะรับ แต่คิดว่าสปช.247คน คงจะใช้สติปัญญาพิจารณา โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและบ้านเมือง เชื่อว่าคงไม่มีใครมาชักจูงได้
นปช.ยื่นคสช.ขอจัดเวทียำรธน.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากนหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน ว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มอบหมายให้ นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช.พร้อม นายสมหวัง อัสราษี อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำนปช. เป็นตัวแทนยื่นหนังสือขอจัดแถลงข่าวแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์ที่ 6กันยายน ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โดยมี พล.ต.หญิงบุษบง นุตสถิต ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นตัวแทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มารับหนังสือ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.นางเลิ้งและเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพบก ร่วมสังเกตการณ์ดูแลความเรียบร้อย
ยันไม่ยกทัพมวลชนมาวุ่นวาย
นายธนาวุฒิ กล่าวว่า ถือเป็นการแสดงจุดยืนของกลุ่มนปช.ต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ สปช.จะโหวตรับหรือไม่รับในวันที่ 6กันยายนนี้ ถือเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฎิรูปประเทสไทย เคยจัดแถลงข่าวมาแล้ว เป็นการแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่การปลุกระดมปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายใดๆทั้งสิ้น โดยวันนั้นจะไม่มีมวลชน มีเพียง นายจตุพร พงหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระกานต์ มุกสิกพงศ์ นางธิดา โตจิราการ นพ.เหวง โตจิราการ ตลอดจนถึงแกนนำนปช.คนอื่นๆ
ป๋าเปรมสอนตอบแทนแผ่นดิน
ส่วนที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานโครงการ”เยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน”รุ่นที่3 จัดโดยกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม โดยกล่าวให้โอกาสเยาวชนในพื้นที่ 4จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 117คน โดย พล.อ.เปรม กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่ง ว่า เธอเกิดในประเทศนี้ ไม่ว่าจังหวัดใด ขอให้พวกเธอมีความเข้าใจว่า เธอเกิดในประเทศไทย มีสัญชาติไทยและเป็นเจ้าของประเทศไทย เมื่อเราเป็นเจ้าของประเทศนี้ เราต้องมีหน้าที่ตามที่เขียนในรัฐธรรมนูญว่า คนไทยมีหน้าที่อะไรบ้าง แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่ได้เขียนในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ แม้แต่ร่างฉบับปัจจุบันคือ การตอบแทนบุณคุณแผ่นดิน เราคิดเรื่องนี้มา 20ปี คือ ต้องสอนคนไทย ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เรามีหน้าที่เหมือนกันคือ ตอบแทนแผ่นดินที่เกิดมา คือทำตนเป็นคนดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน นี่คือหน้าที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี