28 ก.ย. 58 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "ชูวิทย์ I'm No.5" วิพากษ์วิจารณ์ในประเด็น "เหยื่อการเมือง" โดยระบุว่ามีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่จำนวนมาก อาทิ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท ที่ยอมเสี่ยงเอาชื่อเสียงของวงตระกูลมาเดิมพันในเวทีการเมือง แต่แล้วตกเป็นเหยื่อของนักการเมืองอาวุโสโดยที่พวกไม่รู้ตัว ข้อความว่า
เหยื่อการเมือง
ผมเห็นกิเลสที่ครอบงำคนหนุ่มสาวที่อยากเกิดในแวดวงการเมือง ทุกคนล้วนมีต้นทุนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นดารา นักกีฬา หมอ นักข่าว จนไปถึงลูกคนรวยอย่าง น้องตั๊น ลูกเบียร์สิงห์ และ น้องนัท ลูกโนเบิล
ทั้งที่ความจริงแล้ว หากเจริญเติบโตในอาชีพการงานที่ตัวเองมี หรือที่ครอบครัวสร้างให้ จะเกิดประโยชน์ต่อสังคมมากกว่าการเป็นนักการเมือง
แต่พวกเขายอมเสี่ยง แม้จะเอาชื่อเสียงและธุรกิจครอบครัวเป็นเดิมพัน
ของอย่างนี้ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ และแล้วพวกเขาก็ตกเป็น "เหยื่อ" อันโอชะของบรรดานักการเมืองอาวุโส ที่หรี่ตากระซิบกระซาบ คอยยุยงส่งเสริม เพื่อให้คนหนุ่มสาวที่มีความคิดไร้เดียงสาทางการเมือง ซึมซับวาทกรรมผิดเพี้ยน
โดนหลอกขึ้นเวทีประท้วง เพราะหวังแจ้งเกิดทางการเมือง
พวกเขาเริ่มเปลี่ยนไป มองผู้เห็นต่างเสมือนหนึ่งศัตรูคู่อาฆาต หวาดระแวงและเอาแต่โทษเพื่อนร่วมชาติที่มีอุดมการณ์ที่แตกต่าง ว่าเป็นผู้ไม่รักชาติ (ผู้รักชาติสงวนให้กับพวกตัวเองเท่านั้น)
จากหนุ่มสาวผู้สดใส กลายเป็น "ทาสกามารมณ์การเมือง" โดยไม่รู้ตัว
ส่วนผมนั้นมันคนต้นทุนต่ำ ผ่านมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ รู้จักสันดานคน มองคนทะลุกระดูก
โลกการเมือง คือ โลกของการหลอกลวง ไว้ใจใครไม่ได้ แม้แต่ใจตัวเอง
คุ้มกันแล้วหรือสำหรับคนเหล่านั้น ที่ตกเป็นเหยื่อการเมืองให้กับพวกนักการเมืองเขี้ยวลากดิน?
หากคิดว่าคุ้มก็ลองเสี่ยงดู
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้โพสต์ข้อความต่อเนื่องในประเด็น "ครูการเมือง" โดยยกย่องนายอลงกรณ์ พลบุตร นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ที่แม้จะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสามก็เป็นครูทางการเมืองที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งแตกต่างกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ข้อความว่า
ครูการเมือง
หลังจากที่ผมโพสต์เรื่อง "เหยื่อการเมือง" ต่อไปผมจะพูดถึง "ครูการเมือง" เพื่อให้คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าสู่แวดวงการเมืองได้รู้ว่า อะไรคือของจริง อะไรคือของปลอม
ทุกอาชีพย่อมมีครูที่คอยสอนทั้งทางตรงและทางอ้อม เราสามารถนำมาเป็นตัวอย่างที่ดีได้ การเมืองก็เช่นกัน
ในอาชีพนักการเมืองของผมจะสั้นหรือจะยาว วันนี้แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่ทราบ แต่จากประสบการณ์นับจากวันที่ก้าวเข้าสู่สภา มีครูการเมืองที่ต้องขออนุญาตเอ่ยนามดังต่อไปนี้
1.อลงกรณ์ พลบุตร รู้จักรุก รู้จักถอย เมื่อรุกแล้วไม่เคยยอมแพ้
2.นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แข็งกร้าวอย่างนิ่มนวล รู้ทิศทางการเมือง
3.พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล รอบรู้เรื่องการคลังเป็นที่สุด
ที่เอ่ยชื่อมาล้วนอยู่พรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น แม้อุดมการณ์ของผมจะสวนทางกับพรรคประชาธิปัตย์อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่ใช่ผมจะชมคนไม่เป็น
การเป็นนักการเมืองต้องรู้จักแยกแยะ อย่างที่เขาบอก "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรในทางการเมือง"
สำหรับผม ประชาธิปัตย์แบบสามท่านนี้ที่ผมนับถือ ไม่ใช่ประชาธิปัตย์แบบสุเทพกับอภิสิทธิ์อย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี