5 ต.ค.58 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ครั้งที่ 3/2558 โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม , พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก , พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 , พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วมประชุม
จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการรับรองรายงานการประชุม คปต.ครั้งที่ 2/2558 รวมถึงเรื่องการขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ 2559 และการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน
ด้าน พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า สำหรับแนวทางการเจรจาสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงยืนยันเดินตามแนวทางที่รัฐบาลวางไว้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความก้าวหน้า ส่วนที่ก่อนหน้านี้เครือข่ายมารา ปาตานี จะมี 3 ข้อ เสนอมาถึงรัฐบาล หากข้อเสนอใดสามารถดำเนินการได้ ก็จะต้องมาพูดคุยในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร และเรื่องดังกล่าวนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงชัดแจนแล้วว่า ในบางประเด็นตามข้อเรียกร้องนั้นได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว การเจรจาพูดคุยถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา และการแก้ไขปัญหาในปี 2558 เป็นไปด้วยดีมากขึ้น เพราะ คปต.เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การแก้ไขปัญหาในเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปด้วยดี ซึ่งมีการบูรณาการในทุกเรื่อง ทั้งยังมีการติดตามผลประชุมและข้อสั่งการอย่างใกล้ชิด จึงสามารถแก้ไขปัญหาได้ในทันที เรามีความชัดเจนในการเจรจา ดังนั้น ผู้ที่ไปเจรจาจะมีความสบายใจในการพูดคุย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี