ยันใช้อำนาจปกครอง
สั่ง‘ยิ่งลักษณ์’
จ่ายค่าเสียหายคดีข้าว
‘บิ๊กตู่’ท้าให้ไปฟ้องศาลปค.
ชี้คำสั่งมิชอบไม่มีผลทางกม.
ยืนยันไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชา
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ศูนย์บริการประชาชน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
และนายสมหมาย ภาษี อดีตรมว.คลังเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกฟ้องให้ชำระหนี้โครงการจำนำข้าว โดยขอให้ทบทวนคำสั่งทางปกครองในการดำเนินการ และเปิดโอกาสให้โต้แย้งแสดงพยานหลักฐาน โดยมีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงษ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชนเป็นผู้รับเรื่อง
ยื่นนายกฯทบทวนคำสั่งใช้หนี้ข้าว
นายนรวิชญ์ เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือดังกล่าวเพื่อคัดค้านคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 448/2558 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด แต่ถ้านายกฯยืนยันคำสั่งดังกล่าว ขอให้นายกฯกำกับดูแล ควบคุมให้คณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นมาปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์ปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 2539 ข้อ 15 โดยเคร่งครัดและให้โอกาสน.ส.ยิ่งลักษณ์โต้แย้งแสดงพยานหลักฐานต่อไป
ยกคดี“เริงชัย”โต้ใช้มาตรการปกครอง
“น.ส.ยิ่งลักษณ์มองว่าตำแหน่งนายกฯไม่อยู่ภายใต้พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด และไม่อยากให้ใช้มาตรา 57 พ.ร.บ.ปฏิบัติราชการทางปกครอง ทั้งนี้ ต้องขอบคุณนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ยกคดีนายเริงชัย มระกานนท์ ถูกกล่าวหาจงใจหรือกระทำการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง คล้ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่หลังสอบสวนได้ฟ้องศาลแพ่ง และไม่ใช้มาตรการทางปกครอง ฉะนั้น คดีน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงอยากให้ดำเนินการลักษณะเดียวกัน”นายนรวิชญ์กล่าว
“ปู”ย้ำคำสั่งมิชอบไม่มีผลบังคับ
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯโพสต์ข้อความฝ่ายทวิตเตอร์ย้ำว่า คำสั่งกระทรวงการคลังเรื่องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด โดยพล.อ.ประยุทธ์และอดีตรมว.คลัง เป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลบังคับทั้งผู้ออกคำสั่งก็อาจต้องรับผิดชอบด้วย ทั้งนี้ ตนไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาในสายการบังคับของนายกฯและรมว.คลังในการที่จะออกคำสั่งดังกล่าวได้ การดำเนินนโยบายที่แถลงไว้กับรัฐสภาเป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบทางการเมือง มิใช่เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐกระทำโดยใช้อำนาจปกครอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังย้ำว่า กรณีนโยบายรับจำนำข้าวไม่ใช่คดีพิพาทที่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลปกครอง ดังนั้นการกระทำของตนจึงมิอยู่ภายใต้พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯมาตรา4 (1) แห่งพ.ร.บ.ปกครองพ.ศ.2539 บัญญัติชัดว่าห้ามมิให้ใช้พ.ร.บ.ฯ บังคับแก่ “รัฐสภาและครม.” มาตรา4 (3) บัญญัติชัดห้ามมิให้ใช้พ.ร.บ.ปกครอง พ.ศ.2539บังคับแก่การพิจารณาของนายกฯหรือรัฐมนตรีในงานนโยบายโดยตรง จึงชัดเจนว่าพล.อ.ประยุทธ์ มิอาจนำพ.ร.บ.ปกครอง พ.ศ.2539 มาใช้บังคับกับตนได้ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
ยันคำสั่งทางปกครองทำตามกม.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงการออกคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายโครงการจำนำข้าวจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ผิดถูกยังไม่รู้ต้องพิสูจน์กันต่อไป แต่สิ่งที่ยังปล่อยไม่ได้ เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการละเว้นให้มีการกระทำเหล่านี้ และอายุคำสั่งทางปกครองจะหมดภายใน 2 ปี ถ้าไม่ทำก็จะถูกดำเนินการ จึงเป็นหน้าที่ของตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่ต้องส่งเรื่องไป ซึ่งเป็นมาตรการทางการปกครองที่ต้องเรียกร้องค่าเสียหาย มีกฎหมายอยู่แล้วตามมาตรการปกติ ไม่ใช่กฎหมายใหม่ และไม่ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ดำเนินการ ซึ่งการเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆ ใช้เวลากว่า 10 ปี แต่เราจะไม่ใช้กลไกพิเศษแก้ปัญหานี้ เพราะจะทำให้ปัญหาทับซ้อนไปเรื่อยๆ และต้องการให้เป็นคดีตัวอย่าง
ไล่“ปู”ไม่ยอมรับไปฟ้องศาลปค.
“ถ้าเรียกค่าเสียหายแล้วไม่จ่ายหรือไม่ยอมรับ สามารถฟ้องศาลปกครองได้ การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ส่งจดหมายผ่านทนายความนั้น อาจไม่ได้เป็นคนเขียนเองอยู่แล้ว คงเป็นคำแนะนำของทนาย”นายกฯกล่าว และว่า การที่ทนายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตีความว่าคำสั่งทางปกครองต้องใช้กับข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น ที่จริงมีการระบุไว้ ฉะนั้นช่วงแรกนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในส่วนกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงพาณิชย์ ที่เกี่ยวกับการทุจริต และการทำธุรกิจระหว่างรัฐต่อรัฐ ตนต้องเสนอเรื่องร่วมกับรัฐมนตรี ตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่จ่ายค่าเสียหายก็ไม่มีอำนาจทำอะไร ก็จะฟ้องศาล กลับไปสู้ในศาลปกครอง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ส่วนเจตนาส่งจดหมายนั้น ตนไม่ทราบ ให้คิดกันเอง ฝ่ายกฎหมายอาจเขียนมาเพื่อให้สื่อมาถามตนแทน ซึ่งทนายต้องรู้ว่ากฎหมายว่าอย่างไร แล้วทำไมถึงทำ หรือไม่เคยเสนอให้รัฐบาลที่ผ่านมารับรู้ว่ามีอะไรบ้างที่ต้องระวัง ส่วนรายงานสรุปตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวนั้น ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งต้องทำให้ชัดเจนรัดกุม ไม่ให้มองเป็นการกลั่นแกล้ง ใครก็ตามที่เป็นหัวหน้ากำหนดนโยบายต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดความเสียหาย ตนจำเป็นต้องทำตามกฎหมายไม่ให้เกิดการละเว้น และต้องทำให้เกิดความเป็นธรรม เพื่อไม่เป็นปัญหาในอนาคต
“บิ๊กป้อม”ปัดกลั่นแกล้งยิ่งลักษณ์
ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมกล่าวถึงกรณีทนายน.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากนายกฯ พร้อมคัดค้านการออกคำสั่งตามพ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ในการเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวโดยยืนยันว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการกลั่นแกล้งอะไรทั้งสิ้น อะไรทำได้ก็ทำ เพราะอยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ถ้าไม่เรียบร้อยภายใน 2 ปีรัฐบาลจะเดือดร้อน
ครม.มอบ“วิษณุ”ดูคดีสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครม.มอบให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปดูความคืบหน้าคดีสำคัญ ประกอบด้วย 1.คดีค่าทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ 2.การฟ้องร้องสถานีโทรทัศน์ไอทีวี 3.การทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน 4.โครงการโฮปเวลล์ 5.คดีโครงการทางด่วนสายบางนา-บางพลี-บางปะกง 6.คดีบริษัทฟิลลิป มอร์ริส 7.คดีบริษัท วอลเตอร์ บาว จำกัด (Walter Bau) ฟ้องรัฐบาล ในโครงการก่อสร้างโทลล์เวย์ 8.คดีข้อพิพาททีโอทีกับเอไอเอส 9.คดีโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
เปิดกรุครม.ตู่2-3”อภิศักดิ์”อู้ฟู้
วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของรัฐมนตรี และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในรัฐบาล ครม. ประยุทธ์ 3 กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 19 ราย โดยผู้ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินใน ครม.ประยุทธ์ 3 อันดับ 1 คือ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังมีทรัพย์สินรวม 394,114,426.53 บาท ไม่มีหนี้สิน รองลงมา คือ พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ มีทรัพย์สิน 184,278,868.26 ไม่มีหนี้สิน และนายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 168,550,175.51 ส่วนผู้ที่มีทรัพย์สินน้อยที่สุดในครม.ประยุทธ์ 3 คือ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯ มีทรัพย์สิน 13,269,140.06 บาท มีหนี้สิน 2,483,789 บาท มีทรัพย์สินรวม 10,785,261.06 บาท
สำหรับ ครม.ที่พ้นตำแหน่ง ผู้ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินรวม 1,302,038,134.06 บาท รองลงมา นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีต รมว.เกษตรนมีทรัพย์สิน 801,989,984.46 ลดลง 28,533,804.87 บาท
ปปช.ยันพล.อ.ปรีชายื่นบัญชีถูกต้อง
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยถึงการตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ช่วงดำรงตำแหน่ง สนช.ว่า จากการตรวจสอบทั้งในส่วนรายการเงินฝากคู่สมรส เงินฝากของกองทัพภาคที่ 3 พล.อ.ปรีชาดำเนินการถูกต้อง และตรวจสอบพบมีทรัพย์สินและหนี้สินถูกต้องมีอยู่จริงตามที่ผู้ยื่นได้แสดง มิได้มีเจตนาปกปิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี