30 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.15 น.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์บ้านเมืองไทยในปัจจุบัน ดังนี้
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
สัปดาห์นี้วงการกรีฑาผู้พิการของไทยได้สร้างชื่อเสียง และนำความสุขมามอบให้กับพี่น้องชาวไทยนะครับ โดยคุณเรวัตร์ ต๋านะ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์โลกวีลแชร์ เรซซิ่ง 1,500 เมตร ที 54 มาได้ในการแข่งขัน ไอพีซี แอธเลติกส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2015 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา นอกจากนี้ คุณสายชล คนเจน ก็สามารถคว้าเหรียญเงินมาครอง ในการแข่งขัน200 เมตร ที 54 อีกด้วยครับ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและชื่นชม ในนามของรัฐบาล ผมขอยกย่องและขอบคุณ นักกีฬาทุกคนเลยนะครับ ที่เป็นตัวแทนประเทศ นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยของเราครับ
วันนี้ผมมีข้อห่วงใยและเรื่องเรียนให้ทราบ ดังนี้ครับ
เรื่องอุบัติเหตุทางถนน เป็นเรื่องที่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีกังวลและห่วงใยมาโดยตลอด มีความพยายามในหลายวิธีการ เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนต้องสูญเสียชีวิต หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาล ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยายนต์ รถโดยสาร รถทัวร์ และรถรับจ้าง โดยสถิติการสูญเสียชีวิตนั้น จากการจราจร สูงมากนะครับ ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ อันมีค่าสูงสุดของประเทศ และการสูญเสียทางเศรษฐกิจด้วย คงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้นะครับ ไม่มีใครมีความสุขที่ได้เห็นสถิติการเสียชีวิต การบาดเจ็บหรอกครับถึงแม้ว่าจะลดลงยังไงก็ตาม แต่ก็มีคนเจ็บ คนตายอยู่ นะครับ ผมก็ไม่อยากให้มีสักคนเดียว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้สั่งการทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้ไปหาแนวทางในเรื่อง ทบทวนหลักเกณฑ์ กติกา ข้อกฎหมาย ในการควบคุมการขับขี่ยานพาหนะ การใช้รถใช้ถนน การจราจร ตลอดจนเงื่อนไขการประกันภัย ประกันชีวิตต่าง ๆ
ให้ปรับปรุงมาตรการควบคุม พลขับ พนักงานขับรถ ทั้งภาครัฐและเอกชน มีเครื่องมือในการควบคุมความเร็ว เช่น เรื่องระยะเวลาในการทำงานของพนักงานขับรถต้องไม่เกินกี่ชั่วโมงต่อวัน ความเร็วต้องไม่เกินเท่าไหร่ ใช้เครื่องมือควบคุมได้อย่างไร นะครับ ตลอดจนมาตรการควบคุมไม่ให้พนักงานขับรถที่เมาสุรามาขับรถหรือมีกลิ่นสุรามาขับรถได้ สำหรับรถเมล์ใหม่ รถรับจ้างใหม่ ที่กำลังจัดหาจะต้องมีเครื่องมือพิเศษนะครับ เช่น GPS หรือเครื่องควบคุมความเร็ว ควบคุมพลขับ รถเก่านั้นก็ค่อย ๆ ปรับปรุงไปนะครับ แต่เร่งได้ก็เป็นการดีจะช่วยลดปัญหาการบาดเจ็บและสูญเสียจากรถได้มากมายนะครับ ในโอกาสต่อไป
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องการปรับปรุงถนน ที่กลับรถ ทางโค้ง เส้นทางอันตราย ที่ขึ้นเนินอะไรก็แล้วแต่ ที่มีความเสี่ยง ไม่ปลอดภัย รวมทั้ง อุปกรณ์ทันสมัยให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลการจราจรและอุบัติเหตุ โดยให้บูรณาการงบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน มาดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม
เรื่องของการท่องเที่ยว สำหรับการใช้ที่ดินเพื่อการท่องเที่ยว ที่ถูกกฎหมายนั้นก็ไม่มีปัญหา จัดระเบียบภายในได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นที่ดินที่มีปัญหาอยู่ในการที่จะสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ถูกบุกรุกอยู่ปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ภูทับเบิก เราจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อนนะครับ และตรงตามวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนด
ในบางพื้นที่ที่อาจจะมีความบกพร่อง ไม่ถูกต้อง ก็ต้องหามาตรการรองรับนะครับ แต่ทุกคนที่บุกรุกอยู่จะต้องยอมรับในกฎหมาย กฎหมายว่าอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น ไม่ใช่ก็ยังคงประกอบการต่อไปแต่จะต้องหาทางว่า รัฐบาลจะทำยังไงกับบุคคลเหล่านี้ แต่ถ้าในพื้นที่ที่ถูกต้องก็บริหารจัดการกันให้มีความเรียบร้อย สวยงาม สะอาดนะ เป็นที่ท่องเที่ยว ที่พักของนักท่องเที่ยว ตอนนี้การท่องเที่ยวเรากำลังบูมอยู่นะครับ เพราะงั้นผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายจะต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นมีการกระทำความผิด อยู่นะครับ จะให้รัฐช่วยเหลืออะไรอย่างไร ถ้าไม่ยอมรับกันก็ช่วยอะไรไม่ได้นะครับ
อีกประการหนึ่งคือประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับรัฐ เคารพกฎหมาย ไม่สนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ ผิดกติกาที่กำหนด โดยไม่มีการบอกว่าทำผิดด้วยความจำเป็นเพราะไม่มีรายได้ หรืออยากให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยที่ไม่ได้ดูว่าบุกรุกสถานที่หรือเปล่า บุกรุกป่าไม้หรือเปล่า อะไรทำนองนี้นะครับ เรากำลังทำเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนขึ้นนะครับ ต่อไปในอนาคตแล้วยั่งยืนด้วยนะครับ
สำหรับในเรื่องผลิตผลทางการเกษตรทุกชนิดนั้น ปัจจับันรัฐบาลกำลังกำหนดมาตรการช่วยเหลือ ในการปรับโครง สร้างการเกษตร เพื่อให้ชาวเกษตรกรได้ยืนอยู่อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนด้วยตัวของตัวเอง เข้มแข็งจากภายใน ดังนั้น ผมขอเตือนบรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆนะครับ ว่าอย่าได้นำเกษตรกรมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล เพราะรัฐบาลนี้ จะไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่ไม่เกิดประโยชน์แก่ตัวท่านนะครับ เราจะดำเนินการในลักษณะสร้างความเข้มแข็งให้พวกท่าน ขอเป็นให้ทุกคนร่วมมือกับเรานะครับ ในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบแล้วก็ยั่งยืนจะดีกว่านะครับ ทุกๆคน ทุกคณะที่มานี่ ผมได้ให้หน่วยงานชี้แจงไปแล้วนะครับ ว่าถ้าฟังเรา แนวทางของเรา แล้วก็ร่วมมือกับเราเราก็ดูแลได้ แต่ถ้าไม่เอาอะไรสักอย่างเลย แล้วก็ดื้อดึงขัดขืนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายนะครับ
สำหรับมาตรการในการช่วยเหลือด้านภาระหนี้สินต่างๆ เราทราบดีนะครับ ปัญหาของเราก็อยู่ที่ว่า หนี้ทุคนมีเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกร ครู ข้าราชการ หรือหนี้ครัวเรือนของประชาชนทั่วไปนะครับ ผ่านมาเป็นเวลาที่ยาวนานมาแล้ว ทุกคนก็ลำบาก ทุกคนก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไปกู้ธนาคารบ้าง อะไรบ้าง แต่ต้องกลับมาทบทวนดูนะครับว่า การที่เรามีหนี้นั้น เป็นหนี้เกิดจากอะไรนะครับ เพราะงั้นก็อย่าให้เพิ่มเติมจากเดิม
รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้นะครับ ก็คงต้องใช้เวลาแล้วก็มีมาตรการที่เหมาะสมนะครับ จะต้องแก้ทั้งระบบ โดยการช่วยเหลือของระบบธนาคารรัฐ ธนาคารพาณิชย์อะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องระมัดระวังหนี้ NPL นะครับ คงไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า ไม่ยั่งยืน วันหน้าก็เกิดขึ้นมาใหม่อีก จะทำยังไงนะครับ เราไม่อาจจะยกหนี้สินให้ใครได้ทันที มีหลายกลุ่มนะครับ จะพยายามมาบีบบังคับให้รัฐบาลยกหนี้ให้ทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ นะครับ นึกถึงคนอื่นเขาด้วยนะ ทำไม่ได้หรอกครับ เป็นเรื่องการประกอบการในเรื่องของการธนาคาร แหล่งเงินทุนต่างๆ นะครับ ก็ขอร้องในส่วนของเงินทุนนอกระบบด้วยนะครับ ก็ขอให้ระมัดระวังนะครับ อย่าให้ผิดกฎหมายนะครับ ดูแลคนให้มีความสุขนะครับ
วันนี้มันวุ่นวายไปทุกเรื่องเลยนะครับ ทั้งความจน ทั้งการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งความลำบากต่างๆ เหล่านี้ ทำให้บ้านเมืองสับสนอลหม่านไปทั้งหมดเลยนะครับ เพราะอย่างนั้นปัญหาเหล่านี้เรากำลังแก้อยู่ทั้งระบบ ทั้งหมดเลยนะ คน 70 ล้านคนนี่ จะทำยังไง จะอยู่อย่างมีความสุข ก็ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือ ร่วมกันพิจารณาหาทางออกให้ได้ อย่าคิดว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะได้ทั้งหมด ได้แบบที่ต้องการ มันไม่ได้หรอกครับ เพราะรัฐบาลไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไปนะครับ
เรากำลังพิจารณาทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะของประเทศ ได้มีการพูดคุยในฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังแล้ว ว่าจะทำกันยังไงนะครับ สิ่งใดที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือไม่มีมูลค่าในอนาคต วันนี้รัฐบาลก็ไม่อยากจะสนับสนุนนะครับ สำหรับมาตรการที่รัฐบาลออกไป เพื่อให้คนมีรายได้น้อย ได้มีที่อยู่อาศัย และเป็นการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ก็อาจจะเป็นหนี้ที่เกิดจากการกู้เงิน เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เราก็ต้องมีมาตรการป้องกันนะครับ มีมาตรการไม่ให้เป็นหนี้สูญอีกเช่นกัน อันนี้หลายคนก็มาสงสัยว่าจะเหมือนกับรถยนต์คันแรกหรือเปล่า ถ้าเรามองเผินๆ นะครับ อาจจะคล้ายกันหรือเปล่า แต่ถ้ามองในข้อเท็จจริงแล้ว มันไม่เหมือนหรอกนะครับ เพราะว่าเราไม่ได้มีการคืนภาษีเป็นเงินสดไปก่อน วันนี้ก็ต้องผ่อนชำระกันไป อะไรกันไปนะครับ มีการลดดอกเบี้ยบ้าง ลดการผ่อนชำระบ้าง อะไรบ้าง
นั่นแหละครับเป็นการแก้ปัญหาด้วยระบบการเงินการธนาคาร นะครับ หรือมาตรการทางภาษี ไม่ใช่คืนเงินสด ต้องไปหาเงินสดมาคืนให้ไปก่อน ทุกคนก็ซื้อกันใหญ่โต มันก็เป็นการสร้าง Demand เทียม ไปนะครับ วันนี้ก็โชคดี ที่มันดีขึ้นนะครับ ในเรื่องของธุรกิจการส่งออก หรือธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องยานยนต์นะครับ วันนี้ก็เริ่มดีขึ้น แต่ติดปัญหามาหลายปีมาแล้ว นะ เกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ สร้างดีมานเทียม เราจะต้องทำอะไรไม่ผิดวินัยการเงิน-การคลังนะครับ
มาตรการทางภาษี เป็นสิ่งที่รัฐสามารถทำได้นะครับ แล้วก็จะต้อง ได้รับความร่วมมือทั้งสถาบันการเงิน ทั้งรัฐและเอกชนร่วมมือกันนะครับ แล้วรัฐก็จะต้อง ช่วยเหลืออยู่แล้วนะครับในส่วนนี้ ไม่ใช่ว่าปรับให้เปล่า แล้วเราไม่ช่วยดูแลเลย มันคงไม่ได้ รัฐบาลดูแลอยู่แล้วนะ หลายคนพูดว่ารัฐบาลก็ช่วยให้กู้ๆ แต่รัฐบาลก็ไปดูแลเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ รัฐบาลก็ต้องเสียเงินเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ไม่เสียนะ แต่เสียยังไงให้เกิดความยั่งยืน ใช้เงินให้น้อยที่สุดนะครับ เพราะเงินเราก็น้อยลงๆ รายได้ก็ได้น้อยลงอีกเหมือนกันนะ
เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ปัจจุบันก็เดินหน้าไป ของคุณทุกคน เมื่อวานได้พบแม่น้ำ 5 สายแล้วนะครับ ก็ทำความเข้าใจร่วมกันว่าเราจะเดินหน้าประเทศอย่างไรนะครับ ด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกัน ด้วยการบูรณาการ แล้วก็การมีส่วนร่วมของประชาชนนะครับ วัตถุประสงค์ที่เราต้องการ ก็คือทำยังไงให้ประเทศชาติและประชาชนปลอดภัยนะครับ มีเสถียรภาพ ได้พูดถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะมีกลไกอะไรก็แล้วแต่นะครับ
มีการดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่เปลี่ยนผ่าน ไปสู่รัฐธรรมนูญ นะครับ มีรัฐธรรมนูญ แล้วก็มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นะครับ เพราะงั้นวันนี้เราต้องหารรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับประเทศไทยของเราให้ได้นะครับ ก็ขอความร่วมมือด้วยนะครับ จากทั้ง กรธ./ สนช./สปท. คงเข้าใจกันดีแล้วนะครับ ประเด็นสำคัญก็คือว่า ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคณะทำงานใดๆก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็น ประชาชน ต้องมองกลับมาที่ ปัญหานะครับ ของบ้านเรา โจทน์ของบ้านเราว่ามันมีอะไรบ้าง แล้วเกิดจากปัจจัยภายใน ภายนอก อย่างไรเพราะงั้นขั้นตอน ในการแก้ปัญหาควรจะเป็นอย่างไร วิธีการ How to do? แล้วก็ Road Map ในแต่ละเรื่องที่จะต้องปฏิรูปเหล่านี้ ต้องมีการลงรายละเอียดว่าจะแก้ได้อย่างไรให้ยั่งยืนนะครับ จะต้องมีการประสานงานกัน บูรณาการกัน รับฟังความคิดเห็น อย่างต่อเนื่องนะครับ พวกที่ เราเปิดช่องทางให้หลายช่องแล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็นในช่องของ กรธ สนช. สปธ. แล้วก็มีช่องทาง ทางโซเชียล-มีเดีย เว็บไซท์ เยอะแยะไปหมด
ก็เสนอเข้ามาซิครับ แล้วก็ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็น เดี๋ยวพอเขาเริ่มร่างเริ่มทำอะไรกัน เขาก็จะไปสร้างความเข้าใจทุกพื้นที่นะครับ ก็ขอความกรุณาให้มาร่วมกันด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นนะครับ ที่ผ่านมาผมตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าคนที่มาฟังนั้น เป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรมากนัก ก็มาเสนอโน่น เสนอนี่ แต่คนที่ถูกชักจูงว่าไม่ต้องมา ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งกลุ่มนี้จะปฏิเสธทุกอย่าง ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรนะครับ ไม่ร่วมมือไม่ร่วมใจทั้งสิ้นนะ แล้วก็ไปอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน ไปโน่นเลย แล้วก็บอกรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ก็เปิดมา ก็มาซิครับ วันนี้ผมก็รับจากทุกทางนะ
หลายท่านก็เขียนจดหมายมาโดยตรงที่ผมด้วย ว่าขอร่วมมือกันตรงนั้นตรงนี้ ผมก็ยินดีนะครับ วันนี้ผมก็ได้ให้คนไปพบปะกับ ทั้ง อาจารย์ นิสิต นักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยนะครับ ขอร้องกัน ว่าวันนี้ ประเทศชาติ เป็นอย่างไร ขอให้เข้าใจหน่อยเถิดครับ วันหน้าก็ต้อง กลับมาสู่การเป็นประชาธิปไตยอยู่ดี วันนี้เรียกร้องกันวันนี้ ก็ปฏิรูปไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนคิดว่า แหม ไม่ต้องปฏิรูปอะไรเลย ผมก็จนใจนะ ก็มีปัญหาหมด ทางกฎหมายด้วยอะไรด้วย ผมไม่อยากทำให้ทุกคนเดือดร้อนนะ
เรื่องของการจัดระเบียบสังคมนะครับ ทั้งในพื้นที่ กรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ป่าเขา ชายหาด การจัดระเบียบ รถจักรยานยนต์รับจ้าง คิวรถตู้ การค้าขายบนทางเท้า หาบเร่ แผงลอย ทหารได้จัดไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา บางพื้นที่ก็ยังเรียบร้อยอยู่ ประชาชนมีความสุข ก็มีความทุกข์อยู่บ้างสำหรับคนที่เคยกระทำความผิดอยู่ในบริเวณนั้น ทำไม่ได้ยังไง ก็พอผ่านไปแล้วก็จะไปทำเรื่องอื่น ทหาร จะไปตรงอื่นก็ต้องกลับมาดูที่เก่าใหม่ ผมก็ไม่ทราบว่าประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในพื้นที่ดูแลกันอย่างไร บางครั้งผมได้ข่าวมาด้วยนะครับ เจ้าหน้าที่ก็ไปอ้างว่า เพรา คสช. มาทำให้เขาลำบาก นี่เจ้าหน้าที่แบบนี้ยังมีอยู่เลยนะ
เพราะงั้นก็ขอให้ กทม.ได้มีการตรวจสอบด้วยนะครับ ในทุกพื้นที่ ต้องเข้าใจกัน สร้างความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่เอาตัวรอด ที่ทำมานี่เพราะ คสช. สั่ง เพราะนายกฯ สั่ง ผมสั่งเพื่อใครล่ะครับ แล้วท่านต้องทำงานอย่างไร อย่าให้เกิดขึ้นอีกโดยเด็ดขาดนะครับ การบุกรุกสถานที่ ต่างๆ เหล่านี้ ไม่เป็นระเบียบ ถ้าอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรง ผมจะเริ่มพิจารณาโทษนครับ เพราะว่าปล่อยให้กลับมาเหมือนเดิมอีกไม่ได้ อย่าให้ทั้งประชาชนคนไทย ทั้งต่างประเทศ นักท่องเที่ยว เขาเดือดร้อนนะ การตรวจสอบต่างๆ ที่ผ่านมานั้น ขอให้หน่วยงานระดับล่างนะครับ ลงไป ได้ลงไปในพื้นที่ แล้วไปดูซิว่าสิ่งที่เราทำกันวันนี้นี่ มันสามารถจะทำต่อไปได้หรือไม่
ที่ผ่านมามีปัญหาอย่างไร แล้วนำเรื่องที่เป็นปัญหานั้นมาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาแก้ปัญหา แต่เรื่องที่ต้องรักษาระเบียบกติกาต้องมาก่อน แล้วก็ทำยังไงจะไม่เกิดความขัดแย้ง ไม่สร้างปัญหาใหม่ เพราะงั้นเราอาจจะต้องมาพิจารณาซิว่า ถ้าสมมุติว่าหน่วยงานในพื้นที่ หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงทำไม่ได้ก็ยุบไปเลยดีกว่า จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องเหล่านี้ จากพลเรือน ตำรวจ ทหารไหมนะครับ ก็ไปหาทางออกมา ถ้ายังปล่อยกันอยู่แบบนี้ ไม่เกิดประโยชน์ ในการที่จะให้รับผิดชอบอะไรสักอย่างก็ไม่ได้ทั้งหมดนั้นแหละ วันหน้าก็เกิดขึ้นมาใหม่ และข้อสำคัญคือประชาชนต้องมีส่วนร่วมด้วยนะครับ เริ่มตั้งแต่ ไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ไปหาทางอออกซิว่าจะไปทำอาชีพอะไรยังไง ที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นเขา ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลนะครับ การค้าขายถ้าค้าขายในที่ไม่ถูกต้องก็อย่าไปอุดหนุนกัน เป็นการอุหนุนที่ไม่ถูกวิธี
สำหรับในเรื่องของการรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ต่างๆ ริมแม่น้ำ คูคลองผมก็ยังเป็นห่วงอยู่นะครับ ต้องมีการแก้ไขการบุกรุก ให้ได้อย่างยั่งยืน แล้วก็ดูแลว่าจะทำยังไงกัน สำหรับผู้ที่เดือดร้อน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ทั้งสิ้น ที่ทุกคนทำมาจนเป็นปกติ เมื่อบังคับใช้กฎหมายก็บังคับไม่ได้ รัฐก็พยายามจะดูแลคุณภาพชีวิตให้อยู่นะครับ วันนี้ก็ให้กระทรวงพัฒนาความมั่นคงมนุษย์นะครับ ไปดูและในเรื่องของจัดหาที่อยู่อาศัยให้ได้นะครับ ในลักษณะเป็นการผ่อนชำระ ราคาถูกอะไรก็แล้วแต่ ดูแลทั้งหมดนะครับ
กำลังทำเป็นแผนงานอยู่ทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ชั้นผู้น้อยนี่ เป็นหลักก่อนนะครับ รวมทั้งประชาชนด้วยในทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ซึ่งต่อไปนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ หลายพื้นที่ที่เคลียไปแล้ว จะต้องไม่กลับมาใหม่ แล้วก็ดำเนินการ หามาตรการดูแลให้ได้ เรื่องคูคลองหลายแห่งตื้นเขินนะครับ วันนี้ก็มีปัญหาเรื่องการส่งน้ำ การระบายน้ำ เวลาน้ำท่วมก็มีปัญหา น้ำแล้วก็ส่งน้ำไปไม่ได้ จากคูคลอง ไปคลองซอย คลองอะไร เพราะมันตันทั้งหมดนะ ไม่ได้รับการดูแลมา
ผมไม่รู้ว่าหน้าที่ของใครนะ มีหน้าที่ของ อบท. บ้าง ซึ่งเป็นหลักนะ เมื่อรัฐสร้างอะไรไปแล้ว ก็ต้องดูแลในขาดเล็กต่างๆ เหล่านี้ ต้องดูแลนะครับ ท่านก็มีเงินมีทองอยู่ ส่วนหนึ่ง ถ้าไม่พอก็บอกออกมา รัฐบาลก็จะต้องหาเงินไปเสริมให้เป็นเรื่องเป็นราวไป
ไม่ใช่ว่าผ่านมาทั้งหมด ก็ตื้นเขินเหมือนเดิมนะ ไปตรวจที อะไรที ก็เห็นแต่ความทรุดโทรม ใช้การไม่ได้ ก็ตอนสร้างเสร็จแล้ว ส่งไปให้รับผิดชอบนั่นแหละครับ ตอนนั้นก็ดีอยู่ แล้วท่านก็บอกว่า ไม่มีเงิน ไม่มีทองดูแลแต่ไม่ใช่อย่าเดียวนะ ไม่มีเงินก็โอเคล่ะ รัฐจะต้องดูแลให้ แต่ปัญหาก็คือท่านไม่ดูซะมากกว่า ก็เลยแย่ไปหมด นี่ก็ต้องเสียหายไป 70-80% แล้วจะทำยังไง อย่าให้เกิดขึ้นอีกนะครับ เรื่องการทิ้งขยะก็เหมือนกัน อย่าทิ้งสิงปฏิกูลต่างๆ หรือขยะลงไปในแม่น้ำในน้ำ ลำคลองต่างๆ มันเป็นบ่อเกิดของน้ำเสีย
สำหรับการจัดการเรื่องขยะ นั้นเป็นเรื่องใหญ่นะครับ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ ไม่จำเป็นไม่เห็นต้องสร้าง ไม่เห็นต้องทำ ไม่เห็นต้องใช้จ่ายงบประมาณ วันนี้เราก็ทราบอยู่ว่าเรื่องขยะนั้น เป็นหน้าที่ของ อปท. นะครับซึ่งอาจจะมีงบประมาณน้อยไม่เพียงพอ เพราะอะไรล่ะครับ เพราะอัตราเก็บเงินค่าขยะน้อยมาก รู้สึกว่าเดือน 20 กว่าบาท มั้ง จะทำได้ยังไงวันนี้ ในเมื่อคนมากขึ้น พื้นที่มากขึ้น ขยะมากขึ้น ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยนะครับ เรื่องรายได้รายจ่าย อะไรต่างๆ ติดขัดไปหมด เพราะอะไรล่ะครับ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมานั้นไม่ได้ดูในรายละเอียด นี่คือเรื่องเล็กๆนะ เลยทำให้เกิดเรื่องใหญ่ๆ เกิดปัญหาทับซ้อนมาตามลำดับ ทุกคนต้องการความสะอาด แต่ทุกคนก็ไม่ยอมเสียสละ ก็มีการ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานไม่ได้
บางครั้งก็มีการทุจริตโกงกินเข้าไปอีก เลยวุ่นไปทุกเรื่องเลย วันนี้ต้องกลับมาทบทวนดูนะครับ ว่าจะทำอย่างไร นำขยะมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ทำขยะให้เป็นทรัพย์สินที่มีค่า เกิดอาชีพรายได้ ห่วงโซ่คุณค่าและก็ในเรื่องของพลังงานด้วยนะครับ เพราะว่าถ้าเราต่อต้านกันกันเรื่องพวกนี้ต่อไป ขยะมันก็จะมากขึ้นๆ ปีหนึ่งหลายร้อย หลายพันตันนะครับ ทุกเดือนก็สะสมกันเข้าไปซิ แล้ววันหน้าก็เป็นขยะพิษนะครับวันนี้ถูกเรียกร้องให้ดูแลความสะอาด แต่ทุกคนไม่ช่วยกันเสียสละ เงินค่าขยะก็ 20 กว่าบาท ก็ยังบ่นกันอยู่อีกนะ พอจะเพิ่มอีกก็ไม่ได้ เพราะงั้นไปชั่งน้ำหนักให้ดีนะครับ ว่าเราจะทำกันยังไงดี ผมอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับเรื่องเหล่านี้นะครับ
ถ้าท่านไม่เข้าใจซะตั้งแต่แรก คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ส่วนรวมก็ไม่เกิด ก็ต้องมี กีฟ มีเทค อะไร กันบ้างนะครับ เจ้าหน้าที่เขาจะทำได้ยังไงล่ะ ไม่มีเงิน เพราะงั้นเราต้อง พิจารณาดูว่าอะไรมากอะไรน้อย เสียหายอย่างไร แก้ไขได้หรือไม่ ถ้าแก้ไขได้ก็จำเป็นต้องทำนะ ไม่งันเกิดปัญหาส่วนรวม กับพื้นที่ด้วย อย่าเห็นแก่ตัวกัน กลายเป็นว่าพื้นที่เราก็ไม่ให้ใครมาทิ้ง ไม่ให้สร้างโรงขยะ ไม่ให้สร้างที่หลุมขยะอะไรต่างๆ แล้วแต่ แล้วจะไปทิ้งที่ไหนล่ะใช่ไหมนะ ในเมื่อจำเป็น แต่ทำยังไงที่เกิดมานั้นจะเกิดประโยชน์ กับชุมชน และประชาชนในแถบนั้นด้วยนะครับ เราต้องสร้างสมดุลให้ได้นะครับ ผมฝากข้าราชการไปทำความเข้าใจให้ได้ด้วยนะครับ ในเรื่องเหล่านี้ อย่าให้เกิดความขัดแย้งอีกต่อไปอีกเลยนะครับเวลาเราจำกัดนะ
สัปดาห์ที่ผ่านมานะครับ ผม รองนายกฯ รัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจนะครับ ได้มีการพบปะพูดคุยกับนักลงทุนหลายบริษัท เพื่อรับทราบถึงปัญหาข้อขัดข้อง หาแนวทางที่ทำให้เกิดความร่วมมือให้ได้โดยเร็ว เป็นที่น่ายินดีที่นักลงทุนรายใหญ่หลายบริษัท อาทิ ฟอร์ด มาสด้า มิตซูบิชิ โตโยต้า ซีเกต สหพัฒน์ ซัมซุง และอื่นๆนะครับ ยินดีที่จะลงทุนต่อไปในประเทศไทยต่อไป โดยจะปรับรูปแบบ และเพิ่มการลงทุนให้มากขึ้น รวมทั้งเราจะเพิ่มเติมในเรื่องการศึกษาวิจัยและพัฒน การถ่ายทอดเทคโนโลยีนะครับ แล้วก็การสร้างความเข้มแข็งให้กับคนไทย พัฒนาฝีมือแรงงานไทยนะครับ ทุกบริษัทยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพ และเสถียรภาพของไทยนะครับ ในการเจริญเติบโตในอาเซียน ดังนั้นเราเองก็ต้องปรับรูปแบบการลงทุน ปรับตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนะครับ กติกาของหลายๆประเทศเปลี่ยนไป เราก็จำเป็นต้องแข่งขันกันในเรื่องนี้นะครับ สิทธิประโยชน์ในการลงทุนให้แก่ชาวต่างชาติต้องมีการเปลี่ยนแปลงนะครับ ไม่งันเราก็จะด้อยไปเรื่อยๆ ขีดความสามารถในการแข่งขันเราก็ลดลงไปตามลำดับนะครับ เพราะงั้นการลงทุนในประเทศของเรานั้น หลายบริษัทที่อาจเห็นว่ามีการย้ายออกไป เขาก็อธิบายว่าเป็นโรงงานเก่า ที่ย้ายไปเพราะเป็นการผลิตสินค้าขั้นพื้นฐาน เขาก็จะหาโรงงานที่ทันสมัยเข้ามาแทนนะครับ ก็ฝากเรียนพ่อแม่ พี่น้องด้วยนะครับ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกนะครับ ขอเวลาสักนิดหนึ่งก่อน เขาจะปรับปรุงพื้นที่ โรงงานต่างๆ ให้ทันสมัยขึ้นนะครับ ก็จะมีการจ้างงาน จ้างอะไร เหมือนเดิมนะครับวันนี้ ก็ต้องหาอาชีพอื่นไปก่อนนะครับ เขาจะเพิ่มเป็นโรงงานที่มีการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มนะครับเข้ามาแทน ก็ดีนะครับจะได้พัฒนาประเทศไทยในเรื่องนี้ด้วย เรื่องนวัตกรรม เรื่องการวิจัยและพัฒนานะครับ
สำหรับเรื่องการเจรจาเขตการค้าเสรี ที่เรียกว่า FTA นะครับ เราก็ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องก็หลายอย่างก็ได้มีความคืบหน้ามาตามลำดับนะครับ เรื่อง RCEP กับประเทศต่าง ๆ นั้น ก็อีกอันหนึ่งนะครับ กำลังดำเนินการอยู่หลายประเทศที่เกี่ยวข้องนะครับก็มีความก้าวหน้าทั้งตุรกี ชิลี อาเซียน + 6 จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นะครับ ก็กำลังเดินหน้าอยู่ในเรื่องเหล่านี้นะครับ เมื่ออีกไม่กี่วันนี่ผมก็ต้องไปประชุมเกี่ยวกับเรื่องของเขตเศรษฐกิจนะครับ ของอาเซียน จะร่วมมือกันอย่างไร กับประเทศอื่นๆ ครับ ประเทศต่างๆ หลายประเทศด้วยกัน ในเดือนหน้านี่นะครับ
เรื่อง TPP เช่นกันนะครับกำลังศึกษาอยู่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนะครับ ที่หารือร่วมกันภาคอุตสาหกรรม กับรัฐบาล ธุรกิจ เอกชน เกษตรกรรม การค้า อื่น ๆนะครับ จะต้องหาข้อสรุปให้ได้ว่ามันดี มันเสียอย่างไร จะแก้ไข ความเสี่ยงได้อย่างไรนะครับ อย่าไปคิดว่าจะได้อย่างเดียว ก็ต้องมีเสียนะครับ เราจะเสียได้แค่ไหน เท่านั้นเอง ทุกส่วนจะต้องร่วมมือกันนะครับ พิจารณาตัดสินใจร่วมกันนะครับ หากจะต้องเข้าเป็นภาคี ไม่ใช่วันหน้า อ้าววันนี้อยากเข้า พอวันหน้ามีปัญหาขึ้นมา อ้าวโทษกลับมารัฐบาล เพราะงั้นเป็นความเห็นชอบร่วมกัน ก็ไปหามานะครับ นี่คือระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง จะเอายังไงก็ว่ามา แต่ต้องยอมรับกันนะครับว่า ผิดพลาดเราจะแก้ไขกันอย่างไรต่อไปนะครับ
เรื่องการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น รัฐบาลอยู่อย่างต่อเนื่องนะครับ อย่าไปฟังนะครับที่ออกมาพูดจาให้ร้ายต่างๆเหล่านั้น วันนี้เราต้องดำเนินการอย่างรอบคอบนะครับ ให้มีความชัดเจนขึ้นในทุกกระบวนการ ผมและ คสช. ก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรตรงนั้นเลย เพียงแต่ว่านำสู่กระบวนการเท่านั้นเอง แต่เรื่องการพิจารณาจะเร็วจะช้าก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมนะครับ ตามหลักฐาน วัตถุพยาน พยานบุคคลอะไรก็แล้วแต่ สังคมอย่ากดดันมากนักเลยนะครับ ฟังบ้าง อย่าไปฟังแต่สื่อที่บิดเบือน โซเชียล-มีเดีย ที่บิดเบือนหรือบางคนที่ออกมาพูดบิดเบือนนะครับ ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดกฎหมายจะมีอะไรล่ะครับ ถ้ามีมูล ก็ต้องไปสอบสวน วันนี้ก็ยังไม่ทันเขาอะไรเลย แค่ตั้งเรื่องขึ้นมาไปดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนปกตินะครับ ตอนนี้ก็แอบมาอ้างกัน เรื่องความไม่เป็นธรรม ความไม่ยุติธรรม เร่งรัดจนเกินไป ก็ผมบอกแล้วไง ถ้าไม่ผิด ก็คือไม่ผิด จะเร็วจะช้า ไม่ผิด ก็ไม่ผิดนั่นแหละ ถึงจะเร็ว หรือช้า ถ้าผิด ก็ต้องผิด นี่แหละคือเรื่องข้อเท็จจริง อย่าลืมข้อเท็จจริงเหล่านี้นะครับ
เรื่อง นโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลนะครับ ก็สืบเนื่องมาจากรัฐบาล ผมเองมีความเป็นห่วงปัญหาสังคมในปัจจุบัน จะเห็นว่ามีโจร มิจฉาชีพมากขึ้น มีการใช้ความรุนแรงกัน มีการใช้อาวุธสงคราม เข้าแก้ปัญหา ไม่มีความหวาดกลัวกฎหมายเลยนะ จะเป็นบ้านป่าเมือเถื่อนกันหรือยังไง ขี่รถจักรยานยนต์ แซงกันไปแซงกันมากับรถเก๋ง อะไรต่างๆ ก็ยกปืนเอามาขู่เขา เออมันทำได้เหรอ แบบนี้ ต้องไปอยู่ในป่าในเขาโน่น ยังผิดกฎหมายเลยนะ วันนี้ ชักปืนออกมายิงกันซะเฉยๆ ทะเลาะกันในครอบครัวก็เอาปืนมาฆ่ากัน ยิงกัน นี่สังคมมันเสื่อมโทรม คนเราใช้อารมณ์เหนือเหตุผลมากขึ้นทุกวัน ไหนจะความรู้สึกในการตัดสินใจ อันนี้แหละคือสิ่งที่เป็นพิษเป็นภัย มาจากสื่อ มาจากโซเชียล-มีเดีย ที่มันไม่ดีนะครับ ทำให้คนนี่เห็นความรุนแรงเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นการเร้าเขาเรียกอะไร แรงขับเคลื่อน บางทีก็วัยรุ่น บ้างอะไรบ้างเยาวชนบ้างทุกคนมีแรงขับเคลื่อน ที่เหลือเฟืออยู่แล้ว เกมส์บ้าง เกมส์ออนไลน์บ้างนะ โซเชียล-มีเดีย บ้าง อะไรบ้า
ก็ทำให้ทุกคนนี่คุ้นชินกับการใช้กำลัง คุ้นชินกับการทำลายล้างกันด้วยอาวุธ ในโลกที่อาจจะไม่เป็นจริงในโซเชียล-มีเดีย นะครับ เรื่องของการ์ตูนบ้าง อะไรบ้าง เกมส์ ต่างๆ เหล่านี้ ทุกคนเลยมองเป็นเรื่องธรรมดาไปหมดนะ ก็เห็นว่าต่างประเทศก็เกิดนะ เล่นเกมส์มากๆ ก็อยากจะใช้อาวุธจริงๆ แล้วก็ไปสร้าง การบาดเจ็บสูญเสียในโรงเรียนบ้าง ในสถานที่ต่างๆ บ้างทุกประเทศเกิดขึ้นหมดแล้ว นี่แหละคืออันตรายที่เกิดจาก โซเชียล-มีเดีย ที่ไม่มีคุณภาพ ผมก็อยากจะมอบนโยบายให้ดำเนินการ ให้เจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชน ช่วยกันสร้างสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบเรียบร้อย และปลอดภัยให้สังคมกลับคืนมาเป็นปกติ นะครับ
สำหรับคำว่า “ผู้มีอิทธิพล” มีคำจำกัดความอยู่แล้ว ซึ่งก็หมายความถึง บุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมาย รวมความไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด แสวงประโยชน์ กดขี่ ข่มเหง พี่น้องชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ – ไม่มีทางสู้ นะครับ ซึ่งผู้มีอิทธิพลดังกล่าว มักมีเครือข่ายอาชญากร ซุ้มมือปืน เป็นองค์ประกอบสำคัญด้วยนะครับ เรื่องอาวุธสงครามอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่
นโยบายนี้ ไม่ได้เป็นการไล่ล่าฆ่าฟันใครเพียงแต่กำชับให้มีมาตรการที่เหมาะสมทางกำหมาย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ อย่าไปปล่อยปละละเลย เราไม่จำเป็นต้องไปออกกฎหมายอะไรใหม่อีกแล้วนะ กฎหมายเดิมก็เพียงพออยู่แล้ว แล้ววันนี้เราก็มีมาตรา 44 อยู่แล้วด้วย ก็ไม่อยากให้ทุกคนมาต่อสู้กันอีก ต่อไปในอนาคตด้วยอาวุธสงคราม หรือใช้ความรุนแรงนะครับ เราก็พยายามจะใช้กฎหมายอย่างดีที่สุดนะครับ กฎหมายอื่นๆ เรามีอยู่แล้ว เช่นกฎหมายยาเสพติด กฎหมายในเรื่องของอาวุธเถื่อน น้ำมันเถื่อน ค้ามนุษย์ การลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าว ทุกอย่างมีกฎหมายหมดวันนี้นะ บางอันไม่มีก็มีในสมัยนี้
แต่ทุกคนก็ไม่ค่อยเคารพกฎหมายนี่อันตรายเลยนะ มันไปลูกอะไรไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่เครารพกฎหมายนะครับ ยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง การทวงหนี้ เก็บค่าคุ้มครอง บุกรุกป่า เหล่านี้ เป็นต้นนะครับ เป็นเรื่องที่ต้องกังวล สำหรับปุถุชนคนดีทั่วไป ทั้งนี้ เพื่อคืนความเป็นธรรมสู่สังคม สร้างชุมชนที่ปลอดภัย และลดสภาวะความหวาดระแวงของคนในชาตินะครับ กับกฎหมาย ซึ่งก็เป็นพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตย จะต้องไม่ไปรบกวนคนอื่น ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน นั่นเขาเรียกประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ละเมิดสิทธิเขา แล้วก็กฎหมายทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันนะครับ กฎหมายอันเดียวกัน
ทั้งหมดเหล่านี้ ขอให้สื่อต่างๆ นะครับ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ไปขยายความว่าเออ นี่เตรียมจะใช้ อำนาจต่างๆ ไปใช้สร้างความรุนแรง ก็เขาเป็นคนที่ทำความผิดอยู่ เราก็ใช้กฎหมาย มันผิดตรงไหน ผมไม่เข้าใจนะ สื่อก็ไปเขียนให้เป็นสตอรี่กันอยู่เรื่อยทุกเรื่องไป อะไรที่กำลังทำ ทำไปแล้วเพื่อส่วนรวม ก็นำเสนอแต่ข้อเรียกร้องที่ตรงกันข้ามมาตลอด ผมไม่เข้าใจว่าเป็นยังไงนี่ ผมไม่ใช่ศัตรูกับท่านอยู่แล้ว เพียงแต่ ท่านก็ไม่เคยแก้ไขตัวเองนะ บางสื่อนะครับ บางสื่อ ชอบทำให้เกิดความขัดแย้งขยายความขัดแย้ง ไปจับเล็กจับน้อยมาตลอดเลย ไปเปิดเฟสบุ๊ค เว็บไซท์ ให้คนมาคอมเม้นท์ สิ่งที่เป็นความขัดแย้งไง ทำไมท่านไม่ไปเปิดเว็บขึ้นมา แล้วทำให้สังคมปรองดองกันนี่ ท่านไม่ช่วยผมเลยนะ แต่วันนี้ก็ต้องมาดูกันนะช่วยกัน สังคมต้องช่วยกันดูด้วยนะครับ ไม่งั้นปรองดองกันไม่ได้อยู่แล้ว พอเริ่มก็จะตีกันอีก เพราะงั้นเราต้องดูความเข้มแข็งของประชาชนด้วยนะครับ
วันนี้งานค่อนข้างยาก ยากไปเรื่อยๆ ระยะแรกงานแก้ในเชิงเดี่ยวนะครับ สั่งอันนี้ แก้ วันนี้ใช้กำลังไปเท่านี้ ใช้กฎหมายก็จบ แต่จะกลับมาใหม่ ถ้าเราไม่ช่วยกันดูแล
แต่วันนี้งานในขั้นที่สอง ทับซ้อนกันเยอะ ไม่ว่าจะข้ามกระทรวง ข้ามกรม อะไรเกี่ยวข้อง พลเรือน ตำรวจ ทหาร เกี่ยวกับกฎหมายที่ต้องแก้ไขหลายฉบับ ยากไปหมดตอนนี้ แถมก็ยังมีคนไม่เข้าใจมาต่อต้าน ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไรนะ เหตุผลประชาธิปไตยมั้งที่เขาพูดกัน กับสิทธิมนุษยชน แต่เคยห่วงตนที่เขาเดือดร้องกับเรื่องเหล่านี้ไหม ที่รัฐพยายามจะแก้อยู่ ไม่ห่วงนะ พูดแต่นี่ เลือกตั้ง ประชาธิปไตย ผมไม่เคยไปเถียงท่านอยู่แล้ว
ยังไงก็ต้องเลือก เพราะอย่างนั้นอะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องผิดกฎหมายนะ ก็ค่อยๆหาทางแก้กัน ถ้าผิดมากก็ต้องแก้เร็ว ผิดช้าก็ ยังไงก็ต้องแก้ กฎหมายมีอยู่แล้ว ไม่เร็ว ไม่ช้าหรอก เดี๋ยวจะไม่เข้าใจอีกนะ ต้องอยู่มรกรอบกฎหมายนะครับ หลายเรื่องปล่อยมาให้ ปละละเลยกันมานาน เจ้าหน้าที่ด้วยต้องรับผิดชอบด้วย ผมเองก็ต้องรับด้วย อยู่ในเหตุการณ์มาตลอด แต่ผมก็ให้รัฐบาล ให้หน่วยงานมาดูแลตลอด ร่วมมือกันมาตลอด วันนี้ผมเข้ามาบริหาร ผมจะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ทุกคนช่วยกันนะครับ
การต่อต้าน ต่างๆ นั้นของร้องนะครับ อย่ามาอ้างเหตุผลเลย อย่ามาโยนความผิดกัน ให้คนอื่นนะ ไปด้อยค่าคนโน้น คนนี้นะ โจมตีกันไปกันมาปรองดองไม่ได้หรอกครับ ถ้ายังไม่หยุดนะ เรื่องของนิสิตนักศึกษา ผมให้คนไปคุยนะ ครูอาจารย์ต่างๆ ก็ขอร้องกัน กรุณานึกถึงประเทศชาติด้วย อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยนะครับ วันหน้าก็เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว วันนี้ท่านต้องรู้ว่าปัญหาประเทศอยู่ตรงไหน ที่ผ่านมาทุกคนมีแรงขับเคลื่อนที่แรงนะ มากมายเมื่อมีคนมาให้ข้อมูลท่านไม่ถูกต้อง ก็ทำให้ท่านเคลื่อนไหวในทางที่ผิด แล้วก็เป็นอันตรายต่อตัวเอง พ่อแม่ กับอะไรต่างๆ แล้วแต่ประเทศชาติเสียหาย วันนี้มาคุยกันซะ ก็เห็นรับปากกันว่าจะมาคุยกัน แล้วก็ร่วมกันปฏิรูปนะครับ ขอบคุณนะ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
เรื่องการพัฒนานั้น รัฐบาลให้การพัฒนาเป็นไปอย่างยั่งยืนนะครับ ในการประชุม ครม. ได้สั่งการไปแล้ว 3 เรื่องด้วยกันคือ เรื่องระบบการศึกษา ก็ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เด็กเล็กเกิดมายังไม่ถึงขวบถึง 3 ขวบ ในช่วงที่สมองกำลังพัฒนาอย่างเต็มที่ เด็กๆ ทำยังไงจะไม่ป่วย ไม่เครียด จากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายนะครับ กดดัน การศึกษาทำยังไงจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสบการณ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การทำงานเพื่อสังคม มีการพัฒนาวิชาชีพ พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เป็นต้นนะครับ
เรื่องระบบสาธารณสุข ถ้าหากบริหารจัดการได้ดี เงินที่เรามีอยู่อย่างจำกัดนั้นก็อานจะช่วยส่งเสริมให้ทรัพยากรมนุษย์ของเรา มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการทำงาน การใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อจะไปพัฒนาประเทศไปนะครับ ถ้าเราบริหารจัดการเงินต่างๆเหล่านี้ไม่ดี ก็จะฉุดรั้งศักยภาพในทุกๆ ด้านนะครับ เพราะทำให้คนป่วยเจ็บ ไม่มีเรี่ยวแรงทำงาน ต้องหาเงินมารักษาอีก ก็เป็นหนี้อีกเช่นเดิมนะครับ ประเทศก็เดือดร้อน วันหน้าก็กลายเป็น “ประเทศที่ป่วย” ประเทศที่ไม่แข็งแรงตามไปด้วยนะครับ
เรื่องต่อไปคือเรื่องสิ่งแวดล้อม เราจะต้องมีการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่มีผลกระทบซึ่งกันและกัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมต้องอยู่กับเราอีกยาวนาน ต้องคู่กับมนุษย์ มนุษย์ต้องดูแลรักษา เขาก็จะดูแลรักษาเรา ป่า น้ำ ระบบนิเวศน์ ต้องรักษาสมดุลย์กันให้ได้นะครับ อย่าให้เกิดพิษขึ้นมา วันหน้าจะอยู่กันไม่ได้นะครับ มันจะย้อนกลับมาทำร้ายพวกเรากันเองนะครับ เราจะต้องรักษาไว้ให้อนาคตด้วย ไม่ใช้จนหมดในยุคของเรา วันนี้ก็ป่าน้อยลง ฝนก็น้อยลง ป่ายิ่งน้อยไปกว่านี้ ฝนก็จะไม่มีเลย วันหน้าลูกหลานจะอยู่ยังไง รัฐบาลนี้ก็พยายามดำเนินการทุกอย่างนะครับ ตามแนวทางตามหลักการของ“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน แล้วก็นำแนวคิดของประชาคมโลก มาดำเนินการขับเคลื่อนด้วยนะครับ ผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ เพราะเราต้องพึ่งพากันอยู่แล้วในโลกใบนี้นะครับ ประเทศไทยจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้นะครับ
เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องการจัดหาเงินที่เป็นรายรับของรัฐบาล เรามีรายจ่ายมากมาย รายได้รัฐก็มาจากการเก็บภาษี ภาษีบุคคล นิติบุคคล หรือภาษีอื่นๆ นะครับหลายอย่างด้วยกัน ผมก็อยากจะทำความเข้าใจกันวันนี้นะครับ ไม่งั้นก็ขัดแย้งเรื่องนี้กันอีกต่อไป ฟังซะก่อนนะครับ ผมไม่ได้บอกว่าจะเก็บภาษีท่านวันนี้ไม่ได้ ยังทำไม่ได้ แต่อยากให้คิดดูซิว่าเราจะทำยังไงให้ประเทศเราดีขึ้น เรามีรายจ่ายที่ชัดเจนนะครับ ทั้งงบประจำ งบลงทุนซึ่งก็แปรเปลี่ยนไปตามมากน้อยนะครับ งบเร่งด่วนที่แก้ปัญหา ภัยพิบัติบ้าง ความเดือดร้อนต่างๆ เหล่านี้ และงบที่เราใช้ส่วนใหญ่ จะเห็นว่ากระทรวงศึกษาก็ใช้มากนะ หนึ่งมั้ง งบการศึกษาฟรีด้วย อะไรด้วย เป็นสิ่งที่ดีนะครับ แล้วก็ปฐมพยาบาลฟรี รักษาพยาบาลฟรี ทั้งสองอันนี้ผมไม่ได้ว่าไม่ดี
แต่ทำยังไงเราจะมีเงินมาสนับสนุนให้มากกว่านี้ ทำยังไงจะเกิดความเป็นธรรม ทั่วถึงมากกว่านี้ ไม่ทำให้ระบบการรักษาพยาบาลเสียหาย โรงพยาบาลต่างๆ จะต้องไม่เป็นหนี้สิน ต้องช่วยกันคิดซิครับ ถ้าท่านจะอยากได้อย่างเดียว แต่ท่านไม่ร่วมมือ ไม่ช่วยเหลือ ก็ทำอะไรไม่ได้ การปรับปรุงประสิทธิภาพก็ไม่ได้ หมอ พยาบาลก็ไม่มีสตางค์ ไม่มีเงินผลิตมา พัฒนาโรงพยาบาลก็ไม่ได้ ทุกคนก็ต้องหนีไปอยู่โน่น ไปเข้าคลินิก แล้วก็บ่นว่าแพงอีก แล้วจะให้ผมทำยังไง งบประมาณใช้มากขึ้นทุกวันๆ คนมากขึ้นยังไง เรื่องก็เยอะขึ้น การพัฒนาก็ต้องทำ การลงทุนก็ต้องทำ เพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น อัตราโครงสร้างภาษีเราไม่เคยได้รับการปรับปรุงอย่างเป็นระบบ นะครับ ค่อนข้างจะสับสนอลหม่านกันพอสมควร ยุ่งยาก
อีกประการหนึ่งคือจัดเก็บไม่ได้ เพราะความไม่ซื่อต่อกัน มีการโกงภาษีบ้าง อะไรบ้างนะครับ รายได้ปัจจุบันนะครับ เราได้มาจากภาษีบุคคลธรรมดา ปัจจุบันยื่นแบบ ภ.ง.ด. ไว้ 10 ล้านคนนะครับ แต่เช็คแล้วตัวเลขคร่าวๆ เสียภาษีจริงแค่ 3.5 ล้านคน ได้รับยกเว้นภาษี ประมาณ 6.5 ล้านคน ที่มีรายชื่ออยู่นะ นิติบุคคลอีก 1.5 ล้านราย หรือเกือบ 2 ล้านในขณะนี้นะ จ่ายภาษีเพียง 6 แสนราย ใน 6 แสนรายก็มีทั้งถูก และไม่ถูก เสนอตรงบ้างไม่ตรงบ้าง อีกอันหนึ่งคือภาษีบำรุงท้องที่ ท้องถิ่น ซึ่งเก็บได้เองนั้นวันนี้ ตามหลักเกณฑ์เก่านี่ ปี 20 นี่ พรบ. เดิมนี่ มีการพัฒนาหลายอย่างมาแล้ว ก็เก็บเท่าเดิมอยู่ 30 ปีแล้วมั้ง นะ 30กว่าปีแล้ว นอกจากเก็บได้น้อย นะแล้วยังเก็บได้ไม่ครบอีกด้วย ไม่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บ
ก็ต้องปรับดูแลกันทั้งหมดนะ ทำให้รับต้องเสียงบประมาณในการอุดหนุนให้อีกประมาณ 2 แสนล้าน ทำให้รายได้ต่างๆ ที่รัฐต้องเก็บไว้ตรงกลาง ทั้งงบประจำ งบลงทุน และงบแก้ปัญหาคืองบกลาง ที่จะทำตามนโยบายเร่งด่วน แก้ปัญหาประชาชนลดลงไปทั้งหมดนะ เพราะทุกอย่างถ่วงกันไปหมด รายได้ไม่มี
การลงทุนต่างๆ ก็จำเป็นนะ ถนน รถไฟ รถไฟฟ้า ท่าเรือ สนามบิน วันนี้ราคาแพงหมดเราทำเองไม่ได้ยังไง ก็ต้องสร้างความเข้มแข็ง ระยะแรกก็อาจจะต้องร่วมมือ ต้องซื้อมา วันหน้าต้องทำเองทั้งหมด ทำให้ได้ด้วยการวิจัยและพัฒนา การทำสัญญากับใครก็ต้องมาร่วมมือกัน ถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ อะไรก็แล้วแต่ ในเรื่องของ
ราคาสินค้าเกษตรวันนี้ก็ลดลงไปอีก รายได้ก็ลดนะ แล้วทำยังไงล่ะครับ เราแข่งขันกับใครไม่ได้ เกษตรกรมีรายได้น้อยก็เดือดร้อน รัฐก็ต้องหาเงินมาบรรเทาความเดือดร้อนอีก ถ้าทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็เหมือนงูกินหางไปแบบนี้ จะทำยังไง ฝากคิดเท่านั้นเองนะ วันนี้ฝากคิดไปก่อนนะ วันหน้าจะทำยังไง เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น ควรจะต้องเสียมากขึ้นไหม ที่ไม่เดือดร้อน ให้เป็นธรรม ถ้ารายได้น้อยๆ จะเสียอะไรมากมายขนาดนั้น ไม่ได้หรอกนะ
ก็เข้าใจนะอยากให้บ้านเมืองเราเจริญ ก็ต้องหาเงินให้มากขึ้น ในวิธีที่ถูกต้อง การเรียกร้องต่างๆนี่ สองสามวันที่ผ่านมาจะเห็นว่าเรียกไอ้โน่น ไอ้นี่ ขอไอ้นี่ ยื่นคำขาด นี่ผมไม่ให้ท่านมายื่นคำขาดกับผม ยื่นไม่ได้ สถานการณ์ไม่ปกติอยู่แล้ววันนี้นะ ท่านมาบอกผม แล้วผมจะหาทางแก้ให้ ถ้ากดดันไม่มีได้อะไรทั้งสิ้น ผมไม่ให้นะต้องเข้าใจนะ นึกถึงคนอื่นเขาบ้าง
เรื่องภาษี VAT เหมือนกัน ประชาชนอาจไม่เสียภาษีบุคคล เพราะรายได้ไม่ถึง แต่ท่านก็เสียภาษี VAT 7% ทุกคนเสียหมดในการซื้อของอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ จะบวกภาษี VAT 7% ก็วันนี้ 7 มากี่ปีแล้วล่ะ ทั้งที่ควรจะขึ้น ก็ขึ้นไม่ได้ แต่วันหน้า ถ้าหากว่ารายได้ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น ยั่งยืนขึ้น ทุกคนก็จะมีเงินรายได้มากขึ้น ในการจะไปซื้อของ อาจจะต้องขึ้นบ้าง จะขึ้นเท่าไรไม่รู้ ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่ขึ้น 1% ได้เงินมาแสนกว่าล้าน แต่ก็ขึ้นไม่ได้ ทำยังไง ก็มีแต่จ่ายๆ ทุกวัน การลงทุนต่างๆ เราต้องทำ
ถ้าเราไม่ลงทุน สาธารณูปโภคพื้นฐาน รถไฟ รถไฟฟ้า ประปาทุกอย่าง คนไม่มาลงทุนบ้านเราหรอกครับ วันนี้ที่เขามานี่ เพราะมีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดีพอสมควร เราต้องทำให้ดีกว่านี้ ไม่งั้นเราจะเข้มแข็งหรือแข่งขันกับประเทศอื่นที่เขากำลังพัฒนาไม่ได้เหมือนกันนะ วันนี้บ้านเราก็แออัดขึ้น ถนนหนทางก็จำกัดลง การขนส่งก็มีปัญหา วันนี้อยากจะฝากไว้ด้วย คิดไว้ก่อนนะเรื่องภาษี ทำยังไงจะมีเงินมาบริหารแผ่นดิน ดูแลประชาชนที่รายได้น้อย มีรายได้สูงขึ้น ทุกคนอย่าไปกลัวคำว่าภาษี ถ้ามีเงินก็ต้องเสียสละกัน ผมเองเสียภาษีครบมาตลอดนะ ตลอดระยะเวลานี่ ข้าราชการทุกคนพลเรือน ตำรวจ ทหาร เสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาทุกคน เลี่ยงไม่ได้ เพราะตัดจ่ายตั้งแต่ที่จ่ายเงินเดือนแล้ว
เพราะงั้นก็อยากจะถือโอกาสนี้นะครับ ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของวันออมแห่งชาติด้วยนะครับ วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีเรากำหนดเป็นวันออมแห่งชาตินะครับ ก็ถือโอกาสว่าทำยังไง ที่จะส่งเสริมการออกม วัฒนธรรมการออมของรัฐ จากการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า 41 % ของประชาชน ยังไม่มีการเก็บออมไว้ใช้ในยามชรา ผมเข้าใจว่าจะมีให้เก็บได้ยังไง เพราะรายได้ยังไม่พอใช้เลย ผมเพียงแต่พูดให้ฟังว่าทำยังไงเราจะมีเงินเก็บออม 41 % นี่น่าห่วงนะครับ แล้วก็ มากกว่า 56 % ของประชาชนที่ตอบแบบสำรวจ ไม่คิดว่าตนเองมีเงินออมเพียงพอไว้ใช้ในยามชรา และมากกว่า 52 % ของคนชราพึ่งตนเองไม่ได้
วันหน้าประเทศเราต้องเป็นสังคมสูงอายุมากขึ้น มีอย่าเดียวตอนนี้ก็คืออาศัยเบี้ยยังชีพ และลูกหลานเลี้ยงดู ลูกหลานไม่มีอาชีพ รายได้เพียงพอก็ไม่ได้เลี้ยงพ่อแม่ ไม่มีปัญญาอีกนะ ก็เป็นภาระกันไปกันมานะ แต่ก็ต้องทำนะครับ ลูกหลานก็ต้องดูแลนะ พ่อแม่พี่น้องด้วยนะ ความกตัญญูสำคัญ มากน้อยก็ต้องดูท่านนะ ท่านเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กนะ เพราะงั้นวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนวัยทำงาน นักเรียน และนักศึกษา ก็มีความจำเป็นนะครับ ต้องให้ความสำคัญกับ “การออมวันนี้ เพื่ออนาคต” ไม่ออมวันนี้ วันหน้าก็มีปัญหา ออมตั้งแต่เด็ก แล้วแก่ตัวจะไม่ลำบาก ปัจจุบันออกมกันน้อย ก็น่าเป็นห่วงนะครับ สำหรับการออมมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นั้นก็ควรจะมีการจัดทำบัญชีค่าใช้จ่ายของตน ที่เรียกว่าบัญชีครัวเรือนนะครับ เพื่อเสริมวินัยการออม และสร้างความฉลาดรู้ เรื่องเกี่ยวกับการเงินครับ การเงินในครอบครัวก็จำเป็น ทำยังไงจะไม่เป็นหนี้นอกระบบ หนี้ครัวเรือนอะไรก็แล้วแต่ หนี้บัตรเครดิต เหล่านี้ทำให้ตัวเลขสัดส่วนของหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นทุกทีๆ
แต่มันเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ก็ต้องมาดูว่าทำยังไงประชาชนจะหนี้น้อยลง ก็ต้องกลับมาสู่ความพอเพียงก่อนนะ ช่วยกันรักษาวินัยเรื่องการใช้เงิน ลูกก็ต้องช่วยพ่อแม่ ลูกสำคัญนะครับ พ่อแม่รักลูกทุกคน ลูกขออะไรก็ต้องหามาให้จนได้ แต่วันนี้ก็มีหลายๆคน ไปสร้างในเรื่องของความอบอุ่นในครอบครัว บอกไม่จำเป็นหรอก ไม่ต้องไปดู ไม่ต้องไปเชื่อฟัง มีคนสอนอย่างนี้นะ ผมเปิดดูในโซเชียล-มีเดีย ผมเห็นแบบนี้นะ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเชื่อฟังพ่อแม่เลย นี่ ไม่รู้ใครทำ ไปช่วยกันดูนะ แล้วคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับใคร ดูด้วยนะ
ที่ผ่านมานะครับ รัฐบาลได้ผลักดันให้ กอช. กองทุนการออมแห่งชาตินะครับ ให้เปิดรับสมาชิกได้ตั้งแต่ วันที่ 20 สิงหาคม 2558 เราก็ตั้งเป้าหมายไว้ล่วงหน้า แต่ในปัจจุบันนั้นทราบว่าสมาชิกสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 58 นี้นะครับ คือ 340,000 ราย เป็นพี่น้องเกษตรกร กว่าร้อยละ 70 นะครับ และร้อยละ 95 เป็นผู้ที่มีอายุ มากกว่า 30 ปีขึ้นไป สำหรับเป้าหมายที่เราตั้งไว้ในปี 59 นะครับอยู่ที่ 1.5 ล้านคนนะครับ ก็อยากให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ อันนี้ไม่ใช่รัฐบาลให้ท่านออมคนเดียวนะครับ รัฐบาลก็ต้องจ่ายเงินสมทบให้ท่านด้วย เวลาจ่ายคืนจะได้มากขึ้นนะครับ กว่าที่ท่านฝากไว้
ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับสวัสดิการต่างๆ จากรัฐบาลมีกติกากันอยู่ ก็ขอให้สมัครเข้าเป็นสมาชิก กอช. ต้องช่วยตัวเอง ด้วย อย่าหวังแต่ให้คนอื่นเข้าช่วยตลอดเวลา มันไม่ยั่งยืนนะครับ ต้องสร้างหลักประกันในอนาคตของท่านเองให้ได้ สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ขึ้นไป รัฐบาลก็ได้เปิดโอกาสให้สมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ภายใน 1 ปี ตั้งแต่ 26 กันยายนปีนี้ไปจนถีง 25 กันยายน ปีหน้า ลูกหลานสามารถสมัครให้กับพ่อและแม่ได้นะครับรายได้ก็อาจจะมีไม่มากนัก ก็ค่อยให้ไป สะสมไม่ได้จำกัดจำนวนอยู่แล้ว ไม่ได้เท่ากันทุกเดือนด้วยซ้ำไป รายละเอียดติดต่อสอบถามได้นะครับที่ ธกส. และธนาคารออมสินครับ
แล้วก็ ธกส. ก็จะมีกิจกรรมส่งเสริมการออมใน “วันการออมแห่งชาติ” โดยการระดมเงินออมจากเกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของภาครัฐหรือเอกชน ก็สามารถสะสมเงินวันละเล็กวันละน้อยเพื่อรับบำนาญไว้ใช้ในอนาคต และเป็นประกันในการดำรงชีพยามชรา พร้อมจัดกิจกรรม โครงการ “ เกษตรสุขภาพดี กับ ธ.ก.ส.” นะครับ ส่งเสริมด้านสุขภาพของลูกค้าเกษตกร ระหว่างวันที่ 2-6พฤศจิกายน 2558 ที่สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้นะครับ สำหรับผลการดำเนินงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ที่เพิ่งจบไป ในห้วงนี้นะครับ ทั้งงาน “นวัตกรรมและเทคโนโลยีไทยเพื่อ SMEs” และ งานตลาด “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายประชาชนนะครับ ได้เป็นที่น่าพอใจ มีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 65,000 คน มียอดการสั่งซื้อนวัตกรรมและเทคโนโลยีสูงถึง 160 ล้านบาทนะครับ และมีการหมุนเวียนของเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอย ภายในงาน เป็นเงินกว่า 17 ล้านบาท นับเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs นักวิจัย นักพัฒนา นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ รวมถึงผู้ผลิตสินค้าและผู้ขายสินค้า มีโอกาส ได้ซื้อขายสินค้านวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ฯ อีกทั้ง การสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการถ่ายทอดให้แก่เยาวชนและประชาชนทุกคนได้เห็นคุณค่า เลือกใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตอบสนองความต้องการและการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้อย่างเหมาะสม และยั่งยืนด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนอยู่กับวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้นตื่นมาก็ต้องเจอวิทยาศาสตร์ แสง สี เสียง พลังงานทั้งหมด วิทยาศาสตร์ทั้งสิ้นนั่นแหละ มันจะช่วยตอบโจทย์ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของคนไทยนะครับ และเป็นต้นแบบหนึ่ง ที่จะสานต่อให้งานคลองผดุงกรุงเกษมเดินหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกด้วยนะครับ
ขอบคุณนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้ปลอดภัยนะครับ สวัสดีครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี