1 พ.ย. 58 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงการปลุกกระแสเสื้อแดงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายด้วยการนัดใส่เสื้อแดงว่า เป็นความพยายามที่จะดึงการเมืองไทยให้จมอยู่กับความแตกแยกขัดแย้งไม่รู้จบ ทั้งๆ ที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในโหมดของการปฏิรูปที่ทุกฝ่ายควรเสนอแนะและให้ความเห็นว่าเราจะปฏิรูปอะไรอย่างไรที่ประชาชนจะได้ประโยชน์จริงๆ ซึ่งนายทักษิณเคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีมีประสบการณ์สูงทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ ถ้าจะเอาประสบการณ์มาเสนอแนะประเด็นปฏิรูปก็น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าการตั้งแง่ ขยันขุดกับดักสังคมและทำลายบรรยากาศปฏิรูป ส่วนการชูเรื่องปรองดองของนายทักษิณทุกครั้งก็จะทำให้สังคมนึกถึงการเหมาเข่งหรือนิรโทษกรรมแบบสุดซอย ซึ่งเกือบทำให้สังคมเข้าสู่สงครามการเมืองมาแล้ว จนกลายเป็นภาพหลอนของการเมืองไทยทุกครั้งที่นายทักษิณพูดเรื่องปรองดอง ซึ่งแทบเป็นไม่ได้เลย
นายสุริยะใส กล่าวถึงเรื่องคดีจำนำข้าวด้วยว่า ไม่เห็นว่าจะช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในทางคดีได้เลย เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐานและข้อเท็จจริง ถ้านายทักษิณจำได้ในยุคกระแสเสื้อแดงเฟื่องฟูก็ยังไม่สามารถช่วยพ้นจากคดีทุจริตที่ดินรัชดาและคดียึดทรัพย์ได้ แม้ผู้สนับสนุนจะมีสิทธิให้กำลังใจ แต่ต้องไม่ทำให้คนเข้าใจว่าเป็นการสร้างกระแสกดดันและข่มขู่กระบวนการยุติธรรม
"ถ้านายทักษิณอยากช่วยคุณยิ่งลักษณ์จริง สิ่งที่ควรทำเร่งด่วนที่สุดคือหาพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักและทบทวนบทบาทความรู้ความสามารถของทีมทนายว่าเอาอยู่จริงหรือไม่ และคดีจำนำข้าวเมื่อเข้าสู้ศาลแล้วประชาชนก็อยากเห็นการสู้กันด้วยพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายมากกว่าจะมาเล่นกันนอกศาล" นายสุริยะใส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี