หมายจับคดี112เพิ่มอีก5
บิ๊กทหาร-ตร.
‘เสธ.โต’คนสนิทบิ๊กโด่ง
แฉอ้างเบื้องสูงรับประโยชน์
โปรดเกล้าฯถอดยศ‘เสธ.โจ้’
ยึดทรัพย์แก๊งหยองอีก30ล้าน
ผบ.ตร.ชี้ย้าย‘รอย’มาช่วยงาน
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ว่า เนื่องจากมีภารกิจเฉพาะต้องเกี่ยวกับด้านความมั่นคงและด้านต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องให้มาช่วย ซึ่ง พล.ต.ท.รอย เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องงานสืบสวนและมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่เป็นเรื่องการบริหารงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่มีงานพิเศษต้องใช้ความไว้ใจ ไม่มีความระส่ำระสายเกิดขึ้นในองค์กร ทั้งนี้ ทราบว่า พล.ต.ท.รอย รอพบเพื่อพูดคุยและรอให้มอบหมายภารกิจอยู่ พร้อมกันนี้ ยังไม่มีการปรับย้าย พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม ตามที่มีสื่อนำเสนอข่าว
‘ผบก.ป.-รอย’ไม่มีชื่อคดีหมิ่นฯ
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันฯ กล่าวว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นต่อศาลทหารและศาลอาญากรุงเทพใต้ ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในความผิดมาตรา 112 และมาตราอื่นๆ เช่นกรณีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน และวิทยุสื่อสารเพิ่มเติม โดยในจำนวนนี้มี พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร อดีต ผกก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัญเลขา อดีต รอง ผกก.2 บก.ป. ที่ลาออกไปแล้ว และยังมีตำรวจที่ยศสูงกว่า พ.ต.อ. ทหาร และพลเรือน รวมมากกว่า 4 คน แต่ถึง 10 คนหรือไม่นั้น จำชั้นยศ และชื่อไม่ได้
ยัน“หมอหยอง”ใหญ่สุดในกลุ่ม
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จากการสอบสวนถึงขณะนี้ ยืนยันได้ว่ากลุ่มผู้กระทำความผิด ม.112 ของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง หมอดูชื่อดัง ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น มีนายสุริยันใหญ่ที่สุด สูงที่สุดแล้ว และมั่นใจว่า การขออนุมัติหมายจับล่าสุดเป็นการสืบสวนสอบสวนขยายผลใน 7 สำนวนที่ตนกำลังดำเนินการสอบสวน คาดว่าจะขยายผลไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ขณะเดียวกัน ตนมั่นใจในพยานหลักฐาน ทั้งเอกสาร วัตถุพยาน โดยเฉพาะพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทางเทคนิค ไม่ได้เอาความลับ หรือคำซัดทอด หรือคำสารภาพไปขอหมายจับแต่ดูจากหลักฐานทั้งหมดจนมั่นใจ
เตรียมรับอีก3สำนวนม.112
ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจที่ออกหมายจับที่ระดับชั้นยศ พล.ต.อ. ที่ลาออกไปแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอะไรนะ รอให้ศาลพิจารณาอนุมัติก่อนดีกว่า ส่วน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ที่มีกระแสข่าวว่าอาจพัวพันในคดี ก็ไม่ปรากฎในสำนวนเช่นเดียวกับ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผบช.ส. ช่วยราชการ ศปก.ตร. ในขั้นนี้ยังไม่มีการออกหมายจับในสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสามารถ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะส่งสำนวนคดี ม.112 อีก 3 สำนวนให้คณะพนักงานสอบสวนชุดตนดำเนินการ ทั้งนี้ แม้ไม่ได้ตัว พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ อดีตฝ่ายเสนาธิการ กองทัพภาคที่ 3 มาดำเนินคดีก็ไม่กระทบต่อสำนวน ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนพยายามตามจับกุมตัวให้ได้
หมายจับผู้ต้องหา112เพิ่มอีก5
วันเดียวกัน ศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับ พล.ต.สุชาติ พรมใหม่ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ “เสธ.โต” อดีตผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.11 รอ.) ในฐานความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีอำนาจหน้าที่แต่แอบอ้างว่ามีอำนาจหน้าที่ไป แอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายมาตรา 123 พร้อมทั้งได้ออกหมายจับ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป, พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2.บก.ป, พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2.บก.ป และ พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ สว.ส.ทล.2 กก.1.บก.ทล อดีตนายตำรวจสังกัด บช.ก ในฐานความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
แฉพฤติกรรมแสวงหาประโยชน์
ทั้งนี้ การขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาชุดดังกล่าว เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนพบข้อมูลสำคัญ และพฤติการณ์แอบอ้างเบื้องสูงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ โดยการไปขอเงินสนับสนุนเพื่อมาทำเสื้อที่จะใช้ในการสำหรับกิจกรรมสำคัญ รวมทั้งเรียกรับค่าหัวคิวส่วนแบ่งโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในกิจกรรมสำคัญทางโทรทัศน์จากผู้ประกอบการภาคเอกชนหลายแห่ง
“ศุกร์โข”โดนคดีครอบครองปืน
ขณะที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ออกหมายจับ นายศุกร์โข ตามเสรี คนสนิทของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีตสารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ(ปอท.) ในฐานความผิด ครอบครองอาวุธปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง
โปรดเกล้าฯถอดยศ“เสธ.โจ้”
วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหารและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด พ.อ.คชาชาต บุญดี ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากต้องหาคดีอาญาฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ และได้หลบหนีคดีเดินทางออกนอกราชอาณาจักร กับประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ ตามข้อ2ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วย ผู้ซึ่งไม่สมควรจะดํารงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ.2507 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ที่บุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทานตามข้อ6และข้อ7 (4)ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ.2548 ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน2558 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
“อาท”เครียด/ฝากขังผลัด4
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และทหาร ควบคุมตัว นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาท ชัตเตอร์มหาเทพ เลขานุการ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ผู้ต้องหาร่วมกันหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตราประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มายังศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขออำนาจศาลทหารฝากขังผัดที่ 4 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ถึง 7 ธันวาคม โดย นายจิรวงศ์ มีสีหน้าเคร่งเครียด เดินก้มหน้าตลอดเวลา และเมื่อดำเนินการฝากขังแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้พา นายจิรวงศ์ กลับไปควบคุมที่จากเรือนจำชั่วคราว แขวงถ.นครไชยศรี มณฑลทหารบกที่11 ทันที
ปปง.ยึดทรัพย์แก๊งหมิ่นอีก30ล.
ทางด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายกระทำผิดมาตรา 112 ของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด รวมถึง หรือหมอหยอง, นายอาท และบุคคลที่เกี่ยวข้องว่า ล่าสุดมีการติดตามทรัพย์สินและยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องแล้วกว่า 10 รายการ มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท โดยทรัพย์สินทั้งหมดเกี่ยวกับการไปแอบอ้าง เรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มเอกชนมาจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ แต่นำไปใช้ส่วนตัว เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการโอนทรัพย์สินไปต่างประเทศ สำหรับการตรวจสอบเส้นทางการเงินตำรวจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบตามพยานหลักฐานที่ได้จากพนักงานสอบสวน โดยยอมรับว่ามีทั้งนายตำรวจและทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ปปง.จะชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้อย่างชัดเจนอีกครั้ง
คาดได้กก.สอบราชภักดิ์สัปดาห์นี้
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบหมายให้ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการจัดสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์นั้น แหล่งข่าวแจ้งว่า พล.อ.ปรีชา ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงกลาโหม 3 ราย ได้แก่ พล.ร.อ.อุทัย รัตตะรังสี, พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล และ พล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ เป็นผู้คัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบฯ พร้อมให้นำรายชื่อดังกล่าวเสนอให้ พล.อ.ประวิตร คัดเลือกอีกครั้ง คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี