1 ธ.ค.58 ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เล่าให้ที่ประชุมทราบว่า ในปัจจุบันได้มีความพยายามของแกนนำและกลุ่มการเมืองที่จะปลุกปั่น ยุยง สร้างกระแสให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น โดยมีแกนนำของกลุ่มการเมืองบางท่านได้ แสดงความประสงค์ขอลงพื้นที่อุทยานราชภักดิ์ ซึ่งโดยปกติอุทยานราชภักดิ์เป็นพื้นที่เปิด ประชาชนสามารถเดินทางเข้าไปได้โดยไม่ต้องขอนุญาตหรือแลกบัตร
แต่สิ่งที่แกนนำหรือกลุ่มการเมืองได้พูดผ่านสื่อหรือให้สัมภาษณ์ เป็นลักษณะของการลงไปตรวจสอบ ซึ่งที่จริงแล้วการลงพื้นที่ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้อยู่แล้ว มีเพียงสถานที่ให้ดู หากเป็นการตรวจสอบโดยความเป็นจริงต้องตรวจสอบด้วยเอกสารและหลักฐาน ซึ่งโดยหน้าที่ของท่านแล้ว ท่านไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบตรงนี้ ดังนั้น พฤติกรรมที่เกิดขึ้นจึงเข้าข่ายการยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความสับสนกับพี่น้องประชาชน พยายามใช้คำพูดในทำนองว่ามีการทุจริต ประพฤติมิชอบขึ้นในโครงการ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหน่วยงานที่เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดรายงานว่ามีการทุจริต ประพฤติมิชอบเกิดขึ้น
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการชัดเจน และมีนโยบายให้ทุกฝ่ายได้รับทราบไปแล้วว่า ทุกหน่วยงานทั้งของรัฐและหน่วยงานใดก็แล้วแต่ ในสมัยรัฐบาลนี้ และ คสช.อยู่ การดำเนินงานทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ นั่นหมายความว่า หน่วยงานองค์กรใดก็แล้วแต่ที่อยู่นอกกระทรวงกลาโหม ที่มีอำนาจหน้าที่และประสงค์ที่จะตรวจสอบ ขอให้แจ้งกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงกลาโหมยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้ท่านตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น พฤติกรรมของแกนนำที่เป็นข่าวคงพยายามที่จะทำให้เกิดกระแส อีกประการหนึ่งถ้าติดตามจะพบว่าการลงพื้นที่ของแกนนำไม่ได้ลงไปเพียงลำพัง คงมีผู้ติดตามไปด้วย ถ้าติดตามข่าวให้ดีจะพบว่าในพื้นที่ จ.ราชบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น มีประชาชนอีกส่วนหนึ่งเกิดความรู้สึกขัดแย้งกับมุมมอง และแนวความคิดของสองแกนนำ ก็คาดหมายว่าคงจะมีการจัดเตรียม และอาจเกิดการเผชิญหน้ากันขึ้นในพื้นที่อุทยานราชภักดิ์ จะเป็นใครก็สุดแล้วแต่ แต่ถือเป็นพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้ จึงมีความจำเป็นต้องเชิญแกนนำทั้งสองท่านไปพูดคุยทำความเข้าใจกัน และได้ขอร้องให้หยุดการปฏิบัติหรือพฤติกรรมในลักษณะอย่างนี้ เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และได้ปล่อยตัวไปแล้ว
ทั้งนี้ ขอฝากถึงประชาชนหากได้รับการเชิญชวนขอให้มั่นใจว่า โครงการนี้รัฐบาลพร้อมที่จะให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
"นายกฯ ได้ส่งข้อความมาถึงฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่า พี่น้องประชาชนคนไทยเจ็บปวดกับความขัดแย้ง ก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 มามากพอสมควร กว่าเราจะก้าวผ่านจุดนั้นมาได้จนถึงปัจจุบัน เราต้องฝ่าฝันหลายเรื่อง หลายอย่าง ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การอัดฉีดเม็ดเงินลงไปในระบบ วันนี้เศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ประเทศต่างๆ เริ่มมีความมั่นใจ แล้วหันมาทางท่องเที่ยวไทยมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดีขึ้น ฉะนั้น ฝ่ายความมั่นคงจึงยืนยันชัดเจนว่า จะไม่ยอมให้เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านั้นวนเวียนกลับมาอีก จึงเป็นเหตุที่ต้องเชิญตัวแกนนำไปทำความเข้าใจ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร ยังระบุว่า ขอให้ประชาชนแยกแยะประเด็นว่าอะไรคือการพยายามปลุกปั่นให้เกิดความสับสนในบ้านเมือง อะไรเป็นเรื่องของการตรวจสอบโครงการ ซึ่งรัฐบาลไม่ปฏิเสธที่จะได้รับการตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังมีความนี้พยายามในโลกโซเชียล ที่จะโยงใยตัวบุคคลบางท่านในรัฐบาล หมายรวมถึงนายกฯ ด้วย ว่ามีส่วนรู้เห็น จึงขอให้ประชาชนบริโภคข้อมูลด้วยดุลยพินิจให้ดี และหน่วยงานเกี่ยวข้องทางราชการกำลังเร่งตรวจสอบผู้ที่ปล่อยข้อมูลว่าเป็นกลุ่มไหน หากจับตัวได้จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี