ปัดรับผิดชอบ
‘กรธ.’ชี้ถ้ารธน.ไม่ผ่าน
โต้ยกร่างหวังให้ถูกคว่ำ
สปท.ดาหน้าฉะการเมือง
พวกน้ำเน่าจ้องป้ายสีคสช.
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงการความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญว่า ส่วนตัวมองว่าคงจะไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการสร้างความปรองดองแต่จะมีเพียงเนื้อหาที่เกี่ยวกับการปฏิรูปเท่านั้น เนื่องจากมองว่า หากสามารถผลักดันการปฏิรูปได้แล้ว ก็จะนำไปสู่ความปรองดอง เราจะไม่เขียนให้ฝ่ายที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์มาจับมือกัน เพราะหากกระบวนการต่างๆ ยังเหมือนเดิม เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก
ย้ำรธน.ใหม่เน้นปฏิรูป2-3เรื่อง
ทั้งนี้ เนื้อหาในส่วนนี้ จึงจำเป็นต้องสร้างกลไกหรือรูปแบบใหม่ให้เกิดการปฏิรูป ด้วยการกำหนดหลักการปฏิรูปที่สำคัญไว้ 2-3 เรื่อง ลงรายมาตราสัก 2-3 มาตรา ส่วนปฏิรูปด้านอื่นๆ ก็จะเขียนไว้กว้างๆ แล้วไปใส่รายละเอียดไว้ในกฎหมายลูกเอา เช่น การปฏิรูปกฎหมาย เป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องใส่รายละเอียดว่า จะทำอย่างไร ให้ทุกฝ่ายต่างยอมรับได้ ลบคำครหาเรื่อง สองมาตรฐานทิ้งไป
“ยังไม่ชัดเจนว่า แนวทางปฏิรูปจะใส่ไว้เป็นหมวดเฉพาะ หรือจะกระจายไปอยู่ตามส่วนต่างๆ อย่าง หมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ หมวดหน้าที่ของรัฐ และบทเฉพาะกาล ซึ่งหากกำหนดอยู่ในหมวดหน้าที่ของรัฐและบทเฉพาะกาล ก็จะมีสภาพบังคับ รัฐบาลต้องทำตาม หากไม่ทำมีโทษ” นายชาติชายกล่าว
โต้ทำตำหนิหวังให้โดนคว่ำ
เมื่อถามถึง การที่ฝ่ายการเมืองมองว่ากรธ.จงใจร่างรัฐธรรมนูญ ให้มีตำหนิ หวังไม่ให้ผ่านประชามติ นายชาติชายกล่าวว่า เป็นคำพูดที่เกินไป ไม่มีใครที่ไหนอยากเสียเวลามานั่งคิดให้ระบมสมอง เพื่อจะให้รัฐธรรมนูญไม่ผ่าน มันไม่มีเหตุจูงใจพอที่จะให้ทำแบบนั้น ตนไม่รู้สึกกังวลอะไรต่อถ้อยคำดังกล่าว แต่ยังคงทำตามหน้าที่ ใช้ความรู้เชิงวิชาการ มาเขียนกฎกติกาให้ทุกคนในสังคม ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง
ถ้าไม่ผ่านไม่ต้องรับผิดชอบ
นายชาติชายกล่าวว่า ส่วนที่เรียกร้องให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. และกรธ.รับผิดชอบ ขอถามกลับว่า จะให้รับผิดชอบอะไร เพราะเมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จพวกเราทั้ง 21 คน ก็ต้องไปอยู่แล้ว ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนมากกว่าว่า สิ่งที่กรธ.กำลังร่าง มันมีมูลเหตุที่มาจากความบกพร่องบางอย่าง แล้วกรธ.กำลังทำหน้าที่คลายปมนั้นอยู่
“การร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การกระทำทางอาญา หรือทางแพ่ง ที่จะมาฟ้องร้องกันภายหลังได้ หากที่สุดร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน พวกเราก็เสียชื่อ อีกทั้งกรธ.ก็ไม่ใช่นักการเมือง ที่จะต้องลาออกจากตำแหน่ง แสดงความรับผิดชอบ เพราะเมื่อร่างไม่ผ่านกรธ.ก็ไม่มีตำแหน่งอะไรแล้ว ประเด็นดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องเชิงการเมือง ที่นักการเมืองสร้างขึ้นมา โดยเป้าหมายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่กรธ. แต่อยู่ที่รัฐบาล กรธ.เป็นเพียงส่วนที่ต้องรับแรงกระแทกนี้เท่านั้น” นายชาติชายกล่าว
“วันชัย”โดดปกป้องเรือแป๊ะ
ส่วนนายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีนักการเมืองหน้าเดิมๆ หลายคนออกมากล่าวหาโจมตีรัฐบาล รวมทั้ง สปท.และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ว่าไม่เข้าใจปัญหาของประเทศ แก้ปัญหาไม่ถูกจุด ไม่รู้ปัญหาของประชาชน ไม่เข้าใจปัญหาการเมือง พูดเหมือนว่าตัวเองที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะรู้ปัญหาเข้าใจปัญหา
จวกนักการเมืองเอาแต่ประโยชน์
นายวันชัย กล่าวว่ส ตนอยากบอกว่า แม้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สปท.และกรธ. จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ก็รู้ปัญหาของประเทศ และเข้าใจปัญหาของประเทศไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่านักการเมืองบางคนบางกลุ่มเสียอีก เพราะคนพวกนั้น มักจะจมปลักอยู่ในวังวนของการเมืองเก่าๆ ซึ่งเป็นการเมืองที่แสวงประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้องมากกว่าที่จะคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ชมคสช.ผลงานเยอะกว่ายุคก่อน
นายวันชัยกล่าวต่อว่า เท่าที่รัฐบาลทำงานมาปีเศษและได้แถลงผลงานมา โดยเฉพาะเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง แก้ปัญหาการบุกรุกป่าไม้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จัดระเบียบสังคม วางรากฐานการบริหารราชการแผ่นดินและงบประมาณ รวมทั้งการปราบปรามคอร์รัปชั่น ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นผลงานมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 5-6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย
ทั้งนี้แม้บางเรื่องอาจจะสำเร็จบ้าง บางเรื่องอาจจะไม่สำเร็จ เพราะเป็นปัญหาที่หมักหมมจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสร้างปัญหาที่หนักหนาสาหัสเอาไว้ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาราคาพืชผล แม้ว่าจะไม่สำเร็จเสร็จทันใจ เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบกันไปทั่ว แต่ตนก็เชื่อว่ารัฐบาลรู้ปัญหาและพยายามแก้ไขอยู่แล้ว
การเมืองต้องไม่กลับไปเลอะเทอะ
“สิ่งหนึ่งซึ่งรัฐบาลจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในระยะของการเลือกตั้งที่คือ การเมืองจะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ การเลือกตั้งจะต้องสุจริตเที่ยงธรรมและมาตรการในการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นจะต้องได้ผลอย่างสัมฤทธิ์รวมถึงการเข้าสู่อำนาจและการใช้อำนาจจะต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล จะต้องไม่เหลวไหลเลอะเทอะเหมือนเก่า ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องระวังคือรัฐบาลจะต้องไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ผู้มีอำนาจจะต้องไม่ทะเลาะเบาะแว้งแตกแยกกันเอง เช่น เรื่องโครงการอุทยานราชภักดิ์จะต้องมีความชัดเจนให้กับประชาชน” นายวันชัย กล่าว
“เสรี”อัดการเมืองจ้องป้ายสีคสช.
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการปฎิรูปการเมือง สปท. กล่าว่า ขณะนี้ บรรดานักการเมืองเก่าๆ เริ่มใช้จังหวะและโอกาสออกมาเสนอความเห็นในช่วงเกิดประเด็นปัญหาที่มีข้อถกเถียงกันในเรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญบ้าง ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองบ้าง และมักจะออกมากล่าวอ้างว่า กรธ. สนช.หรือ สปท. ว่าเป็นการเข้ามา รับใช้เผด็จการ อันเป็นการใส่ร้ายใส่ความเพื่อต้องการลดความน่าเชื่อถือของ คสช.และรัฐบาล โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
“ยืนยันว่า ที่ผ่านมา กรธ. สปท. หรือ สนช.ไม่ได้เข้ามารับใช้เผด็จการ แต่ยอมรับความเป็นจริงว่า ได้เข้ามาช่วยงาน คสช.ที่เป็นฝ่ายทหารที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ และประชาชน ที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของนักการเมืองเก่าๆ ที่สร้างความเสียหายสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างแสนสาหัสมาก่อน”นายเสรีกล่าว
ชงหั่นปาร์ตี้ลิสตตัดพวกน้ำเน่า
นายเสรี กล่าวต่อว่า นักการเมืองน้ำเน่าเหล่านี้ เป็นบรรดาพวกที่เคยเป็นแกนนำที่อยู่ในปาร์ตี้ลิสต์เกือบทั้งสิ้น เป็นกลุ่มที่สร้างความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างหนักมาแล้ว อันรวมถึงบรรดากลุ่มทุนและพวกมีอิทธิพลทั้งหลายที่ฝังตัวอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ อันเป็นต้นทางของการทุจริตคอรัปชั่นที่เกิดในประเทศอย่างมหาศาล
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติและขจัดนักการเมืองเก่าๆที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงควรตัดช่องทางไม่ให้นักการเมืองที่เข้ามาลงทุนทางการเมืองและที่เข้ามาสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชนเหล่านั้นออกจากวงจรทางการเมือง โดยหากต้องการจะลงเลือกตั้งอีก ควรไปลงเลือกตั้งเฉพาะ ส.ส.เขตเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะให้คนเหล่านี้กลับมาสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองอีกหรือไม
‘ปู’ท้าใช้เลือกตั้งชี้วัดความสามารถ
ขณะเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว ว่า การเมืองคือการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อันจำกัดของประเทศเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ เป็นการวัดความสามารถของรัฐบาล ผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชนไม่ใช่ใช้ความรู้สึกหรือความตั้งใจของตัวเองเป็นตัววัด
โพลล์พอใจจัดระเบียบสังคม
ทางด้าน”สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,273 คน ระหว่างวันที่ 24-26 ธ.ค. ในหัวข้อ “รัฐบาล” ทำงานอย่างไรจึงจะถูกใจประชาชน หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานของรัฐบาลรอบ 1 ปี พบว่าผลงานที่ทำให้คะแนนนิยมรัฐบาลเพิ่มขึ้นและอยากให้ดำเนินการต่อไป พบว่าอันดับ 1 คือ การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามยาเสพติด มาเฟียและผู้มีอิทธิพล นโยบายช่วยเหลือค่าครองชีพ ขึ้นเงินเดือน การจ้างงาน ลดราคาน้ำมัน เป็นต้น
ให้เร่งแก้ปัญหาศก.-ปากท้อง
ส่วนเรื่องที่ทำให้คะแนนนิยมรัฐบาลลดลงและอยากให้แก้ไขโดยเร็ว พบว่าอันดับ 1 คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชนและเกษตรกร การแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ช่วยเหลือพวกพ้อง การจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน การแก้ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การก่อการร้าย อาชญากรรม ปัญหาชายแดนใต้ และการปฏิรูประบบราชการไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี