‘นายกฯ’ลงใต้28ธค.
พบปะชาวสวนยาง
ท่ามกลางราคาตก
ไก่อูแนะปลูกพืชอื่น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีภารกิจพบปะกับเกษตรกรชาวสวนยาง ท่ามกลางราคายางพาราตกต่ำ 3 กิโลกรัมต่อ 100 บาท ที่ จ.สุราษฎรธานี ในวันที่ 28 ธันวาคมนี้
โดยเริ่มที่เวลา7.00น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะขึ้นเครื่องบิน ทีที่กองการบิน ศูนย์เครื่องย้ายกองทัพบก ท่าอากาศยานดอนเมือง และจะกองบิน 7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ในเวลา8.15น.จากนั้น นายกฯและคณะ เดินทางไปยังบ้านนายวิสูตร ตันธรักษา สมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสุข จำกัด ที่ ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล โครงการปลูกกล้วยหอมทองแซมในสวนยางพารา
ต่อจากนั้น เวลา9.40น.นายกฯและคณะมีกำหนดการเดินทางไปยังโรงเรียนบ้านหนองเรียน ต.นาใต้ อ.บ้านนาเดิม เพื่อตรวจเยี่ยมตลาดประชารัฐ และรับฟังรายงานสรุปโครงการสร้างความเข้มแข็ง ให้เกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือตามโครงการดังกล่าวให้เกษตรกรชาวสวนยาง ประมาณ300ราย และพบปะประชาชนในพื้นที่2,000คน
เวลา13.20น.นายกฯและคณะ เดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้(ฉลุง)อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อรับฟังบรรยายสรุป และเยี่ยมชมอาคารศูนย์บริหารการลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง(Rubber City )และพื้นที่ก่อสร้างโครงการ พร้อมทั้งเป็นประธานพิธีเปิดอาคารฯ จากนั้นเวลา 16.15น.เดินทางต่อไปยังด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อทำพิธีเปิดอาคารด่านสะเดาขาเข้า และนั่งรถเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา โดยจะเดินทางกลับถึงกองการบินศูนย์เครื่องย้ายกองทัพบก ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯในเวลา18.40น.
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการเยือนภาคใต้หนนี้ว่า เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล กิจกรรมประชารัฐ ติดตามผลสัมฤทธิ์จากมาตรการเสริมเรื่องของยางพารา ที่รัฐบาลได้มีลงไป เช่น การปลูกพืชเสริม การเลี้ยงสัตว์ควบคู่ไปด้วย เพราะไม่อยากให้ชาวสวนยางฝากชีวิตไว้กับการปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียว เนื่องจากสุ่มเสี่ยงเวลาราคายางตกต่ำ จะทำให้ลำบาก หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาตรการกำกับเพิ่มเติมใครปลูกพืชอื่นเสริม มีแหล่งเงินทุนไปให้ โดยจะมีเกษตรกรที่ทำแล้วดีขึ้นมาเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นแรงจูงใจชาวสวนยางในพื้นที่ หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตามที่รัฐบาลแนะนำ
ขณะเดียวกัน นอกจากติดตามนโยบาย การขับเคลื่อน ดูผลสัมฤทธิ์ ติดตามการทำงานของข้าราชการในพื้นที่ รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน เพียงแต่ว่าเวลาไม่เยอะนัก แต่จะพยายามลงพื้นที่ให้มากขึ้น ตามที่นายกฯเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ปีที่สองของรัฐบาลนโยบายต่างๆ มีความชัดเจนมากขึ้นทุกเรื่องแล้ว เพียงแต่อยากติดตามผลสัมฤทธิ์ วางแผนไว้จากนี้ไปต้องมีความชัดเจนเป็นระยะๆ ว่า ระยะเวลาเท่านี้ต้องเกิดอะไรขึ้น ดัชนีชี้วัดคืออะไร เป็นไปตามนั้นหรือไหม ที่ได้วางไว้ตามโรดแม็ปในระยะเวลาที่เหลือ 1 ปี 6 เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี