13 ม.ค.59 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม 303 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ สำนักงานอัยการสูงสุด โดย นายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุด นายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายพันธุ์โชติ บุญศิริ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ร่วมกันแถลงข่าวคดี "การยื่นฟ้องคดีอาญากลุ่มผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต กรณีการระบายข้าวแบบ จีทูจี (รัฐต่อรัฐ) ในโครงการรับจำนำข้าว" (คดีต่อเนื่องกรณีฟ้องนายภูมิ สาระผล ที่ 1 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่ 2 กับพวกรวม 21 คน ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ อม.25/2558 ซึ่งศาลได้รับฟ้องไว้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อม.1/2559 และนัดฟังคำสั่งในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 10.00 น.
ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช ได้ส่งสำนวนการไต่สวนให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้อง Guangdong stationery & sporting goods imp.& exp. Corp. (หรือบริษัท กวางตุ้ง จำกัด ) กับพวกรวม 14 คน ผู้ถูกกล่าวหา ที่ร่วมกันกระทำการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ G to G ในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งอัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า พยานหลักฐานยังมีข้อไม่สมบูรณ์ จึงตั้งข้อไม่สมบูรณ์และตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุด รวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์
ซึ่งคณะทำงานร่วมฯ ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ข้อยุติเกี่ยวกับการดำเนินคดีแล้วส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป ต่อมาอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า คดีในส่วนของ Guangdong stationery & sporting goods imp.& exp. Corp. (หรือบริษัท กวางตุ้ง จำกัด ) กับพวก ซึ่งเป็นนิติบุคคล รวมทั้งผู้แทนหรือเจ้าหน้าที่นิติบุคคลจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวม 7 คน มีข้อไม่สมบูรณ์ จึงให้ดำเนินการไต่สวนเพิ่มเติมตามกฎหมายและอยู่ระหว่างการดำเนินการ ขอความร่วมมือทางอาญา ส่วนห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร กับพวกรวม 7 คน ซึ่งมีพยานหลักฐานสมบูรณ์พอฟ้อง อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ดำเนินคดีฟ้องนิติบุคคลกับพวกกลุ่มนี้ไปก่อน
ในวันนี้ อัยการสูงสุดได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร กับพวกรวม 7 คน เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหาตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 มาตรา มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 4 มาตรา 123/1
พร้อมกันนี้ อัยการสูงสุดได้นำคำฟ้อง พร้อมสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเอกสารหลักฐานต่างๆ รวมจำนวน 300 กล่อง 2,280 แฟ้มหรือประมาณ 85,990 แผ่น ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย ซึ่งศาลได้รับฟ้องไว้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อม. 1/2559 และนัดฟังคำสั่งในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 10.00 น.
จำเลยคดีนี้ ประกอบด้วยนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยรวม 7 คน แม้ในวันนี้ จำเลยทั้งหมดจะมาศาลหรือไม่ก็ตาม อัยการสูงสุดยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2543 ข้อ 8 วรรคสอง
สำหรับขั้นตอนตามกฎหมายภายหลังการฟ้องคดี ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะเลือกองค์คณะผู้พิพากษาเพื่อพิจารณาคดีนี้ จำนวน 9 ท่าน โดยเลือกจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาหรือผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน องค์คณะผู้พิพากษาดังกล่าว จะประชุมเพื่อเลือกเจ้าของสำนวนคดี จำนวน 1 ท่าน และพิจารณาคำฟ้องของอัยการสูงสุด หากไม่มีการแก้ไข ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำสั่งประทับฟ้อง
อนึ่ง คดีนี้มีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกันและมีพยานหลักฐานชุดเดียวกันกับคดีอาญาหมายเลขดำที่ อม.25/2558 ของศาลนี้ ซึ่งคณะพนักงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินคดีได้ยื่นคำร้องขอรวมพิจารณาด้วยแล้ว โดยคดีดังกล่าว อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวกรวม 21 คน และศาลนัดไต่สวนพยานหลักฐานของคู่ความแล้วโดยนัดไต่สวนพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 2 มีนาคม 2559
สำหรับรายชื่อจำเลยคดีอาญากลุ่มผู้สนับสนุนโครงการรับจำนำข้าว กรณีการระบายข้าวแบบ G to G (รัฐต่อรัฐ)
ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร โดยนายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 1
นายทวี อาจสมรรถ จำเลยที่ 2 บริษัท
กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด โดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ จำเลยที่ 3
บริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ ( 2002 ) จำกัด โดยนายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการ จำเลยที่ 4
นายปกรณ์ ลีศิริกุล จำเลยที่ 5
บริษัท เจียเม้ง จำกัด นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการ จำเลยที่ 6
นางประพิศ มานะธัญญา จำเลยที่ 7
อย่างไรก็ดี นายทวี อาจสมรรถ ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร และในฐานะกรรมการบริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด จะต้องรับผิดในฐานะผู้ทำการแทนนิติบุคคลทั้งสองแห่ง การบรรยายฟ้องในสำนวนคดีจึงมีผู้ต้องหารวมทั้งสิ้นจำนวน 7 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี