22 ม.ค. 59 ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ต.บึงปลาทู จ.นครสวรรค์ นายกฯ ได้กล่าวกับข้าราชการ ประชาชน ที่มาต้อนรับว่า ในนามรัฐบาลถือเป็นครั้งแรกได้เห็นรอยยิ้ม ความสุข ทำให้ตนกดดันมากขึ้น คือต้องทำงานมากขึ้น ความเข้มแข็งอยู่ที่เราทุกคน แก้ปัญหาให้ประชารัฐ แก้น้ำ ที่ดิน ไม่ใช่แก้ชิ้นเดียวแล้วจบ ใจเย็นๆ ตั้งใจหลังปีใหม่ลดการพูดให้น้อยลง ไม่โมโห เพราะพูดมา 2 ปีแล้ว แต่ถูกถามยั่วยุ ถามจนโมโห ตั้งใจปีนี้โมโหน้อยลง แต่ทำได้ 3 วัน ซึ่งการพูดแต่ละเดือนมีประเมินเรตติ้งรายการคืนความสุขให้คนในชาติมีขึ้นลงๆ ตนต้องการให้คนไม่ได้ฟังทุกฟัง แต่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ฟังมา พูดครั้งเดียวคนฟังทั้งประเทศไม่ได้ เพื่อต้องการให้รู้ว่ากำลังปฏิรูประเทศ เราคิดแบบเดิมไม่ได้ ต้องพูดถึงการแก้ปัญหาทั้งระบบ วันนี้ดีใจที่เห็นรอยยิ้มทุกคน และนายสมคิดพูดดังฟังชัด เพราะเป็นนักการเมืองมาก่อน แต่วันนี้ต้องเป็นนักการประชารัฐ มาทำในส่ิงที่คิดไว้ ที่ในช่วงการเมืองทำไมได้ แต่วันนี้ทำได้ เพราะไม่ต้องการคะแนน ไม่ต้องการผลประโยชน์ ต้องการแค่แรงใจ
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้อยากให้ทุกคนใช้สติการคิดในเรื่องต่างๆ ไม่ใช่ให้การเมืองมานำ ต้องใช้สติปัญญา คุณธรรม ใช้ความปรองดอง ไม่สร้างความขัดแย้ง ตนไม่ได้เข้ามาสร้างปัญหา แต่เข้ามาแก้ปัญหาประเทศ ทำอย่างไรไม่ให้ประเทศล้มลง วันนี้ต้องปฏิรูป อย่ามาบอกว่ารัฐบาลนี้เข้ามาไม่ทำอะไรเลย และการปฏิรูปต้องปฏิรูปตัวเองก่อน ปฏิรูปความคิด ความร่วมมือกัน ส่ิงเหล่านี้ไม่เกิดมา 10 ปีแล้ว เพราะความขัดแย้งทางการเมือง วันนี้ไม่มีการเมือง ให้ใช้วิกฤติที่ตนโดนด่า โดนตำหนิมาเป็นโอกาสของท่านไม่ดีกว่าหรือ เราแก้ปัญหาประเทศ 1 ปีที่ผ่าน ซึ่งตั้งแต่พ.ค.57 ถ้าไม่เข้ามาเราไม่เจอกันแบบนี้หรอก ต่างคนก็กระจัดกระจาย เพราะมันตีกันเละไปหมด สาหัส กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จะยิงกันท่าเดียว รบกันท่าเดียว และหยุดความขัดแย้งได้ชั่วคราว และเร่ิมทำในส่ิงใหม่ๆได้ มาถึงปีที่ 58 และเข้าสู่ปี 59 เข้าสู่ระยะที่ 2 ของคสช.และรัฐบาล โรดแมปตนปี 60 เลือกตั้ง แต่ไม่รู้เลือกตั้งได้หรือเปล่า อยู่ที่ท่าน เขาจะทำต่อในส่ิงที่ตนทำมาหรือเปล่าอยู่ที่ท่าน ต้องใช้สิตปัญญา อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง ต้องคิดถึงครอบครัว สังคม ประเทศชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการเช่าที่ทำการเกษตร ต่อไปนี้ นายทุนคนใดให้เช่าแล้วต้องทำสัญญา ใครไม่ทำสัญญามีเรื่องแน่นอน ตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง ไปดู ต้องมีสัญญาเช่า และจะไปข่มขู่ว่า ถ้าไม่ทำเดี๋ยวเอาคนอื่นมาทำ คนเช่าก็กลัว เช่าไปแล้วแถมพอปลูกพืชแล้ว ไม่สนใจว่าจะได้ข้าวหรือไม่ได้ ยังไงต้องเงินค่าเช่า อย่างนี้มันเกินไป บางคนบอกว่าเงินฉันจะยังไงก็ได้ คนไทยทั้งนั้น วันนี้ต้องอยู่ด้วยกัน ร่วมมือกันให้ได้ ต้องมีความเป็นธรรมกับชาวบ้าน และอย่าลืมว่ามีพ.ร.บ.ทวงหนี้แล้ว มีหนี้ก็ต้องใช้ บางคนบอกให้ตนปลดหนี้ ให้ แล้วมีหนี้ไม่ต้องใช้หรือไง คือไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย มันไม่ได้ คนข้างหลังจะไม่ได้ ธนาคารรัฐก็มีอยู่แค่นี้ เดี๋ยวตัดทุกปี หนี้สูงขึ้น หนี้อะไรก็แล้วแต่ตัดไม่รู้จะตัดอย่างไรแล้ว วันนี้เรายังไม่ทวงท่าน แต่ท่านต้องช่วยเราสร้างความเข้มแข็งขึ้นมามา จะได้ลงทุนได้บ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การปฏิรูปจะทำให้เสร็จทีเดียวไม่ได้ เราจึงแยกเป็น 11วาระ ตอนนี้ทำขั้นแรก รัฐบาลหน้าต้องสานต่อตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมี วันนี้ประชาชนไม่รู้ว่าเราอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แผนที่เท่าไหร่ ตนไม่โทษประชาชน แต่โทษคนที่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ตนอยู่ก่อนหน้านี้ เพราะเขาไม่ต้องการให้ประชาชนรู้ แต่ตนบอกทั้งหมดเพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ถ้าท่านไม่ร่วมมือประเทศก็จะเป็นเหมือนเดิม และไม่อยากให้ประชาชนรักตนแค่คนเดียว แต่ให้รักรัฐมนตรีคนอื่นๆด้วย ไม่ใช่มีปัญหาอะไรแล้วไล่ รมว. คนนั้น เช่นเรื่องยางพาราก็ไล่ รมว.เกษตร แต่ที่ผ่านมา ดียักหรืออย่างไร ที่ผ่านมามันกำลังจะล้ม ที่คนเข้ามาคือเสริมที่มันจะล้ม มาค้ำยันให้มันอยู่ให้ได้ และที่ช้าเพราะไม่เคยทำกันมาก่อน และที่สำคัญทุกคนต้องร่วมมือกันและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
จากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานนายกฯได้ขึ้นรถอีแต๊ก เพื่อเยี่ยมชมแปลงพืชผักและการสาธิตการตลาดต่อด้วยการปลูกส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี