‘มีชัย’ลากไส้บางพรรค
เล่นวิชามาร
ขึ้นป้ายใส่ร้ายกรธ.-คสช.
วิษณุลุยเอาผิดพวกขวาง
สนช.รุมกินโต๊ะร่างแรก
NGOขู่ล้มถ้าไม่แก้สิทธิ
‘บิ๊กตู่’ยังงอนเมินจ้อสื่อ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวเปิดงานสัมมนาเพื่อชี้แจงสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญแก่สภาองค์กรชุมชนจำนวน 100 คน ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มุ่งหวัง 3 ประการ คือ 1.สิทธิของประชาชนเกิดดอกอออกผลต่อประชาชนอย่างแท้จริง 2.ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างจริงจังและ3.ทำให้การเมืองสุจริต ขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบให้หมดไป ส่วนกลไกการเลือกตั้ง สว.คือสร้างการมีส่วนร่วมมากขึ้น การเลือกตั้ง สส.บัตรใบเดียวจะทำให้พออยู่กันได้ ถ้าคนดีอยู่พรรคไม่ดีก็ทำงานไม่ได้ ถ้าคนไม่ดีไปอยู่พรรคดีก็ทำให้พรรคเดือดร้อน พรรคกับคนแยกไม่ได้ เราต้องดูไปพร้อมๆกัน
‘มีชัย’ซัดโกหกดึงนายกฯคนนอก
ส่วนประเด็นที่มานายกรัฐมนตรี ไม่ต้องเป็น สส.นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ที่ไปบอกกันว่าเราไปเอานายกฯ คนนอกนั้น เขาหลอก ถ้าท่านไม่เลือกจะเอาคนนอกมาได้อย่างไร เราไปทำโพลล์มาแล้วประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า คนนอกในไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดี อย่าโกง ในวันที่ประกาศชื่อนายกฯ ยังไม่มีการเลือกตั้ง วันนั้นยังไม่รู้ว่า ใครจะได้เป็น สส.คนที่ไปสมัคร สส.แล้วคิดว่าจะได้เป็นแน่ใจหรือ ถ้าตามระบบเดิมคือบัญชีรายชื่ออันดับ1 แต่ไม่แน่นอนตามระบบใหม่ เพราะเราจะคำนวณคะแนนเสียงทั้งประเทศจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ถ้าเขตได้ไม่ถึงก็เอาบัญชีรายชื่อเติม สมมติว่า คำนวณแล้วได้ สส.เขตครบ ก็จะไม่ได้บัญชีรายชื่อเลย จึงต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ก่อน
มั่วใส่ความ’คสช.’ตั้งสส.150คน
“คนพยายามที่จะบิดเบือนโกหกก็มี เวลาที่ไปเห็นข้อมูลบางพรรคบางพวก กรุณาย้อนกลับมาดูในรัฐธรรมนูญจริงว่า เขียนว่าอย่างไร เป็นเรื่องที่เอาไปบิดเบือน ถึงขั้นโกหกก็มี บางพรรคเอาไปขึ้นป้ายว่า ส.ส.500 เลือกตั้ง 350คน อีก 150คน คสช.ตั้ง ซึ่งไม่มีเลยในรัฐธรรมนูญ เรารู้ว่าคนเพียง 21คน ร่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เราต้องรับฟังจากคนที่สนใจให้ช่วยบอกด้วย ถ้าเป็นความเข้าใจผิดก็ชี้แจง ถ้าขาดตกบกพร่องก็จะไปเติมเพื่อให้สมบูรณ์” นายมีชัย กล่าวและว่า
สิทธิประชาชนอยู่ครบทั้งหมด
เรื่องสิทธิของประชาชน กรธ.แยกสิทธิที่เกี่ยวกับตัวบุคคลและสิทธิจำเป็นที่ประชาชนทุกคนควรต้องมี ออกจากกัน จึงไปเขียนหมวดใหม่คือหน้าที่ของรัฐ เพราะถ้ารัฐไม่ปฏิบัติ จะได้ชื่อว่าจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีโทษพ้นจากตำแหน่ง แต่เรื่องที่ถูกบิดเบือนคือการไปบอกว่ากรธ.ตัดสิทธิชุมชนหมดเลย ซึ่งตนยืนยันว่าสิทธิชุมชนยังอยู่ครบ
เผยเนื้อหาปรับตามสถานการณ์
นายมีชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า กรธ.ร่างรัฐธรรมนูญไม่เหมือนปี2540และ2550 เพราะปัญหาของประเทศตอนนั้นไม่รุนแรงเหมือนที่เราเผชิญอยู่ สิทธิเสรีภาพไม่ใช่ไม่พูดถึงแต่เปลี่ยนหมวด สิทธิทั้งปวงไม่น้อยลง อะไรที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายไม่ห้าม ทุกคนมีสิทธิทุกประการรองรับตั้งแต่เกิดจนตาย รัฐธรรมนูญเป็นของที่ใช้ทั้งประเทศ ใช้กับคนทุกสถานะ ต้องเขียนกว้างๆ ไม่ให้ไปจำกัดอะไรใคร ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยให้ไปอยู่ในกฎหมายลูก
พร้อมเอา’หูแนบดิน’ฟังทุกกลุ่ม
นายมีชัย ยังให้สัมภาษณ์กรณีหลายองค์กรแสดงความกังวลร่างรัฐธรรมนูญจะทำให้สิ่งที่เคยผลักดันมาหายไปว่า หากองค์กรไหนคิดว่า กรธ.เขียนยังไม่ครอบคลุมก็เสนอมาได้ กรธ.จะพิจารณาทั้งหมด แต่ยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้เป็นการเขียนต่อยอด ตอนนี้เราพยายามเอาหูแนบดินคอยฟังความเห็นที่ส่งมาจากทุกกลุ่ม ถ้าเราอธิบายแล้วกลุ่มต่างๆคิดว่ายังขาดตกบกพร่อง หากต้องเพิ่มมาตราเราก็เพิ่มได้ ส่วนการลดเวลาเขียนร่าง พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญจะมีวิธีการอย่างไรนั้น ตนยังไม่คิด เพราะต้องรอให้ร่างผ่านประชามติก่อน ซึ่งต้องสอดคล้องกับโรดแมปของรัฐบาล
ชาวบ้านเข้าใจ-รอขยายความ
ด้านตัวแทนองค์กรสภาชุมชนที่มาร่วมเสวนา บางส่วนรับว่าหลังจากฟังการชี้แจงแล้วก็เข้าใจและทำให้ความรู้สึกดีขึ้น ขณะที่บางส่วนยังติดใจเมื่อนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยไปเทียบกับรัฐธรรมนูญปี2550 โดยยังมีความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพหลายอย่างขาดหายไป
นางลักขณา แรงดี เลขาสภาองค์กรชุมชน ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทรบุรี กล่าวว่า ก่อนจะมาฟังการชี้แจงของ กรธ.ขอพูดตรงๆ ว่ามีแต่ภาพลบ เพราะมีนักวิชาการไปพูดว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่ดี ให้ไปล้มเขาเลย แต่พอมาฟังมาอ่านแล้วมันตรงกันข้าม และมาคิดได้ว่าเราไม่ใช้ควายที่เขาจะสั่งให้ไปชนใครและเมื่อเข้าใจดีแล้วก็พร้อมจะกลับไปอธิบายให้คนอื่นๆ เข้าใจตรงกัน นอกจากนี้ ผู้แทนสภาองค์กรชุมชนหลายคนสะท้อนตรงกันว่าเมื่อได้ดูหลายๆ มาตราจากทั้งสองหมวดที่นายมีชัยแนะไว้แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นว่าหลักการคุ้มครองสิทธิชุมชนส่วนใหญ่ยังคงมีอยู่
NGOจี้แก้เรื่องสิทธิ-ไม่ทำขู่คว่ำ
ด้านเครือข่ายภาคประชาชน 4องค์กร ประกอบด้วยเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคและมูลนิธิเพื่อบริโภค รวมถึงเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งนำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง และน.ส.บุญยืน ศิริธรรมเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุพจน์ ไข่มุกต์ รองประธาน กรธ.คนที่1 เพื่อขอให้กรธ.ปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นของหมวดสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ให้มีเนื้อหาครอบคลุมการคุ้มครองสิทธิของประชาชนเหมือนกับเคยเขียนในรัฐธรรมนูญปี2550
หากไม่ปรับปรุงเครือข่ายจะรณรงค์ให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติในที่สุด
สนช.รุมชำแหละร่างฉบับ’มีชัย’
วันเดียวกัน มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม โดยประเด็นการได้มา สว.ยังคงถูกพูดอย่างกว้างขวาง อาทิ พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง สนช.อภิปรายไม่เห็นด้วยกับวิธีการเลือก สว.จากกลุ่มสาขาอาชีพ ที่เสมือนการสรรหา แล้วเลือกไขว้กลุ่มกัน เพราะทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนและหลายคนไม่เข้าใจว่า จะไขว้อย่างไร เลือกอย่างไร จึงขอให้ทบทวนและกลับไปใช้วิธีสรรหาทั้ง 200คน
ค้านใบเดียวเลือกสส.ได้2แบบ
ด้าน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช.อภิปรายถึงการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว จะได้ส.ส.เขตและส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า เป็นผลดีสำหรับ กกต.ที่ลดภาระทำงาน บัตรลดลง การขนย้ายสะดวก แต่เสียหายกับประเทศชาติ เพราะเป็นการบังคับประชาชน ทำให้ไม่มีทางเลือก แม้ชอบคน ไม่ชอบพรรค ก็ต้องกาใบเดียว หรือชอบพรรคไม่ชอบคนก็ต้องกาใบเดียวและนับตั้งแต่ปี2540 ประชาชนได้เคยชินกับการใช้บัตรเลือกตั้ง 2ใบ ส่วนเรื่องบริหารราชการแผ่นดิน โดยขอให้บัญญัติการบริหารราชการส่วนภูมิภาคเพิ่มเข้าไปในร่างรัฐธรรมนูญ ในหมวดหน้าที่ของรัฐ
สว.เลือกไขว้’สับสน-ยุ่งยาก’
นพ. เจตน์ ศิรธรานนท์ อภิปรายว่า การเลือกตั้ง สส.ที่ให้เลือกบัตรใบเดียวตนกังวลว่า จะมีการทุ่มซื้อเสียงมโหฬาร ทั้งเป็นการบีบบังคับให้ประชาชนเลือกคนและพรรคการเมืองไปในคราวเดียวกัน ขัดหลักพื้นฐานการเลือกของประชาชน ส่วน สว.ที่เลือกจากกลุ่มอาชีพแบบไขว้กลุ่มกันนั้นตนเห็นว่า มีความยุ่งยากและไม่สามารถขจัดปัญหาการบล็อกโหวตได้
เลือกสส.แบบ2ใบถูกใจมากกว่า
ส่วน นายกล้าณรงค์ จันทิก สนช.กล่าววว่า แม้เลือกตั้งโดยใช้บัตรใบเดียวเป็นการส่งเสริมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง แต่สังคมยังไม่พร้อม ควรเลือกแบบบัตร 2ใบ พรรคกับคนจะสะท้อนคามต้องการของประชาชนมากกว่า ขณะที่การสรรหา สว.ที่ให้เลือกไขว้ ควรเป็นการสรรหา พร้อมขยายฐานการสรรหาให้ใหญ่ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่ผ่านมา เพราะการเลือกไขว้ไม่แก้ปัญหาบล็อกโหวตหรือทำให้ได้คนดี ซึ่งสิ่งที่ตนเสนอไม่ได้โจมตีรัฐธรรมนูญ แต่ต้องการให้รัฐธรรมนูญดีที่สุด
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมาธิการสามัญรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ โดยมี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง เป็นประธาน จะรวบรวมความเห็นของ สนช.และจัดทำเป็นรายงานนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนเสนอต่อ กรธ.ภายในวันที่ 15กุมภาพันธ์ต่อไป
‘พรเพชร’หนุนให้ผ่านประชามติ
ขณะที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงถึงการอภิปรายความคิดเห็นของ สนช.ต่อร่างรัฐธรรมนูญ ว่า สนช.สนับสนุนให้ร่างนี้ผ่านประชามติ เพื่อให้เดินไปตามโรดแมปที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้ ส่วนข้อถกเถียงเรื่องการลงคะแนนเสียงประชามติ ได้หารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯแล้ว มีแนวโน้มว่าน่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อให้เกิดความชัดเจน มากกว่าส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
ไม่ผ่านร่างใหม่-ขุดฉบับเก่ามาใช้
ส่วนทางออกหากประชามติไม่ผ่านนั้น นายพรเพชร ตนเห็นว่า อาจแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวหลังผ่านการทำประชามติไปแล้วว่า จะทำอย่างไรต่อ ส่วนตัวคิดว่า หากไม่ผ่านด้วยคะแนนห่างกันเล็กน้อย ก็อาจจะนำมาศึกษา ทำโพลล์ ปรับปรุงต่อไปให้ถูกใจประชาชน หรืออาจหยิบฉบับ2540และ2550 ที่เสนอกันมาปรับปรุงก็ได้ แต่หากแพ้เยอะ ต้องร่างใหม่ทั้งฉบับก็ต้องทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องแก้ 2ครั้ง สำหรับเกณฑ์คะแนนประชามติและทางออกหากไม่ผ่าน ใช่หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ใช่ ก่อนทำประชามติต้องทำแน่ คือ เรื่องของเสียงประชามติที่ค่อนข้างยุติแล้ว ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้เร็วๆ นี้ ส่วนทางออกจะทำด้วยเลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายของ คสช.
วิษณุจ่อกำหนดโทษขวางทำมติ
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมกับหน่วยงานต่างๆเพื่อเตรียมความพร้อมการทำประชามติ ว่า จะประชุมวันที่ 10กุมภาพัน์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะหารือในประเด็นต่างๆ เช่น การกำหนดโทษผู้ขัดขวางทำประชามติ ที่ก่อนหน้านี้ได้ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดหลักเกณฑ์การทำประชามติ แต่ไม่ให้กำหนดโทษ ครั้งนี้จะได้พูดคุยกันว่า จะห้ามอะไรและควรมีหลักเกณฑ์อย่างไร ซึ่งวิธีกำหนดโทษทำได้ 3วิธี คือใช้มาตรา44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว2557 การออกพระราชกำหนด(พรก.)และพระราชบัญญัติ (พรบ.) ซึ่งโทษก็มีได้ทั้งโทษทางอาญา โทษทางปกครอง โทษทางแพ่งและการคาดโทษ นอกจากนี้ จะหารือกำหนดวันออกเสียงประชามติ หลักเกณฑ์ในการนับคะแนนว่า ขณะนี้มีความชัดเจนหรือยัง ถ้ายังมองว่าไม่ชัดจะทำอย่างไร จะแจกจ่ายรัฐธรรมนูญอย่างไร จะเชิญชวนประชาชนให้มาออกเสียงประชามติอย่างไร เรื่องงบประมาณที่จะใช้ทำประชามติ ส่วนตัวควรหาวิธีทำที่ประหยัด
เตรียมเคลียร์ปมทำประชามติร่าง
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า เรื่องสำคัญที่ต้องหารือกับ กกต. คือเกณฑ์การออกเสียงประชามติซึ่งจะใช้จำนวนเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์หรือจะใช้จำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิ์โดยจะต้องหาความชัดเจนกันต่อไป แต่สำหรับรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าเจตนารมณ์คือใช้จำนวนเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์เพราะไม่มีที่ใดในโลกจะนับคะแนนรวมผู้ที่ไม่ได้มาใช้สิทธิ์ แม้ได้อธิบายเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วแต่ยังมีคนบอกว่าไม่มีความชัดเจน และต้องการไขรัฐธรรมนูญ จึงต้องมาหารือกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ออกมาเปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับ นายวิษณุ เพื่อเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ประเด็นเกณฑ์ออกเสียงประชามติและทางออกหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ว่า มีการคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเยอะกว่าที่รู้ๆกัน และจะเปิดเผยภายหลัง ซึ่งการคุยกันบางครั้งก็เป็นการโยนหินถามทาง
‘มาร์ค’จี้กรธ.แก้ร่างใหม่3ปม
มีความเห็นจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งเขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญว่า 1.ขอสนับสนุนการเพิ่มความเข้มข้นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในทุกรูปแบบที่ปรากฏอยู่ในร่าง 2.ไม่เห็นด้วยที่ประชาชนถูกลดทอนสิทธิเสรีภาพและไม่ได้ระบุกระบวนการใช้สิทธิชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม 3.ขอให้ทบทวนบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรออกแบบระบบการได้มาของ สว.ที่สมควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรง ไม่ใช่เลือกกันเองระหว่างผู้สมัครในกลุ่มต่างๆ เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการวิ่งเต้นเจรจา ทั้งนี้ ยังมีบทบัญญัติอีกหลายมาตราที่ควรปรับปรุง ซึ่งรายละเอียดข้อเสนอแนะต่างๆ พรรคจะส่งหนังสือถึง กรธ.ต่อไป
‘อุเทน’ชงลดอำนาจศาลรธน.
นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญ หมวด11 ที่ว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญว่า กรธ.ค่อนข้างให้ความสำคัญกับศาลรัฐธรรมนูญ จนลืมความว่า เสาหลักอำนาจประชาธิปไตยมี 3เสา คือ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ การเขียนรัฐธรรมนูญเช่นนี้เท่ากับต้องการสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเสาหลักที่4 ไม่เท่านั้นยังเพิ่มอำนาจให้มากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ ทำให้มองได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจมาก จนอยู่เหนือเสาหลักอื่นๆ
‘บิ๊กตู่’เปิดประชุมหน.ส่วนราการ
ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่2/2559 โดยใช้เวลาประชุมนานถึง 4ชั่วโมง เริ่มเวลา 09.30น.จนถึง 13.30น.หลังประชุมและรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ เดินลงมายังจุดแถลงข่าวที่จัดเตรียมไว้ โดยระหว่างลงบันไดนายกฯได้ถอนหายใจ 1 ครั้ง ก่อนเดินมายังโพเดี้ยม พร้อมกล่าวสั้นๆว่า เป็นการประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อขับเคลื่อนงานที่สั่งการไปแล้ว รวมทั้งพิจารณาแผนงานที่จะทำต่อในช่วงเวลา 1.6ปีที่เหลือ เมื่อพูดจบ พล.อ.ประยุทธ์ เดินจากโพเดียมทันที โดยกล่าวสั้นๆว่า“ไปแล้ว”ก่อนขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาลทันที
อารมณ์ยังงอนไม่ยอมคุยกับสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ แถลงข่าวกับสื่อด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวในประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 2กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันที่สาม นายกฯยังคงไม่ให้สัมภาษณ์ ผิดกับทุกครั้งหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ที่นายกฯจะแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์เป็นเวลานาน แต่วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาแถลงเพียง 20วินาทีเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี