7 ก.พ.59 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้ทำความเห็นที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญไว้แล้ว รอฟังความเห็นของหน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่ว่าจะมีประเด็นความเห็นเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร ในส่วนความเห็นของตนให้ความสำคัญกับการวางยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว ที่เชื่อมโยงกับแผนการปฏิรูปประเทศเพื่อมีหลักประกันว่า รัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะดำเนินการปฏิรูปประเทศต่อไป
นอกจากนั้น ยังเห็นว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านระยะต้นอย่างน้อย 4 ปีข้างหน้า ประชาชนควรได้รับหลักประกันว่าจะเกิดระบบการเมืองที่มีธรรมาภิบาล และสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ สามารถทำให้ประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านมีความมั่นคงในทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสามารถพัฒนาให้เข้มแข็งมากขึ้น เท่าที่ศึกษาก็พบว่า ถูกกำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญเป็นส่วนใหญ่แล้ว อะไรที่ควรเพิ่มเติมหรือปรับแก้ก็จะทำความเห็นเสนอไป
ทั้งนี้ กรณีที่มีการเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติ เท่าที่เห็นก็มีบางกลุ่มกำลังรณรงค์อยู่ ทำอินโฟกราฟฟิคแพร่กระจายในโลกโซเชียล หรือแสดงความคิดเห็นต่างกรรมต่างวาระทางช่องทางสื่อสารมวลชนต่างๆ ตนมีข้อสังเกตว่า ในกลุ่มรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ละกลุ่มอาจมีเป้าหมายแตกต่างกัน บางกลุ่มต้องการให้มีการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจริงๆ บางกลุ่มอาจเพียงต้องการกดดันให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ไปปรับแก้ไขร่างให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของพวกตน บางกลุ่มต้องการแค่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของการต่อต้าน หรือต้องการทดสอบกระแสทางการเมืองบางอย่าง แต่ที่น่าสนใจและไม่ค่อยเข้าใจคือ พวกที่ต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการลงประชามติ ก็เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งที่รู้ว่าถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญการเลือกตั้งก็อาจจะเนิ่นนานออกไป คำถามคือ คนเหล่านี้ต้องการอะไรกันแน่ คิดอะไรในใจ คิดอะไรที่ซับซ้อน ตนก็ตอบไม่ได้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ คงต้องรบกวนสังคมช่วยกันหาคำตอบ
"รัฐบาลยังยึดกรอบเวลาในการทำงานเหมือนเดิม การจัดทำแผนปฏิบัติการของส่วนราชการ การติดตามเร่งรัดการทำงานของกระทรวงต่างๆ ยึดตามกรอบเวลาเดิม ที่วิจารณ์เรื่องกรอบเวลาที่จะยาวออกไปอีกก็ต้องเข้าใจว่า เป็นผลจาก กรธ. มองเรื่องการจัดทำร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและการเตรียมการเลือกตั้ง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 13 เดือน หรือ 8 + 5 เดือน หลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ต่างจากกรอบเวลาเดิมของรัฐบาลที่กำหนดไว้ 10 เดือน หรือ 6 + 4 เดือน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็จะนานออกไปประมาณ 3 เดือน คำถามก็คือ กรธ.มีเหตุผลเพียงพอที่สังคมจะรับได้หรือไม่กับระยะเวลาที่ว่านั้นกับการต้องจัดทำร่างกฎหมายรวม 10 ฉบับ และเตรียมการเลือกตั้งด้วย ถ้าเราติดตามข่าวทางสื่อมวลชนก็ดูเหมือนว่า กรธ.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีการหารือกันแล้ว จะเร่งจัดทำร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็ว โดยคำนึงถึงกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ เพราะฉะนั้นถ้าพิจารณาเรื่องพวกนี้โดยไม่มีอคติ ไม่มีวาระซ่อนเร้น ก็จะพบว่า ทุกฝ่ายมีเจตนาที่ดีต่อการทำให้มีรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับช่วงเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย และทำให้กระบวนการทางการเมืองการปกครองที่กำลังออกแบบกัน อยู่เป็นหลักประกันที่ดีต่อประเทศและประชาชนได้" นายสุวพันธุ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี