7 ก.พ.59 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่างชี้แจงกรณี แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้ข้อมูลว่ารัฐบาลใช้ทุกกลไก รวมไปถึงนักศึกษาวิชาทหารที่ต้องไปยืนโฆษณาหน้าหน่วยในวันลงคะแนน เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ คงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนมาก เพราะกองทัพบก (ทบ.) มีนโยบายสนับสนุนให้นักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งอยู่ในวัยการศึกษา ได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือสังคมในลักษณะจิตอาสาในกิจกรรมต่างๆ มาก่อนหน้าแล้ว ทั้งงานช่วยสังคม และงานสร้างความเข้าใจ ให้กับกลุ่มเพื่อนเยาวชนด้วยกันเอง หรือในกลุ่มครอบครัวและสังคมรอบข้าง พอเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ ก็ควรเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนควรรู้และทำเข้าใจ
โฆษก คสช.กล่าวอีกว่า การขยายสร้างการรับรู้ในเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ ถึงจะไม่ใช่กลุ่มนักศึกษาวิชาทหารก็ตาม ภายใต้กรอบการดำเนินชีวิตส่วนตัวของบุคคลคนนั้นๆ ไม่ใช่การไปเฝ้าหน้าคูหาแล้วคอยบอกใครให้เลือกอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนการแสดงความเห็นภายใต้กรอบก็ไม่ได้มีสัญญาณที่จะไปปิดกั้นอะไร นอกจากการทำความเข้าใจ โต้ความเห็นที่บิดเบือน หรือมีเจตนาแอบแฝง
ทั้งนี้ โฆษก คสช.ยังมั่นใจว่า ไม่มีเรื่องไหนที่จะไปขัดกับหลักการพื้นฐานของการทำประชามติ และประชาชนยังคงได้รับโอกาสร่วมและตัดสินใจได้โดยอิสระ ภายใต้กรอบและวิธีการที่เหมาะสม สำหรับที่กล่าวว่ามีการบรรจุเนื้อหาทุกเรื่องที่ต้องการไว้ใน รัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้ เข้าใจว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อยู่ระหว่างการรับฟัง เพื่อที่จะอธิบายด้วยเหตุด้วยผล มีในหลายๆ ประเด็น ที่จะสามารถสร้างความกระจ่างสังคมได้เป็นอย่างดี
ส่วนข้อสังเกตจากสังคมในสมมุติฐาน และความกังวลของกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญ เหมือนจะเน้นเฉพาะการเข้าสู่อำนาจ และการรักษาหรืออยู่ในอำนาจเป็นหลัก จึงเป็นไปได้ที่พยายามไม่เห็นด้วยในแนวคิดการสร้างความเข็มแข็งให้องค์กรอิสระอื่นๆ ทั้งๆ ที่องค์กรอิสระ เป็นกลไกที่มีประชาชนมีส่วนร่วมได้โดยตรง และเสมือนเป็นคนร่วมขับเคลื่อนด้วย เช่น บางกรณีประชาชนอาจสงสัยก็สามารถขอยื่นเรื่องให้ตรวจสอบในเรื่องทุจริต หรือเรื่องที่ผิดปกติเองได้ด้วย
สำหรับที่กล่าวว่า หากร่างรัฐธรรมนูญนี้บังคับใช้ ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดคือเครือข่ายอำนาจของ คสช.เชื่อว่ายังเป็นเพียงสมมุติฐานเชิงหวาดระแวง แบบขาดข้อพิสูจน์ ที่สามารถจับต้องได้ อีกทั้งที่กล่าวว่าปัญหาที่ผ่านมาคือความไม่เป็นประชาธิปไตย นั้นก็คงไม่ใช่ เพราะอีกส่วนของสังคมเริ่มมองเห็นตรงกันว่า ปัญหาเกิดจากมีบางกลุ่มพยายามดึงเอาคำว่าประชาธิปไตยไปอ้างใช้ในมุมตนเอง และพวกพ้องจะได้ประโยชน์เท่านั้น โดยเฉพาะการอ้างไว้เพื่อเป็นเกราะกำบังในการจะทำอะไรในเรื่องที่บางสถานการณ์อาจไม่เหมาะกับประเทศ หรืออ้างใช้กรณีคิดเห็นไม่ตรงกับกลุ่มคนที่เหลืออื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่คิดว่าอาจขัดขวางผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม สำหรับที่พูดถึงกรณีรัฐบาลกำลังร่างกติกาที่เห็นชัดว่า อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ในมือประชาชนนั้น ก็ค่อนข้างบิดเบือนอีกเช่นกัน เพราะเท่าที่ได้รับข้อมูลมาในร่างรัฐธรรมนูญนี้ ได้เขียนเพิ่มเพื่อให้อำนาจประชาชนไว้มากกว่าเดิม ยืนยันไม่ใช่แค่อำนาจสูงสุดจะอยู่กับประชาชนที่ได้รับเลือกเท่านั้น ยังจะอยู่กับประชาชนในส่วนที่เหลืออีกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้เพื่อการตรวจสอบถ่วงดุล และการรักษาผลประโยชน์ประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี