8 ก.พ. 59 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการให้นักศึกษาวิชาทหารทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า นโยบายรด.จิตอาสานั้นเป็นโครงการที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 แล้ว ซึ่งมีการจัดตั้ง ฝึกอบรมให้ความรู้ มีการดำเนินการ ให้ติดตามผล โดยภารกิจหลักมี 5 กลุ่มงาน คือ 1 .เชิดชูสภาบันพระมหากษัตริย์ 2.การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตามขีดความสามารถ 3.ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณะภัย 4.การสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ซึ่งมีเรื่องย่อยคือโรดแมปคสช.ว่ามีห้วงเวลาอย่างไร พร้อมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาล และคสช. และช่วยประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ และ5.การเสริมสร้างการปรองดองสมานฉันท์
พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า ทางหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนก็ได้มีข้อตกกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้ความรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ และขณะนี้ก็มีข้อตกลงกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ให้ความรู้ อบรมถึงกระบวนการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจในแต่ละพื้นที่ อีกทั้งทางกกต.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูนักศึกษาวิชาทหาร ทั้งนี้ตามที่มีความคิดเห็นข้อคลาดเคลื่อนว่าเป็นการชี้นำนั้นหน้า ตนคิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะในข้อกฎหมายที่ได้อบรมจากกต.ได้ระบุชัดเจนว่าสิ่งใดที่ละเมิดกฎหมาย นักศึกษาจะได้รับการอบรม จะให้ไปทำผิดกฎหมายคงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการชี้นำ หากแต่เป็นการรณรงค์เชิญชวนประชาชนศึกษา และตื่นตัวต่อร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าเมื่อถึงวันลงประชามติ น้องนศท.จะมีหน้าที่อย่างไรต้องไปเฝ้าคูหาหรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ตามข้อตกตงระหว่างกกต.กับนรด.ในช่วงเดือนมิถุนายนจะมีการให้ความรู้ และสาระร่างรัฐธรรมนูญอีกครั้ง และกระบวนการกรรมวิธีในการออกเสียงประชามติ รวมทั้งบทบาทหน้าที่นศท.ในกิจกรรมนั้น อะไรที่ทำได้อะไรที่ทำไม่ได้ในกรอบของกฎหมาย
เมื่อถามว่าในการอบรมนศท.ทางคสช.คงไม่พูดถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ของร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นต่างๆ หรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า “ไม่ครับ น้องๆคงไม่สามารถชี้แจงข้อวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ แต่การที่นักการเมือง หรือนักวิชาการตีออกมาโจมตีก็เป็นในแง่มุมหนึ่ง แต่เราต้องการให้ทุกภาคส่วน ทุกสาอาชีพแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการปรับให้เหมาะสมกับประเทศไทย”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่านโยบายส่งนศท.ไปทำความเข้าใจประชาชนจะเป็นการไปกดดันหรือไม่ เพราะตอนนี้ทหารได้ลงพื้นที่อยู่แล้ว พร้อมทั้งยังมีการเรียกนักการเมือง นักวิชาการ และนักกิจกรรมเข้าพูดคุย พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า เป็นการผูกมิตรชิดใกล้ มองตากัน ได้พูดคุยกัน อย่างน้อยก็ได้รับรู้ว่าคนที่เห็นต่างคิดอะไรทำอะไร ดังนั้นเราต้องการเข้าไปอธิบาย และทำความเข้าใจ และไม่ได้ไปกดดันให้ไม่สบายใจ ถ้าคนเราเจอกันบ่อยๆก็จะเกิดความรู้สึกที่ดี และจะทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น รับฟังซึ่งกันและกัน ก็จะนำไปสู่ความต้องการร่วมกัน
เมื่อถามอีกว่าแล้วการจัดสัมมนาวิชาการในสถาบันการศึกษาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญยังสามารถทำได้หรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า อะไรที่อยู่ในกรอบก็สามารถทำได้ ซึ่งองค์ความรู้ในสถาบันการศึกษาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เพียงแต่ต้องมองว่าความคิดเห็นใดเหมาะสมกับบ้านเมือง และใช้กับการแก้ไขปัญหาได้เราก็จะหยิบมาใช้ สำหรับกรอบหรือกฎเกณฑ์ใดที่จะสามารถจัดได้นั้น ตนคิดว่าคงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่จะนำไปสู่อะไรที่ไปดีในอนาคต และคงไม่ถึงขึ้นที่จะจัดวิพากษ์รัฐธรรมนูญไม่ได้
พ.อ.ปิยพงศ์ ยังกล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญว่าเป็นฉบับถอยหลังเข้าคลองว่า ตนอยากเรียนถามว่านายทักษิณ ณ ตอนนี้อยู่ในสถานะอะไร ถ้าเรามองตามความเป็นจริงนายทักษิณอยู่ในสถานะผู้ต้องโทษ แต่ไม่ได้มารับโทษ เพราะฉะนั้นการออกมาแสดงความคิดเห็นอะไรต่างๆ ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนมีความรู้และมีวิจารณญาณว่าควรจะรับฟังหรือไม่ ซึ่งในสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้เราต้องการความปรองดองสมานฉันท์ ไม่อยากให้มีการยุแยงให้เกิดแตกความสามัคคี ดังนั้นอยากขอให้ดูสถานะคนทำงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี