เคาะแก้รธน.ชั่วคราว
ดันประชามติ
เสียงเกินกึ่งหนึ่ง-ผ่าน
ยึดเกณฑ์ของผู้มาใช้สิทธิ์
โหวต31ก.ค.-งบ3.4พันล.
พท.ขวางใช้ร่างฉบับมีชัย
ขู่ถ้าดันทุรังม.44เอาไม่อยู่
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สำนักงบประมาณ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงมหาดไทย สำนักงานไปรษณีย์ไทย และผู้แทนรัฐบาล เพื่อหารือเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)
เคาะแก้รธน.ชั่วคราวรับประชามติ
ต่อมานายวิษณุ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 เรื่องหลักเกณฑ์การประกาศผลประชามติจะแก้ไข โดยให้ยึดเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ และปรับหลักเกณฑ์การแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญให้จากร้อยละ 80 ครัวเรือน ให้ลดจำนวนลงมาเพื่อประหยัดงบประมาณ
ให้กกต.หาช่องเอาผิดพวกป่วน
นอกจากนี้จะมีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวาง และส่งไปยังท้องถิ่น ชุมชนต่างๆ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านโซเซียลมีเดียด้วย ซึ่งทำให้สามารถปรับลดงบประมาณที่กกต.เสนอมาจากจำนวน 4,200 พันล้านบาท เหลือประมาณ 3,400ล้านบาท มอบหมายให้กกต.ไปร่างหลักเกณฑ์การควบคุมความสงบเรียบร้อยในการลงประชามติ จากนั้นให้เสนอมายังรัฐบาลเพื่อพิจารณาว่าจะออกเป็นพ.ร.บ.หรือพ.ร.ก.หรือใช้มาตรา 44
31กค.วันโหวต-บวกลบ7วัน
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนวันลงประชามติกำหนดคร่าวๆคือวันที่ 31 กรกฏาคม 2559 หรือบวกลบ 7 วัน และขยายเวลาการลงประชามติจากเวลา 08.00-15.00 น.เป็นเวลา 08.00 -16.00 น.ขณะเดียวกันที่ประชุมเห็นว่าสามารถรณรงค์ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องไม่เป็นการหลอกลวงบิดเบือน ข่มขู่ หรือต่อต้านก่อให้เกิดความไม่สงบ สำหรับบัตรการลงคะแนนจะสามารถทำได้ในใบเดียวกันหากมี 2 คำถาม เพราะคำถามประชามติมีแค่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย แตกต่างจากบัตรเลือกตั้งส.ส.
เตรียมขอไฟเขียวจากนายกฯ
“ข้อเสนอทั้งหมดนี้จะนำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ภายใน 1-2 วันนี้ จากนั้นจะส่งเรื่องให้กฤษฎีร่างแก้รัฐธรรมนูญชั่วปี57 ก่อนจะเสนอให้ที่ประร่วมคณะรัฐมนตรี(ครม.)และคสช.เห็นชอบและส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณา กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 1เดือน ขณะเดียวกันที่ประชุมไม่ได้หารือถึงกรณีร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะมีทางออกอย่างไร เนื่องจากที่ประชุมพิจารณาเพียงกรอบทำให้ประชามติเกิดความเรียบร้อย เป็นธรรมและไม่เป็นปัญหา เพราะไม่ใช้ผู้กำหนดนโยบาย‘ นายวิษณุ กล่าว
“บิ๊กตู่”ยอมรับทหารขี้โมโห
ทางด้านความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปเป็นประธานการจัดงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2558 และ แถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2559 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การแสดงออกเรื่องการใช้อารมณ์ของตนเองนั้น ยอมรับว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ส่วนตัวก็ได้พยายามปรับปรุงแก้ไขตัวเองแล้ว แต่ก็ต้องขอให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย ต้องเข้าใจว่าทหารโมโหง่ายแต่ก็พร้อมปรับปรุงแก้ไขและย้ำว่าจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมป ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญนั้นอยากให้ดูเรื่องเจตนาการร่างขึ้นมาว่าเพื่ออะไร ไม่ใช่คิดว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจ
“บิ๊กต๊อก”เสนอแก้ไข11ประเด็น
ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ได้ส่งข้อเสนอถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเพื่อรวบรวมเป็นความเห็นของรัฐบาล รวม 11 ประเด็น ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย สิทธิมนุษยชน กระบวนการด้านงานยุติธรรม ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวไม่ใช่การโต้แย้ง เพราะบางครั้งในร่างรัฐธรรมนูญอาจจะเขียนกว้างเกินไปจนเราไม่เข้าใจ และบางประเด็นอาจจะไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์บางพันธะกรณีระหว่างประเทศ จึงต้องชี้แจงให้กรธ.เข้าใจ
ชื่อบิ๊กตู่จะช่วยผ่านประชามติ
“ผมพูดเสมอว่าความศรัทธา และความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีจะมีส่วนผลักดันให้ประชาชนยอมรับหรือไม่ ถึงเขียนดีอย่างไรมันไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับ แต่ผมไม่ได้สนใจในแง่ที่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ แต่ส่วนตัวตั้งใจที่จะบอกประชาชนว่ารัฐธรรมนูญเป็นแนวทางหนึ่งที่จะแก้ปัญหาต่างๆที่ผ่านมา ถ้าท่านช่วยเชื่อใจพวกเราเชื่อใจ คสช.ก็ต้องยอมให้สิ่งเหล่านี้มันออกมา แต่ถ้าท่านไม่ศรัทธาตน พูดอย่างไรก็คงไม่ให้ผ่านอยู่แล้ว”พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
“อนุพงษ์”ชงกรธ.แก้ชื่ออปท.
ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทยต่อร่างรัฐธรรมนูญ ว่า มีอยู่ 4-5 ประเด็น ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ เช่น เรื่องผังเมือง การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น ส่วนเรื่องการกระจายอำนาจนั้นมีเล็กน้อย คือในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขอให้เรียกว่าการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นแทน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังเชื่อมั่นว่า รัฐธรรมนูญต้องผ่านการทำประชามติเพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เสียหายอะไรมากนักแต่เป็นรัฐธรรมนูญที่ป้องกันการทุจริตหายาก
กรธ.เปิดรับฟังความคิดเห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมกรธ. ได้เปลี่ยนสถานที่จากรัฐสภา มาประชุมมาที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยในช่วงบ่าย กรธ. ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จัดเวทีเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในภาคกลางและภาคตะวันออก โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ชี้แจงร่างแรกอย่างเป็นทางการเวทีแรก
“มีชัย”ชี้ใช้ร่างไหนให้คสช.ชี้ขาด
ทั้งนี้ นายมีชัย ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่มีข้อเสนอจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะนำร่างฉบับนายมีชัยปี มาปรับแก้โดยไม่ต้องทำประชามติอีก โดยระบุว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่หน้าที่ของกรธ.
“ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องนี้ จึงต้องไปถามคนที่พูดเอง พราะกรธ.อยู่ในช่วงรับฟังและจะปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญให้ดีขึ้น เช่น กรณีสิทธิชุมชนที่มีความกังวล ทางกรธ.ได้รับทราบแล้ว แต่จะปรับเปลี่ยนอย่างไร จะมีการพิจารณาอีกครั้ง”นายมีชัย ระบุ
ยันไม่มีร่างรธน.ฉบับสำรอง
และยืนยันว่าไม่มีร่างรัฐธรรมนูญสำรอง เพราะสิ่งที่เคยพูดว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน เห็นของใหม่แล้วจะตกใจนั้น เป็นการเพียงการเปรียบเทียบให้เห็นว่า ไม่ว่าอย่างไรคนที่มาร่างก็จะต้องมีการกำหนดบทบัญญัติซึ่งอาจจะแรงกว่า ไม่ใช่มีการเตรียมรัฐธรรมนูญสำรองเอาไว้ ต้องให้ประชาชนดูเนื้อหาจะได้เกิดความร่วมมือ แต่หากไปเผื่อหนทางไว้ล่วงหน้า จะเกิดปัญหาที่ทำให้ประชาชนเกิดการชั่งน้ำหนัก กรธ.จึงไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ถ้าปปช.เข้าใจเนื้อหาจะผ่านมติ
อย่างไรก็ดีนายมีชัย ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะนำเอามาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญปี 50 เกี่ยวกับเรื่องสิทธิชุมชนกลับมาบรรจุไว้ทั้งหมด หรืออาจจะปรับปรุงในบางส่วน รวมถึงมาตรา 265 ที่มีถ้อยคำขัดแย้งกันเองในเรื่องกรอบเวลาของการร่างมาตรฐานจริยธรรมขององค์กรอิสระ ซึ่งจะต้องมีการปรับแก้ใหม่ และยังเชื่อว่าหากประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าไม่มีปัญหาในการทำประชามติ
ยืนกรานกาใบเดียวเหมาะสม
สำหรับระบบเลือกตั้ง กรธ.ยังเห็นว่าการใชับัตรใบเดียวสะท้อนเลือกสส.เขต สส.บัญชีรายชื่อ และนายกรัฐมนตรี เหมาะสมแล้ว เพราะมีการสำรวจความเห็นประชาชนมาแล้วต่างเห็นด้วย ส่วนที่มีการท้วงติงว่าจะทำให้เกิดการซื้อเสียงมากขึ้นนั้น ก็ต้องถามกลับว่ามีระบบใดที่จะทำให้ไม่เกิดการซื้อเสียง แต่เชื่อว่าผลจากระบบนี้จะทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น เพราะเสียงของประชาชนมีความหมายมากขึ้นทำให้การซื้อเสียงเป็นไปได้ยากขึ้น
ถกเข้มข้นก่อนเคาะร่างสุดท้าย
นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. กล่าวว่า กรธ.จะรวบรวมความคิดเห็นทุกช่องทาง ทั้งโซเชียลมีเดีย สื่อหนังสือพิมพ์ และความคิดเห็นของประชาชนจากเวทีการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ซึ่งจะเน้นเฉพาะความเห็นที่มีหลักการ และเหตุผล มาประกอบการพิจารณาปรับแก้ จากนั้น ตั้งแต่วันที่16ก.พ.ถึง 28 มี.ค. กรธ.จะลงเนื้อหาปรับแก้อย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ส่งให้รัฐบาลในวันที่ 29มีนาคมนี้และเข้าสู่การทำประชามติต่อไป
พท.เตือนรัฐบาลอย่ามัดมือชก
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ ครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุอาจจะนำร่างฉบับมีชัยมาแก้ไขเพื่อประกาศใช้หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติว่า รัฐบาลควรตัดสินใจแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวเสียเพื่อความชัดเจนว่าคะแนนชนะคือเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ ไม่ใช่ข้างมากของผู้มีสิทธิและเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนว่าถ้าประชามติไม่ผ่านแล้วมีทางเลือกอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยอึมครึมแล้วมามัดมือชก
ขู่ถ้าดันทุรังม.44ก็เอาไม่อยู่
“การจะเอารัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านมาปรับใช้โดยอ้างว่าคะแนนชนะกันไม่มาก นอกจากจะไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชนแล้ว ดูจะเป็นการดันทุรังแบบไม่แคร์ความรู้สึกนึกคิดของประชาชนว่าการไม่รับรัฐธรรมนูญมีความหมายอย่างไร ถึงเวลานั้นระวังว่าต่อให้มีประกาศสักกี่ฉบับมีมาตรา44ก็อาจเอาไม่อยู่ คิดให้ดีครับ เกรงว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะกลายเป็นวิกฤติของชาติอีกครั้งหนึ่ง”นายชูศักดิ์กล่าว
และว่าขอเสนอว่าถ้าไม่ผ่านก็ควรนำรัฐธรรมนูญฯ40มาปรับใช้แล้วจัดการเลือกตั้งภายใน60วันเพื่อให้มีรัฐบาลใหม่โดยให้กำหนดไว้ด้วยว่าให้รัฐบาลใหม่จัดให้มีกระบวนการส.ส.ร.เพื่อปรับแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดยประชาชนต่อไป
“วรชัย”เสี้ยมมีคนวางยาบิ๊กตู่
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพท. กล่าวว่า วันนี้สถานกาณ์มีแรงต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สูงมาก หลังรัฐธรรมนูญออกมาอย่างนี้ นิสิต นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวค้านกฎหมายเผด็จการจากปลายกระบอกปืน ส่งสัญญาณว่าไม่ใช่รัฐธรรมนูญของประชาชน และไม่เป็นประชาธิปไตย คนกลางๆเริ่มออกมาต่อต้านคนที่กระทบก็คือ พล.อ.ประยุทธ์
“ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์เห็นหรือยังว่าการที่ไว้วางใจคนกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่คนของตัวเอง เช่น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งเป็นคนของกลุ่มอำนาจเก่า จะมารับใช้ พล.อ.ประยุทธ์ด้วยหัวใจหรือ มองให้ดีว่ามีการวางยาง พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ เป็นการทำลายเครดิต พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ เมื่อรัฐธรรมนูญเป็นเผด็จการสุดสุดแบบนี้”นายวรชัย กล่าว
“เต้น”ขวางนำร่างมาประกาศใช้
เช่นเดียวกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า หากนำร่างเดิมมาปรับแก้แล้วประกาศใช้เลยตามที่นายวิษณุระบุนั้น ถือว่า
การทำประชามติมีความหมายเพียงการแสดงคั่นเวลา เพราะรัฐบาลตัดสินใจตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะบังคับใช้เนื้อหาส่วนใหญ่ของรัฐธรรมนูญนี้ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติไม่ว่าจะด้วยคะแนนเสียงอย่างไรก็คือว่าร่างไม่มีความชอบธรรมที่จะนำร่างเดิมมาใส่ตระกร้าล้างน้ำแล้วยัดเยียดให้ประชาชนอีก
ยุใช้ม.44ประกาศใช้ฉบับปี57เลย
“ถ้าเอาตรรกะของนายวิษณุมาจับยังต้องตอบคำถามด้วยว่าหากประชามติผ่านแบบสูสี ต้องเอาร่างนี้ไปปรับแก้ตามข้อเรียกร้องของฝ่ายไม่รับแล้วจึงบังคับใช้ด้วยหรือไม่ ถ้าคิดเอาแต่จะได้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านบาทมาทำประชามตินายวิษณุควรเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ใช้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มาตรา 44 บังคับใช้ไปเลย”นายณัฐวุฒิ ระบุ
เสนอใช้รธน.ฉบับปี40เลือกตั้ง
และว่าตนขอยืนยันข้อเสนอเดิมคือหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ต้องประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 เพื่อจัดการเลือกตั้ง แล้วให้รัฐบาลเลือกตั้งจัดเลือกตั้งสสร.มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แล้วทำประชามติในกรอบเวลา 1 ปี จากนั้นก็ยุบสภาฯ จัดการเลือกตั้งตามกติกาใหม่ ทั้งนี้ นัยเรื่องคะแนนที่น่าคิดคือ ถ้าคะแนนฝ่ายคว่ำชนะขาดลอย รัฐบาลจะรักษาอำนาจในสถานการณ์เช่นนั้นอย่างไร
รุมยำให้อำนาจศาลรธน.ล้นฟ้า
ขณะที่นายนิกร จำนง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และในฐานะอดีตผู้อำนวยการพรรคชาติไทย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป ทั้งอำนาจการวินิจฉัยมาตรา 7 การกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม ใช้บังคับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระและให้บังคับใช้กับส.ส. ส.ว.และค.ร.ม. ทั้งยังมีอำนาจวินิจฉัยเองด้วยทั้งที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องบรรทัดฐานการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญ
แฉร่างมีคำ’ศาลรธน.’130คำ
ด้านนายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงว่า ตนได้นั่งนับคำว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ”และ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ในร่างรัฐธรรมนูญ 270 มาตรา ร่วม 130 คำ และองค์อิสระ 39 คำ จึงขอตั้งฉายาร่างรัฐธรรมนูญของนายมีชัยว่า “รัฐธรรมนูญฉบับศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี