12 ก.พ. 59 นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Watana Muangsook" วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการดำเนินการเอาผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยเห็นว่าการดำเนินการของภาครัฐและองค์กรอิสระมีความไม่สอดคล้องกัน
ทั้งในประเด็นที่ นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว ออกมาระบุว่านโยบายจำนำข้าวไม่ผิดแต่วิธีการดำเนินการผิด แต่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กลับหยิบประเด็นดังกล่าว ไปยื่นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน รวมไปถึงประเด็นที่ สำนักอัยการสูงสุด (อสส.) นำประเด็นข้าวหาย 390,000 ตันไปยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ปลัดกระทรวงพาณิชย์กลับมาบอกภายหลังว่า ข้าวไม่ได้หายแต่เป็นการลงบัญชีผิดพลาด ข้อความว่า
"ยิ่งลักษณ์... เหยื่ออธรรม"
ผมรู้สึกงงเมื่อได้ยินประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว (นายจิรชัย มูลทองโร่ย) ให้สัมภาษณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ดี ซึ่งเรื่องนี้นโยบายไม่ผิดแต่ว่าวิธีการมันผิด เท่ากับรัฐบาลประยุทธ์ยอมรับและยืนยันว่า การดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ถูกต้องและเป็นไปตามมาตรา 84 (8) ของรัฐธรรมนูญ 2550 แล้วทุกประการ ส่วนที่บอกว่าผิดที่วิธีการนั้นคือเห็นว่า มีความผิดในส่วนการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบาย (policy implementation) ซึ่งนายกยิ่งลักษณ์ในฐานะประธาน กขช ได้แต่งตั้งให้คณะอนุกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบ
ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ประเด็นที่ประธานคณะกรรมการฯ เพิ่งบอกว่าเป็นนโยบายที่ดีนั้น ได้ถูก ป.ป.ช. นำไปยื่นขอถอดถอนนายกยิ่งลักษณ์จน สนช. มีมติให้ถอดถอนไปเรียบร้อยแล้ว ที่แย่ไปกว่านั้นคือ อัยการสูงสุดได้นำประเด็นที่บอกว่าเป็นประโยชน์กับชาวนานี้ ยื่นฟ้องนายกยิ่งลักษณ์ต่อศาลอ้างว่าเพื่อทำให้เกษตรกรเสียหาย ปรากฏตามคำฟ้องหน้า 18 ความว่า "การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกดังกล่าว จึงไม่เป็นการสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้แก่เกษตรกร ตามที่จำเลยแถลงนโยบายไว้จริง แต่เป็นนโยบายประชานิยมที่นำไปสู่การทุจริตเชิงนโยบาย อันเป็นการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่งหรือหน้าที่และใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงการคลัง ประเทศชาติ เกษตรกร ผู้หนึ่งผู้ใดและประชาชน"
ความแย่ที่ผมขอประณามต่อมาคือ อัยการสูงสุดได้นำเอาประเด็นข้าวจำนวน 390,000 ตัน ที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์เพิ่งบอกว่า ไม่ได้หายไปไหนแต่เป็นการลงบัญชีผิดพลาดนั้น ยื่นฟ้องนายกยิ่งลักษณ์ตามคำฟ้องข้อ 2.4.2 โดยบรรยายฟ้องว่า "ความเสียหายในทางทรัพย์สินอื่น.....ตามคำฟ้องข้อ 2.1 ได้แก่การจัดเก็บรักษาข้าวตามโครงการเกิดการสูญหายหรือขาดบัญชี" สรุปก็คืออัยการสูงสุดนำเอาความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐไปฟ้องนายกยิ่งลักษณ์ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี และรัฐบาลกำลังจะเอาเรื่องนี้ไปเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งจากนายกยิ่งลักษณ์อีก นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่หัวหน้า คสช. ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวออกคำสั่งที่ 39/2558 เรื่อง "คุ้มครองการบริหารจัดการข้าวคงเหลือในการดูแลรักษาของรัฐและการดำเนินการต่อผู้รับผิด" ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2558 เพื่อคุ้มครองตัวเองและบริวารในการใส่ร้ายป้ายสีนายกยิ่งลักษณ์ กรณีจึงไม่ต่างจากการยุบพรรคไทยรักไทย ที่ปรากฏหลักฐานในภายหลังว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาบริสุทธิ์ทั้งสิ้น คำถามคือรัฐบาลนี้จะรับผิดชอบอย่างไรกับการนำเอาความเท็จไปฟ้องนายกยิ่งลักษณ์เป็นคดีอาญา จะปล่อยเลยตามเลยเพราะมีออกคำสั่งตามมาตรา 44 นิรโทษกรรมกันไว้แล้วใช่หรือไม่
วัฒนา เมืองสุข
12 กุมภาพันธ์ 2559
อ่านข่าว 'ราเมศ'ซัด'วัฒนา'หลับตาป้อง'ปู' ไม่แปลกใจ'คนมีแผล'แถดิ้นพล่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี