กรธ.พร้อมแก้ร่างรธน.
ติงสนช.-สปท.
บางคนเสนอแอบแฝง
ย้ำต้องเขียนเพื่อสาธารณะ
มาร์คแนะแก้สิทธิเสรีภาพ
เปิดทางผ่านรัฐธรรมนูญ
ทุกภาคส่วนต้องส่งความคิดเห็น ข้อเสนอแนะภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายเพื่อปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ซึ่งได้กำหนดไว้ก่อนเข้าสู่โหมดการปรับปรุงแก้ไขร่างฯตามข้อเสนอทุกภาคส่วนในช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ - 27 มีนาคมนี้
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งข้อเสนอแนะร่างรัฐธรรมนูญไปยัง กรธ.ในส่วนคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่เสนอแนะเรื่องการกระจายอำนาจอยากเห็นการทำงานระหว่างภูมิภาคกับท้องถิ่นทำงานคานอำนาจที่เหมาะสม ส่วนตัวจะเป็นพูดเรื่องนี้เป็นหลักในหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) อยากเห็นการคานอำนาจอย่างสมดุล ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร อยากให้การทำงาน เพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลจังหวัดรวมถึงเรื่องที่เวลาประชาชนร้องเรียน อยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐตอบสนองได้ทันท่วงที ให้การคุ้มครองความปลอดภัย
ปนัดดาชี้ประชามติอยู่ที่ปชช.ชี้ขาด
ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นข้าราชการ ก็ต้องยึดระเบียบในการทำงาน อะไรที่เป็นความสุดโต่งกลายเป็นความเสี่ยงภัย ความมั่นคงของประเทศ ข้าราชการ ก็ต้องโต้แย้งได้บ้าง ตรงกันข้ามไม่เช่นนั้นมีอะไรก็โทษนักการเมืองอย่างเดียว ข้าราชการ ก็ต้องโต้แย้งด้วย เพราะที่ผ่านมาทำตามหมด กลายเป็นการขาดการคาน ที่ไม่เหมาะสม ท้องถิ่นมีอะไรก็ต้องคานภูมิภาคได้บ้าง เพื่อร่วมกันสร้างจังหวัด ตำบล อำเภอ เกิดความเรียบร้อย ส่วนร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ สำคัญขึ้นอยู่กับประชาชนลงมติ ก็ต้องวัดกันด้วยเสียงนั้น ช่วงนี้ใครจะรับข้อมูลด้านไหน ขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคลแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องนำเสนอข้อเท็จจริงไปพูดจา
ไม่พบสิ่งผิดปกติเคลื่อนไหวใดๆ
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมของการเมืองโดยเฉพาะร่างธรรมนูญร่างแรกที่เผยแพร่ออกมาว่า ร่างฯฉบับนี้ ยังเป็นเพียงร่างแรก ถือว่าได้รับความสนใจมากที่สุด การวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นมีหลากหลายทั้งรูปแบบและเนื้อหา เป็นเรื่องที่สังคมควรติดตาม รับรู้ รับทราบทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงและทิศทางการเมืองของบ้านเรา และยังไม่พบสิ่งบอกเหตุของการเคลื่อนไหวที่เกินขอบเขต
ถกวิป3ฝ่าย เรื่องปฎิรูป พุธนี้
นายสุวพันธุ์ ยังกล่าวว่าในวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย มีประเด็นปฏิรูปที่คณะรัฐมนตรีได้รับทราบผลการพิจารณาของส่วนราชการที่มีต่อการศึกษาของสภาปฏิรูปแห่งชาติหลายเรื่องด้วยกัน ก็จะนำมาหารือในวิป 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนความมั่นคง แผนปฏิรูปประเทศ ถ้าเรื่องใดสามารถเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไปได้ทันที จะเรียน นายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบ และเสนอรองนายกรัฐมนตรีแต่ละด้านขับเคลื่อนต่อไป
ทั้งนี้ ส่วนตัว เห็นว่าการทำงานของวิป 3 ฝ่ายมีความก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น จากนี้ไปจะช่วยทำให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปเดินหน้าได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความเชื่อมโยงและประสานงานกับ รองนายกรัฐมนตรีทุกคน ขณะเดียวกันสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศก็มีการประสานงานกันใกล้ชิดมากขึ้นด้วย
มาร์ค ส่งความเห็นให้ปธ.กรธ.
วันเดียวกัน ที่สถาบันพระปกเกล้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ยืนยันว่าได้ส่งข้อเสนอแนะในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. แล้วโดยหวังว่า กรธ.จะนำข้อเสนอแนะไปพิจารณาประกอบการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญด้วยและอยากให้กรธ.แก้ไขปรับปรุงประเด็นที่เป็นข้อทักท้วง ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน และชี้แจงในประเด็นที่คณะกรธ.ต้องการคงไว้ ให้เกิดความชัดเจน ไม่ใช่ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญเพราะต้องการให้มีการเลือกตั้งหรือรับเพราะไม่ทราบถึงผลที่จะตามมา หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการประชามติ
เสนอแก้ไข สิทธิเสรีภาพ ปชช.
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญแล้วโดยเห็นด้วยกับการปราบปรามการทุจริตแต่ควรเพิ่มกลไกการตรวจสอบในระบบรัฐสภา การถ่วงดุลอำนาจระหว่างองค์กรอิสระและอยากให้นำเรื่องสิทธิเสรีภาพจากรัฐธรรมนูญปี 2540และปี 2550มาปรับใช้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยเฉพาะหมวดสิทธิของประชาชน ที่ควรคงไว้ตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา เพราะไม่ได้เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดวิกฤตการเมือง ขณะนี้ประชาชนไม่พอใจและเกิดข้อกังขาในประเด็นนี้อย่างมาก รวมถึงอยากให้ทบทวนเรื่องที่มาของ สว. และนายกฯคนนอกที่ควรจะบัญญัติให้เป็นข้อยกเว้น
หวังรธน.เป็นปชต.-ปราบทุจริต
สิ่งที่อยากเน้น ย้ำคือ หนทางที่บ้านเมือง จะเดินหน้าไปได้ในที่สุดคือ รัฐธรรมนูญผ่านการเห็นชอบโดยประชาชนและเป็นที่ยอมรับของประชาชน ขณะนี้ยังมีประชาชนบางส่วนยังไม่เห็นด้วย และชี้แจงในประเด็นที่ กรธ.ต้องการคงไว้ ขณะนี้ อยากให้ปรับทัศนคติ จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าให้เป็นประชาธิปไตย และปราบการทุจริตได้ด้วย ส่วนตัวมองว่าที่ผ่านมาประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตยมากเกินไป จึงมีการแสวงหาอำนาจเพื่อตนเองและนำมาซึ่งการทุจริต
อุเทนไม่ให้ผ่าน เนื้อหามีปัญหา
ขณะที่นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกฉบับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ว่า กรณี กรธ.อวดว่าเป็นฉบับที่ป้องกันการทุจริต ปราบโกง มีบทลงโทษผู้กระทำความผิดที่เข้มงวด แต่ถูกหลายฝ่ายชำแหละจนแทบไม่เหลือชิ้นดี ประเด็นที่น่าเป็นห่วง ไม่ใช่เรื่องกระบวนการเข้าสู่ตำแหน่งของนักการเมือง หรือ การเลือกตั้ง ส.ส.ที่พยายามออกแบบให้ผิดแผกแตกต่างไปจากรูปแบบการเลือกตั้งในอดีต แต่ยังมีเนื้อหา หลายส่วนที่ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไป จนหากบทบัญญัติหลายส่วนมีการประกาศใช้ อันตรายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หวั่นขัดแย้งรอบใหม่นำสู่ฉีกรธน.
นายอุเทน ยังชี้ว่า ประเด็นแรก ในหมวด15 เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ คงจำกันได้ว่า ในรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้สร้างความวุ่นวายขนาดไหน ทั้งที่ฉบับนั้น เปิดทางให้สามารถแก้ไขได้ มาวันนี้ในร่าง กรธ.กลับกำหนดเงื่อนไขไว้อย่างซับซ้อนจนมองได้ว่าแก้ไขได้ยาก หรือแทบแก้ไม่ได้เลย ใครคิดเสนอ หรือ ร่วมลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญยังสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตั้งข้อหาล้มล้างการปกครอง หรือ อาจถูกขัดขวางได้ง่าย โดย ส.ส. หรือ ส.ว.เพียงไม่กี่คนในรัฐสภา หากปล่อยไปถึงวันนั้น ไม่รู้บ้านเมืองจะวุ่นวายแค่ไหน สุดท้ายในอนาคตเมื่อต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ คงพึ่งวิธีรัฐประหารเข้ามาฉีกทิ้งทั้งฉบับเท่านั้น
วิรัตน์ เชียร์เลือกส.ว.โดยตรงทั้งปท.
ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเห็นด้วยกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เสนอความเห็นให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)แก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ข้อ เห็นด้วยหลายประเด็น อาทิ ที่มา ส.ส.ที่ข้อแก้ให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ กำหนดเขตเลือกตั้งใหญ่แบบเรียงเบอร์ ป้องกันการซื้อเสียง จะได้ ส.ส.มีคุณภาพ ที่เสนอให้ตัดอำนาจพรรคการเมือง เสนอชื่อ นายกฯ ได้ 3 คนนั้นก็ดี ป้องกันประชาชนสับสนซึ่งประชาธิปัตย์จะเสนอเพียงชื่อเดียวอยู่แล้ว คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเห็นว่า ที่มา ส.ว. ดีที่สุด ต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ควร มีฐานที่มาซ้ำกับ ส.ส.ควรให้ผู้สมัคร แต่ละกลุ่มอาชีพเลือกกันเองก่อน แล้วค่อยนำรายชื่อที่ได้มาให้ประชาชนเลือกตั้งตรงทั้งประเทศ จะได้ ส.ว.มีคุณภาพ
หนุนมีองค์กรแก้วิกฤติผ่าทางตัน
ส่วนกรณีเกิดวิกฤติทางตัน เช่น กรณีมีการล้มล้างรัฐธรรมนูญ มีการกระทำกระทบความมั่นคง กระทบสถาบันหลักของชาติ เห็นด้วยต้องมีองค์กรหนึ่ง มีอำนาจเหนือรัฐบาล และสภามาทำหน้าที่ได้ แต่มีอำนาจและทำได้เฉพาะตอนวิกฤติเท่านั้น ไม่ใช่มีอำนาจตลอดเวลา เดี๋ยวจะเหมือน คปป.ที่หลายฝ่ายไม่เอา เพราะมีลักษณะเกิดรัฐซ้อนรัฐ ส่วนสิทธิของปวงชนชาวไทย ต้องไม่ด้อยกว่าปี 40-50 ขอให้ กรธ.หยิบคำว่า สิทธิความเป็นมนุษย์ กลับมาเขียนไว้ เพราะในรัฐธรรมนูญปี 40-50 นั้นมี แต่ฉบับนี้หายไป ซึ่งเป็นสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญระดับนานาชาติเขามีกันหมด.
กลุ่มสตรีอีสาน จี้แก้สิทธิเสรีภาพ
ที่โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove)โครงการสตรีและเยาวชนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สมาคมติดตามการพัฒนาสตรีในประเทศไทย(ตพส.ไทย)กลุ่มเพื่อนหญิงอำนาจเจริญและUN Women ร่วมจัด เวทีเสวนาวิพากษ์ “ร่างรัฐธรรมนูญ และการมีส่วนร่วมของประชาชน” ซึ่งภายในงานมีตัวแทนกลุ่มสตรีจากภาคอีสานเข้าร่วมจำนวนมาก
โดยนางบุปผาวรรณ อังคุระษี ประธานศูนย์เพื่อนหญิงอำนาจเจริญ กล่าวว่าร่างรธน.ฉบับนี้ยังไม่มีความชัดเจนและไม่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะหมวดสิทธิเสรีภาพ หมวดส่งเสริมความเสมอภาค รวมทั้งเรื่องของงบประมาณที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศและสัดส่วนหญิงชายในการทำงานภาคการเมืองทุกระดับ ในเวลาเดียวกันประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการร่างและสาระสำคัญของร่าง ฉบับนี้ ถ้าจะให้ประชาชนได้เข้าถึงกฎหมายควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นปัญหาในเรื่องการตีความต่อไปอีกทั้ง หลักการกระจายอำนาจจากรธน.ปี40 และปี 50ที่ ให้จังหวัดที่มีความพร้อมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น สามารถเป็นจังหวัดจัดการตนเองได้นั้น แต่ร่างฉบับนี้ไม่ระบุไว้จึงขอเรียกร้องให้นำกลับคืนมา หวังว่า คณะกรรมาธิการร่างฯชุดนี้จะฟังเสียงข้อเรียกร้องของประชาชน เพื่อลดกระแสกดดันของสังคม
อย่าริดลอนสิทธิ ดีกว่า40-50
นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กล่าวว่าเรื่องสิทธิเสรีภาพ ไม่ควรจะไปอยู่ในหมวด หน้าที่ของรัฐรวมทั้งสิทธิการมีส่วนร่วมของชุมชน ในหลายๆเรื่องกลับอยู่ผิดที่ ผิดหมวดหมู่ สวนทางกับที่ กรธ.บอกว่าร่างรธน.ฉบับนี้ดีกว่าเดิม ถ้าจะบอกว่าดี สิทธิเสรีภาพ และ ความเสมอภาคระหว่างเพศ เป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องดีกว่ารธน.ปี40 และปี50 ที่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน ไม่ควรเป็นหมวดหน้าที่ของรัฐ ร่างฉบับนี้ให้อำนาจรัฐมากไป และริดรอนสิทธิของประชาชนและชุมชนร่างรธน.ฉบับนี้จะทำให้เป็นเหมือนสุสานรวมข้าราชการเก่า โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรอิสระ เราต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีการแก้ไขเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะทำตามข้อเรียกร้องของประชาชนและผู้หญิงหรือไม่
ด้าน รศ.มาลี พฤกษ์พงศาวลี รองประธานโครงการสตรีและเยาวชนศึกษา และผู้ประสานงานร่วม(WeMove)กล่าวว่า ช่วงนี้ประชาชนเพิ่งได้เห็นร่างและกำลังวิเคราะห์วิจารณ์กัน แต่ดูเหมือนว่า กรธ.ออกมาชี้แจง แบบปกป้องว่าร่างดีหมดทุกเรื่อง ไม่ค่อยมีท่าทีว่าจะรับฟังสักเท่าไรจึงควรระวัง ไม่เช่นนั้นที่ว่ากำลังรับฟังความเห็น อาจจะกลายเป็น มายากลโรงใหญ่ไป
กรธ.พร้อมแก้ถ้าเหตุผลดีกว่า
วันเดียวกัน นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงการทำงานของกรธ.ว่า กรธ.จะนำเอาทุกเรื่องที่รับฟังมาคุยกัน หลังจากที่ทุกภาคส่วนได้ส่งความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญมายังกรธ. โดยวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ทาง กรธ.จะเริ่มพิจารณาไล่เรียงไปตามหมวดและมาตราต่างๆและเปรียบเทียบว่าในแต่ละหมวด แต่ละมาตรมีใครเสนอปรับแก้อย่างไรบ้าง
“หากประเด็นใด เป็นประโยชน์กับประชาชนและผู้ที่เสนอให้แก้ไขสามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนว่าดีกว่าที่กรธ.คิด หรือหักล้างความคิดของเราได้ เราก็พร้อมจะปรับแก้ให้ตามข้อเสนอโดยไม่ขัดข้องโดยเรายังพร้อมที่จะรับฟังทุกความเห็นและข้อเสนอแนะ ทุกฝ่ายสามารถส่งเข้ามาได้ยังมีเวลาจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์”
ติงสนช.-สปท.บางคนทับซ้อน
ทั้งนี้ นายอมร กล่าวอีกว่าส่วนข้อเสนอของ สนช.และ สปท.ที่เตรียมส่งให้ กรธ.นั้น เห็นว่าหลายเรื่องเ ป็นความเห็นที่น่าสนใจ บางประเด็นที่คัดค้านเช่นที่มา ส.ว.หรือระบบการเลือกตั้ง บางท่านเป็นอดีตนักการเมือง ถึงจะใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา นำมาเป็นความเห็น และข้อเสนอแนะ แต่ข้อเสนอบางเรื่องก็ยังมีผลประโยชน์กับตนเองอยู่บ้าง เมื่อกรธ.ไปปิดกั้นหรือเปลี่ยนแปลงก็กระทบ จึงเกิดความไม่พอใจ ขอยืนยันว่ากรธ.จะไม่เอาใจ นักการเมือง หรือใครทั้งนั้น หากไปตามใจพวกนักการเมือง หรือคนหวังประโยชน์ ปัญหาของประเทศมันก็ไม่จบ จึงต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก หากเราจะปรับร่างรัฐธรรมนูญคือเราเห็นว่าประชาชนยังไม่ได้ประโยชน์ที่แท้จริง แต่เราจะไม่ปรับ เพื่อประโยชน์ของคนเพียงแค่บางกลุ่มเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี