บิ๊กตู่ชูสเปกสว.สรรหา
เฟ้น6กลุ่ม
ขอ5ปีเท่านั้นคุมรอยต่อ
บุกอ้อนแดงถึงถิ่นอุดรฯ
ไม่เคลียร์”มีชัย”ชี้ใจถึงใจ
จับดาวดินไปป่วนนายกฯ
บิ๊กจิ๋วลุยตั้งกองกำลังเพิ่ม
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่จ.อุดรธานี โดยเดินทางไปที่โรงเรียนจอมศรีพิทยาคาร ต.จอมศรี อ.เพ็ญ เป็นประธานมอบโฉนดที่ดินให้ประชาชน
นายกฯกล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับตอนหนึ่ง โดยกำชับให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องออกมาขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐ เพราะไม่มีใครหวังดี อย่าให้ใครปลุกปั่น อย่าแบ่งแยก อย่าไปคิดว่าจะยุบหรือไม่ยุบถ้าดีใครจะไปยุบ การปฏิรูปต้องฟังข้างนอกด้วย
“ผมขอฝากคนอุดรฯพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญด้วย และในที่นี้มีคนเป็นนักการเมืองหรือส.ส.มีหรือไม่ ไม่มีใครสนใจผมเลยหรือ ผมไม่ได้รังเกียจคนอีสาน เพราะไม่ใช่ศัตรูผม นักการเมืองอย่าทำให้ใครเกลียดชังคนอีสาน ผมไม่สอนให้ใครเกลียดชังใคร ผมก็เป็นลูกอิสาน”นายกฯกล่าว
ร้องบิ๊กตู่ยกเลิกศูนย์กำจัดขยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของนายกฯครั้งนี้ มีกลุ่มราษฎรจาก ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานียื่นหนังสือขอให้นายกฯยกเลิกโครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะแบบบูรณาการของ อบต.นิคมสงเคราะห์ของบริษัท โฮฟู อุดร คลีน เอเนอร์จี จำกัด โดยอ้างว่ามีนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำชุมชนที่มีอิทธิพลและข้าราชการบางคนที่หวังผลประโยชน์จากโรดแม็พ การบริหารจัดการขยะของนายกฯ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจ.อุดรธานี ยื่นหนังสือคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี เพราะส่งผลกระทบพื้นที่เกษตรและแหล่งต้นน้ำ
บ่นอุบควายเมินกินหญ้าป้อน
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกฯตรวจเยี่ยมนิทรรศการตามนโยบายรัฐบาล ช่วงหนึ่งได้เข้าไปดูควายในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจนในการส่งเสริมความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้านปศุสัตว์ของอ.เพ็ญ ซึ่งนายกฯได้ป้อนหญ้าให้ควายของเกษตรกร และพูดว่า”ทำตัวดีๆ อย่าดื้อนะ ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นคน ไอ้คนไหนที่เกิดเป็นคนแล้วไม่ทำความดีก็ให้มาเป็นแทนเข้าใจป่าว” แต่ควายบางตัวไม่ยอมกินหญ้าที่นายกฯป้อนให้ แม้นายกฯจะคะยั้นคะยอ จนนายกฯออกปากว่า “ควายตัวนี้เล่นตัวเว้ย สงสัยจะไม่ชอบนายกฯ
“บิ๊กตู่”อ้อนขอเวลา5ปีเท่านั้น
ต่อมาเวลา 17.30 น.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ โดยขอร้องอย่ามองรัฐบาลจะสืบทอดอำนาจ ยืนยันจะไม่ทำ กติกาความเป็นสากลมีอยู่ ตนต้องการให้รัฐธรรมนูญเดินหน้าไปได้ และขอเพียงอย่างเดียวคือ ในบทเฉพาะกาลที่จะเข้ามาช่วยเหลือเมื่อบ้านเมืองมีปัญหา ให้เข้ามาดูแลช่วงระยะเวลาหนึ่ง คิดว่าจะให้ประเทศเดินหน้าไปได้ประมาณ 5 ปี ซึ่งใครจะเข้ามาช่วยดูแล เพราะตนไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น จึงต้องการให้มีส.ว.เข้ามาดูแล ตนไปสั่งส.ว.ไม่ได้ ผู้ที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนคือ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ผ่านมาบอกว่าส.ว.จะเข้ามาป้องกันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ถ้าเป็นความเห็นชอบร่วมกันของรัฐสภา ก็แก้ไขได้ แต่การทำงานในสภาต้องไม่เสนอให้เกิดความขัดแย้ง และอยากให้ได้คนดีมาบริหารแผ่นดิน
วางสเปกสว.สรรหา6กลุ่ม
“ในเรื่องส.ว.ขออย่ากังวลอีก ผมคิดไว้ตั้งแต่ต้นไว้แล้วว่า ส.ว.ต้องมี 6 กลุ่มด้วยกันที่จะเข้ามาทำหน้าที่ คือความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายกระบวนการยุติธรรม และกลุ่มในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ดูแลรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเป็นการระดมบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจเข้าไปทำหน้าที่ ยืนยันไม่ได้ตั้งใครมั่ว ๆ ตามอำนาจของใคร คนเหล่านี้มีหน้าที่ระดมสมองเพื่อบริหารราชการแผ่นดินในกลไกของรัฐสภา ไม่ใช่ทำหน้าที่ชี้เป็นชี้ตายใครทั้งสิ้น”พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ไม่รังเกียจสส.แต่ขอ5ปีเท่านั้น
และว่าส่วนทหารที่เข้าไปทำหน้าที่ทั้ง 6 คน เป็นทหารที่อยู่ในราชการดีทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนจะกำหนดต่อไป ยืนยันว่า 6 คนเมื่อรัฐบาลมีนโยบายขึ้นไปก็ผ่านการคัดกรองของส.ว. ถ้านโยบายดี ส.ว.คัดค้านไม่ได้ ไม่ใช่รัฐบาลเข้ามาคัดค้านไปหมดเพราะไม่ใช่คสช. ย้ำว่าตนไม่ได้รังเกลียด ส.สอยู่แล้ว จะแก้อะไรก็แก้ไป แต่ขอ 5 ปีเท่านั้น”นายกฯกล่าว และว่า วันนี้ร้อนที่สุดคือร้อนใจ แต่ยิ่งร้อนยิ่งสู้ พอพูดแบบนี้เดี๋ยวสื่อก็เอาไปพาดหัวกัน
ฟุ้งไม่ต้องเคลียร์“มีชัย”ชี้ใจถึงใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เคลียร์ใจกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)แล้วหรือยัง นายกฯกล่าวว่า ใจต่อใจมันถึงกันอยู่แล้ว ตนกับนายมีชัยคุยกันมาตลอด สิ่งสำคัญคือ จะทำให้อย่างไรให้ประเทศปลอดภัย ตนขัดแย้งกับใครไม่ได้ เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น แม้กระทั่งครม.เดิม ตนก็ยังสำนึกในสิ่งที่เขาทำมาระยะแรก ทุกคนร่วมชะตากรรมกันมา
เมื่อถามว่าได้คุยกันส่วนตัวแล้วหรือไม่ ช่วงกลางวันวันที่ 17 มีนาคมที่หายไปไปพบกับนายมีชัยใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ใครหายไป ตนไปทานข้าวกับเพื่อนทหารเก่าด้วยกัน มีเรื่องหารือกันนิดหน่อย ทำไมต้องไปเจออ.มีชัยคนเดียวหรือยังไง ถามย้ำว่า อยากให้ตอบให้ชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ตนไม่ได้ไป ไม่ต้องคุย คุยกันมาตลอด ไม่เห็นต้องไปคุย
ฉะพวกวิจารณ์ตั้งทหารจ่อเรียกคุย
นายกฯกล่าวด้วยว่า ตนอยู่ในกองทัพบกมา ไม่เคยเลือกพวก ทหารทุกคนเป็นพี่น้องกัน
ตอบแทนกันด้วยพ.ร.บ.ของทหารที่มีอยู่ ดูตามความอาวุโส และเหมาะสม วันนี้คนพูดว่าตนจะแต่งตั้งคนโน้นคนนี้ หากโผออกมาแล้วไม่ถูกตามที่วิจารณ์ขอให้รับผิดชอบด้วย อย่าเขียนส่งเดช
ว่าตนแต่งตั้งตำแหน่งในกองทัพเพื่อปกป้องตัวเอง ตนเก็บหลักฐานพวกวิจารณ์การตั้งทหารไว้แล้ว
“วันนี้มาเขียนว่าคนเป็นรองแม่ทัพจะมาเป็นแม่ทัพ หรือเป็นพล.ท.มันเป็นไปไม่ได้ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ผมไม่เคยตั้งเอง คนเขียนขอให้รับผิดชอบด้วย และจะเรียกมาพูดคุย ถ้าการแต่งตั้งไม่ออกมาเหมือนที่วิจารณ์ ถือว่าสร้างความเสียหายและแตกแยกในกองทัพ ผมไม่ยอม”นายกฯระบุ
ขู่ใช้กม.จัดการสื่อเขียนข้อมูลเท็จ
และว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม มีสื่อบางฉบับเขียนว่าการลงทุนตกต่ำ 90% ซึ่งไม่ใช่ บอกว่าจะขอโทษแต่ไม่เห็นมา ตนไม่เกรงใจ ตนมีสิทธิป้องกันรัฐบาล ชื่อเสียง คราวหน้าหากเขียนเช่นนี้อาจต้องใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการ ตนให้ฝ่ายกฎหมายดูอยู่ เพราะถือว่าเขียนเผยแพร่ข้อความที่ไม่มีข้อเท็จจริง คำว่าจรรยาบรรณคืออะไร ถ้าจะวิจารณ์ส่งเดชไม่ต้องเป็นนักข่าว เพราะใครก็เขียนได้
ชงกรธ.ตัดกกต.ไม่รับผิดแพ่ง-อาญา
ความคืบหน้าการร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบฯถึงกรณีสนช.จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า มีบางมาตราที่ตนจะไปชี้แจงและขอให้ปรับแก้ เช่น การระบุให้จัดสรรงบประมาณให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้เพียงพอ หรือการระบุว่า กกต.ทำอะไรแล้ว ไม่ต้องรับผิดทางแพ่งและอาญา ต้องเอาออก
อย่ามอง6ผบ.นั่งสว.เป็นร่างทรง
นายวิษณุยังกล่าวถึงข้อเสนอของแม่น้ำ 4 สายต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)กรณีให้ผบ.เหล่าทัพ เป็นส.ว.สรรหาโดยตำแหน่ง เพื่อเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงว่า ต้องถามพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตนชี้แจงแทนไม่ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าส.ว.สรรหาโดยตำแหน่ง 6 คนไม่มีพลังกำหนดทิศทางส.ว.ที่เหลือได้ อยากให้มอง 2 ด้าน เพราะถ้ารัฐบาลมีคุณธรรมมีธรรมาภิบาลเสี่ยงโดนปะทะจนล้มได้ ส.ว.จะมาช่วยประคับประคอง แต่ถ้ารัฐบาลทำผิดมีเสียงข้างมากในสภาช่วยท้วงติง อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้มองว่าส.ว.สรรหาจะเป็นร่างทรง คสช. เพราะถ้าเป็น เป็นได้หมด อยู่ที่ว่าจะตั้งใครเข้าไป ถึงเวลามากันทุกทิศทุกทาง ถ้ามองย้อนไปในการตั้ง กรธ.ก็ถูกมองว่าเป็นร่างทรง แต่ที่สุดแล้วก็เห็นว่ามีบางคนที่เป็น แต่บางคนไม่ใช่ ทนไม่ได้ก็ลาออกไป
ชี้กรธ.ปัดข้อเสนอวัดกันที่ประชามติ
นายวิษณุยังชี้แจงข้อเสนอให้มีส.ว.สรรหา 250 คนว่า ส.ว.มีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายจึงต้องมีคุณสมบัติที่ทำให้เชื่อใจว่าสามารถกลั่นกรองได้ ก็ต้องมาดูว่าคนแบบไหนถึงจะเข้าไปในช่วง 5 ปีแรก หลังจากนั้นคงเรียบร้อยและวางใจได้ เมื่อเราต้องการให้มาคานตรงนี้ เมื่อมีส.ส.500 คน ถ้าส.ว.น้อยกว่าครึ่งคงไม่เกิดประโยชน์ และอย่าไปคิดว่าส.ว.ที่ตั้งมาเป็นพวกรัฐบาลและ คสช.ทั้งหมด บางคนไม่ชอบคนที่ตั้งเขาด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ากรธ.ไม่รับข้อเสนอคสช. จะทำอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าไม่รับก็ยึดแนวทางของตัวเองต่อไป และไปทำประชามติ คสช.ก็ไปโหวตตอนประชามติ
วิษณุกินข้าวมีชัยปัดเคลียร์ใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย ที่รัฐสภา ก่อนมีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (
กรธ.) ซึ่งมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เป็นประธาน นายวิษณุได้มาร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายมีชัยประมาณ 1 ชั่วโมง โดยนายวิษณุเปิดเผยว่า ไม่ได้หารืออะไรเป็นพิเศษ มารับประทานอาหารกันตามปกติ นายมีชัยก็ไม่ได้ตัดพ้ออะไรที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งไม่ได้เคลียร์ใจถึงข้อเสนอของแม่น้ำทั้ง 4 สายแต่อย่างใด ทั้งนี้ ข้อเสนอแม่น้ำ 4 สาย 4 หน้าแรกสำคัญกว่า 2 หน้าสุดท้าย เพราะเป็นการอธิบายเหตุผลว่าเกิดสิ่งใดขึ้นถึงได้เสนอสิ่งเหล่านี้มาให้กรธ.พิจารณา และถ้าใครได้อ่านน่าจะเดาสถานการณ์บ้านเมืองในอนาคตได้ และทำให้มองเห็นร่างรัฐธรรมนูญทะลุถึง 200 มาตรา
ถามต่อว่า นายมีชัยเคยเปรยเรื่องหนักใจเกี่ยวกับข้อเสนอที่ส่งมาบ้างหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า บางข้อท่านก็ถามว่าหมายความว่าอย่างไร สิ่งใดที่ตนตอบได้ก็ตอบ
ขอให้กรธ.แจงประชามติได้
ขณะที่นายมีชัยกล่าวว่า ไม่มีอะไร นายวิษณุมาชี้แจงกฎหมายการทำประชามติต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เลยแวะมากินข้าวด้วย ไม่ได้คุยอะไรกันเลย แต่ตนฝากบอกไปว่าช่วยให้กรธ.สามารถไปชี้แจงในขั้นแปรญัตติร่าง พ.ร.บ. การออกเสียงประชามติฯได้ด้วย ไม่เช่นนั้น พอไปชี้แจงแล้วจะกลายเป็นผิดไป ส่วนเรื่องความเห็นแม่น้ำ 4 สายไม่ได้คุยกัน ส่วนการพิจารณาหมวดการปฏิรูปนั้น วันนี้น่าจะสรุปได้แล้ว แต่อาจส่งไปให้รัฐบาลดูก่อน เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลโดยตรง ขณะที่กรธ.ก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราสรุปนั้นครบถ้วนแล้วหรือไม่
แย้มรธน.จำนวนมาตราอาจเพิ่มขึ้น
นายมีชัยกล่าวด้วยว่า การพิจารณาบทสรุปของร่างรัฐธรรมนูญสัปดาห์หน้าน่าจะสรุปและเผยแพร่ได้ อาจให้ทยอยออกมาวันละ 3 มาตรา ส่วนร่างรัฐธรรมนูญจะมีกี่มาตรา ยังไม่ทราบแน่ชัด การประชุมกรธ.วันนี้จะพยายามรวบรวม แต่เข้าใจว่าน่าจะเพิ่มขึ้นจากร่างฉบับเบื้องต้นเล็กน้อย
ปรับแก้เสรีภาพสื่อตามข้อเสนอ4องค์กร
ด้านนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษก กรธ.แถลงถึงการปรับแก้เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมได้ปรับแก้ในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น 3 มาตราตามข้อเสนอ จาก 4 สมาคมสื่อ อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สภาการหนังสือพิมพ์ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เช่น มาตรา 34 เกี่ยวกับการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความเห็น จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะที่ตราขึ้น เพื่อไม่ให้กฎหมายอื่นมาจำกัดสิทธิเสรีภาพ และเพิ่มเนื้อหาว่า การใช้เสรีภาพดังกล่าว นอกจากจะต้องไม่เป็นการขัดต่อหน้าที่ปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแล้ว ยังต้องเคารพและไม่ปิดกั้นในความคิดเห็นของคนอื่น ในร่างมาตรา 35 ปรับคำว่า อาชีพ เป็น วิชาชีพ สื่อมวลชน และมีบทบัญญัติที่คุ้มครองการทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนด้วย และในร่างมาตรา 60 ที่ให้ประชาชนมีส่วนได้ใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ด้วย
แยกหมวดปฎิรูปปท.
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า เนื้อหาในส่วนการปฏิรูปประเทศนั้น เดิมกรธ.ใส่ไว้ในเนื้อหาของแนวนโยบายแห่งรัฐ และบทเฉพาะกาล แต่วันนี้ กรธ.แยกเนื้อหาออกมาเป็นหมวดเฉพาะ โดยมีเนื้อหาการปฏิรูปประมาณ 3-4 มาตรา ครอบคลุมการปฏิรูปประเทศทุกด้าน รวมถึงกำหนดกรอบเวลาที่ต้องดำเนินการไว้ในบทเฉพาะกาลด้วย
ติงพท.รอดูข้อสรุปก่อนเคลื่อนไหว
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ.กล่าวถึงแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย (พท.)แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ.ว่า ตนและกรธ.ไม่กังวล อยากให้พรรคเพื่อไทยรอดูร่างรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้ายก่อน เพราะจากการสำรวจความเห็นประชาชนที่กรธ.ทำมาต่อเนื่อง ส่วนใหญ่กังวลเรื่องสิทธิเสรีภาพมากกว่าประเด็นทางการเมือง เช่น การเลือกนายกรัฐมนตรี บัตรเลือกตั้ง ประชาชนเข้าใจเหตุผลของกรธ. และต้องการคนดีเข้าสภา อย่างไรก็ตาม กรธ.ยังรับฟังความเห็นของภาคส่วนต่างๆไปจนถึงวันที่ 29 มีนาคม
เล็งแจงสนช.-สปท.30มีค.
ส่วนวันที่ 30 มีนาคม เวลา 10.00น. ที่ห้องประชุมสภาฯ กรธ.นัดสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการมาฟังสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ หวังว่ากลไกราชการจะนำเนื้อหาไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบก่อนออกเสียงประชามติ แต่จะไม่เชิญตัวแทนพรรคการเมืองร่วมฟัง เพราะถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในส่วนภาคประชาชน กรธ.มีกระบวนการร่วมกับส่วนราชการไปจัดเวทีเผยแพร่เนื้อหาให้ประชาชนในชนบทอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน การให้ข้อมูลร่างรัฐธรรมนูญกับประชาชนเบื้องต้นต้องมีขอบเขตตามระเบียบกกต. เช่นเดียวกับในส่วนพรรคการเมืองที่ต้องปฏิบัติตาม
สนช.รับหลักการร่างกม.ประชามติ
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ... ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ซึ่งมีสมาชิกอภิปรายสนับสนุนเพราะเป็นกระบวนการที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญมีความชอบธรรม แต่ประเด็นที่สมาชิกคัดค้านมากที่สุดกรณีใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ ที่อาจเสี่ยงต่อความเสียหายผิดพลาด เพราะเพิ่งนำมาใช้ครั้งแรก จะพร้อมใช้ลงประชามติระดับประเทศหรือไม่ อีกทั้ง เกรงทำให้ประชาชนสับสน และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการนำเข้าและวางระบบ จึงเสนอว่าควรเริ่มใช้ระดับเลือกตั้งระดับท้องถิ่นก่อน ขณะที่บางส่วนย้ำว่ากกต.ควรทำหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน มิฉะนั้นจะกระทบความปรองดอง
ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯชี้แจงโดยยอมรับว่า ครม.เสนอร่าง พ.ร.บ.นี้เข้ามาด้วยข้อจำกัดเวลาที่เร่งรัด และเมื่อส่งมายังคณะกรรมการกฤษฏีกาก็ตรวจสอบรอบคอบได้ยาก ดังนั้น สิ่งที่สมาชิก สนช.เห็นว่ายังไม่เหมาะสม ควรแก้ไขปรับปรุงในชั้นกรรมาธิการต่อไป
จากนั้น ที่ประชุม สนช.ลงมติเห็นชอบร่างดังกล่าวในขั้นรับหลักการวาระแรก ด้วยคะแนน153 ต่อ 0 งดออกเสียง 5 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญแปรญัตติ 21 คน
“ถาวร”จี้ทบทวนส.ว.สรรหา
อีกด้านหนึ่งมีความเห็นจากหลายฝ่ายต่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.เห็นว่า ความเห็นที่แม่น้ำ 4 สายเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสามารถเลือกคนนอกเป็นนายกฯ ตนไม่ขัดข้อง แต่ต้องบัญญัติไว้ว่าต้องใช้เสียงส.ส. 3 ใน 5 เป็นผู้เห็นชอบจึงจะรับได้ ส่วนส.ว.สรรหา 250 คนนั้น การสรรหาต้องมีหลักเกณฑ์กติกาจากกลุ่มหลากหลายที่จะเป็นตัวแทนประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง แต่การกำหนดให้มีผบ.เหล่าทัพเข้าไปเป็นส.ว.สรรหาคิดว่าจะเป็นผลลบมากกว่า อยากให้กรธ.ทบทวน ตัวแทนกองทัพน่าจะถอย จะดูสง่างามมากกว่า
“ปลอด”สวดยับทำลายปชต.
ขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี แกนนำพรรคเพื่อไทยเห็นว่า ข้อเสนอต่อร่างรัฐธรรมนูญ ของคสช.นั้นเป็นการทำลายโครงสร้างรูปแบบประชาธิปไตยแบบสากล เป็นการถอยหลังเข้าคลอง ยัดเยียดประชาธิปไตยแบบเผด็จการทหาร อาศัยรูปแบบสภาซึ่งมีคนของตนเป็นผู้กำกับไว้ ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจริงๆ นายกฯคนต่อไปต้องชื่อ “ป” แน่ๆ ฉะนั้น จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยหยุดพัฒนาการที่กำลังเกิดขึ้นให้ได้
โพลรับได้เนื้อหารธน.เป็นสากล
รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพล เรื่องร่างรัฐธรรมนูญกับความพร้อมลงมติของประชาชน ซึ่งสำรวจความเห็นแกนนำชุมชนทั่วประเทศจำนวน 1,074 ตัวอย่าง พบว่า ประเด็นความเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นสากล เหมาะสมกับบริบทประเทศไทย ส่วนใหญ่ 85% ระบุยอมรับได้ เช่นเดียวกับประเด็นเป็นรัฐธรรมนูญสร้างประชาธิปไตยที่ส่งเสริมบทบาทหน้าที่พลเมือง 91.1% ระบุยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม แกนนำชุมชนมากกว่าครึ่งคือ 65.2% ระบุยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเพื่อตัดสินใจลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ เมื่อถามถึงการตัดสินใจวันลงประชามติพบว่า 70%คิดว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญ
“บิ๊กจิ๋ว”เมินนายกฯลั่นตั้งกองกำลังเพิ่ม
ในประเด็นการเมืองอื่นๆนั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาตอบโต้กรณีนายกรัฐมนตรีที่ระบุถึงการตั้งกองกำลังที่ 3 เป็นกองกำลังนอกกฎหมายและจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีจริงหรือไม่ว่า อีก 2 วันตนจะชี้แจงเรื่องนี้ ซึ่งความมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสงบสุขสันติภาพในบ้านเมือง ที่มีการเรียกร้องมามาก ตนไม่กลัวการตรวจสอบ
“ผมเตรียมตั้งเพิ่มเป็นกองกำลังที่ 4 -5-6 อีก ผมไม่กลัว นายกฯตรวจสอบก็จะตั้งเพิ่มอีก ช่วงนี้บทบาทของนายกฯต่อยหนักเตะดี ขึ้นเข่าเลยทีเดียว”พล.อ.ชวลิตกล่าว
รวบ3ดาวดินจ่อชูป้ายป่วนนายกฯ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่จ.อุดรธานีเพื่อติดตามนโยบายรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีกำหนดประชุม กรอ.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี.ในช่วงบ่ายนั้น ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวนักศึกษาเครือข่ายกลุ่มดาวดิน 3 คน พร้อมยึดป้ายผ้าเขียนข้อความว่า “ร่างรัฐธรรมนูญด้วยสามัญชน”ที่เตรียมมาแสดงสัญลักษณ์ประท้วงนายกฯ และนำตัวไปสอบสวน ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลไปยังพล.ต.อ.เดชณรงค์ สิทธิ์ชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ยอมรับว่า มีการเคลื่อนของนักศึกษาจริง แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบยังไม่สามารถระบุชัดว่าเป็นกลุ่มดาวดินหรือไม่ ทั้งนี้ การแสดงออกของนักศึกษาเป็นเรื่องปกติ
“ปู”ไหว้พระวันสุทัศน์คนแห่ขอถ่ายรูป
ขณะที่มีความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯเดินทางไปไหว้พระที่วัดสุทัศน์ ศาลเจ้าพ่อเสือ และวัดชนะสงคราม ก่อนเดินซื้อขนมและรับประทานอาหารบริเวณศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนและข้าราชการขอถ่ายรูปจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่วัดสุทัศน์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้นั่งสวดมนต์ด้วย เนื่องจากช่วงเช้าคนไม่ค่อยมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี