ปปง.เต้นสอบ21คนไทย
เอี่ยวฟอกเงิน
โยงเอกสารลับ'ปานามา'
แฉ12ผู้นำ-คนดังโลกชื่อโผล่
ทั้ง'เมสซี'-เพื่อนสนิท'ปูติน'
แห่ขอใช้บริการบริษัทกม.ดัง
ช่วยโยกสมบัติ-ฉ้อโกงภาษี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 เมษายน ว่า เอกสารลับทางการเงินถึง 11.5 ล้านชุด เกิดรั่วไหลออกมาจากบริษัทกฎหมายที่เลื่องชื่อด้านเก็บงำความลับชั้นยอดระดับโลก “มอสแซค ฟอนเซกา” (Mossack Fonseca) ของปานามา โดยเอกสารทั้งหมดที่เผยให้เห็นวิธีที่บริษัทช่วยลูกค้าฟอกเงิน หลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรและหลบหลีกภาษี ถูกส่งให้กับหนังสือพิมพ์ซุดด๊อยเชอไซทุง ของเยอรมนี ก่อนที่จะมีการส่งต่อให้กับสำนักข่าวต่างๆ ใน 78 ประเทศ เพื่อช่วยกันวิเคราะห์ โดยข้อมูลชุดนี้ มีเนื้อหาเชื่อมโยงกับผู้นำประเทศต่างๆ
ทั้งที่กุมอำนาจในอดีตและปัจจุบัน 12 คน รวมถึงผู้นำเผด็จการที่ขโมยเงินประเทศของตนเอง ตลอดจนนักการเมือง ประมาณ 143 คน โดยนายเจอราร์ด ไรล์ ผอ.เครือข่ายผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ระบุว่า เอกสารดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการทำงานของมอสแซค ฟอนเซกา แบบวันต่อวันตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
เชื่อมโยง12ผู้นำประเทศ
สำหรับผู้นำและอดีตผู้นำทั้ง 12 คนที่มีชื่อปรากฎในเอกสารดังกล่าว ได้แก่ ประธานาธิบดี มัวริซิโอ แมครี แห่งอาร์เจนตินา, สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ, ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก แห่งยุเครน, ประธานาธิบดี เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, นายกรัฐมนตรี ซิกมุนเดอร์ ดาวิโอ กันล็อกสัน แห่งไอซ์แลนด์, อดีตนายกรัฐมนตรี บิดซินา อิวานิชวิลี แห่งจอร์เจีย, อดีตนายกรัฐมนตรี อะยาด อัลลาวี แห่งอิรัก, อดีตนายกรัฐมนตรี อาลี อาบู อัล-รักเฮบ แห่งจอร์แดน, อดีตนายกรัฐมนตรี ฮาหมัด บิน จัสซิม บิน จาเบอร์ อัลธานี แห่งกาตาร์,อดีตเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ ชีค ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล-ธานี, อดีตประธานาธิบดี อาหมัด อาลี อัล-เมียร์กานี แห่งซูดาน และอดีตนายกรัฐมนตรี พัฟโล ลาซาเรนโก แห่งยูเครน
โยงคนใกล้ตัวผู้นำชื่อก้องโลก
นอกจากนั้น ข้อมูลจากเอกสารยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับครอบครัวและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัก แห่งอียิปต์, พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการแห่งลิเบีย และประธานาธิบดี บาชาร์ อัลอัสซาด แห่งซีเรีย รวมถึงยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐของกลุ่มคนใกล้ชิดกับ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และธนาคารแบงค์ รอสสิยา ของรัสเซีย ที่ถูกสหรัฐและสหภาพยุโรป(อียู) คว่ำบาตรจากการที่รัสเซียผนวกแคว้นไครเมียเข้ากับตนเอง นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ ลีโอเนล เมสซี นักฟุตบอลชื่อดังชาวอาร์เจนตินาด้วย ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยวิธีการปฏิบัติงานของธนาคาร โดยมีการส่งเงินออกไปยังบริษัทต่างๆ นอกประเทศ ซึ่ง นายเซอร์เก รอลดูกิน เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปูตินเป็นเจ้าของอยู่สองแห่ง เนื้อหาในเอกสารที่รั่วไหล ชี้ให้เห็นว่านายเซอร์เกสร้างผลกำไรหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐได้แบบไม่ชอบมาพากล
รบ.ปานามาลั่นเน้นโปร่งใส
ด้านรัฐบาลปานามาแถลงว่า ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะทำให้ภาคการเงินและกฎหมายมีความโปร่งใส และจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดกระทำใดๆ ที่ไม่เป็นตามนี้ อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ไม่ได้ระบุชื่อบริษัทกฎหมายที่ถูกเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติและองค์กรสื่อกว่า 100 แห่งทั่วโลกเปิดโปงเอกสาร 11.5 ล้านชุด ว่าช่วยเหลือผู้นำและคนดังทั่วโลกเลี่ยงภาษี และไม่ได้ระบุชื่อ นายรามอน ฟอนเซกา หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานาธิบดี สำหรับบริษัทดังกล่าวมีสาขาใน 35 ประเทศ องค์กรสื่อระบุว่า เอกสารที่นำมาเปิดโปงนี้ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2520 ถึงเดือนธันวาคมปีก่อน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ได้เอกสารนี้มาจากที่ใด
ผู้บริหารมอสแซกฯยันไม่ผิด
นายรามอน ฟอนเซกา ผู้บริหารมอสแซค ฟอนเซกา ยืนกรานว่าไม่ได้ทำผิด บริษัทของเขาให้คำปรึกษาด้านกฎหมายในการตั้งบริษัทมามากกว่า 240,000 แห่ง แต่ไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบกับการดำเนินงานของบริษัทเหล่านั้น เขาเชื่อว่าบริษัทตกเป็นเหยื่อของการรณรงค์ระดับโลกเพื่อละเมิดความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนอันศักดิ์สิทธิแต่มีคนบางกลุ่มไม่เข้าใจ บริษัทจะมุ่งมั่นปกป้องความเป็นส่วนตัวทางกฎหมายนี้ต่อไป
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่า เอกสาร 11.5 ล้านชุดที่หนังสือพิมพ์ซุดด๊อยเชอไซทุง ในเยอรมนีเผยว่ารั่วไหลมาจากฐานข้อมูลของมอสแซค ฟอนเซกาและได้แจกจ่ายให้แก่องค์กรสื่อกว่า 100 แห่งทั่วโลก แสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มคนลอบทำข้อตกลงและเงินกู้ในต่างประเทศมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 70,325 ล้านบาท โดยมีหัวโจกเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย
แฉโยง780บุคคล-บริษัทในไทย
มีรายงานว่า ในส่วนของประเทศไทยนั้น พบว่ามี 780 รายชื่อที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นชาวไทยและชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในไทย และบริษัทจดทะเบียน 634 แห่ง ใช้บริการของมอสแซค ฟอนเซกา
แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นนักการเมืองหรือเอกชน และยังไม่เปิดให้สาธารณะเข้าค้นหาได้
ปปง.เต้นขอข้อมูลสอบ21คนไทย
ขณะที่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเพียงรายงานข่าวจากสื่อเท่านั้น ซึ่งมีการระบุว่า มีคนไทยเกี่ยวข้อง 21 ราย แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน ทั้งนี้ ทาง ปปง.ของไทยกำลังประสานงานไปยัง ปปง.ปานามา โดยจะทำเป็นหนังสือเพื่อสอบถามถึงรายละเอียดข้อเท็จจริงและเอกสารฉบับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กระบวนการทำงานด้านการติดตามการฟอกเงินข้ามชาตินั้น กว่า150 ประเทศทั่วโลก ได้มีข้อตกลงทำงานร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอยู่ตลอด
สมช.ชี้เรื่องสำคัญ-ต้องสอบ
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า เบื้องต้นจะเป็นหน้าที่ของ ปปง. หลังจากนั้นเชื่อว่าจะมีการส่งข้อมูลมายัง สมช. อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน โดยจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนในแง่ของความมั่นคงต้องเกี่ยวพันแน่นอน เดี๋ยวจะตรวจสอบว่าที่มีข่าวว่าคนไทยเกี่ยวข้อง 21 คนนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบแน่นอน ถือเป็นเรื่องสำคัญ เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถานะการเงินของประเทศ
ลั่นเอาจริงหากพบคนไทยทำผิด
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ปปง. คงจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่า จะมีการเปิดเผยข้อมูลออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น หากพบว่า มีคนไทยเกี่ยวข้องและกระทำผิดจริง จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี