แฉแก๊งโพสต์ป่วน'มั่นคง'
ไอ้โม่งชักใย
ทำเป็นทีม-จ่ายเดือนละแสน
ตร.เปิดผังโยงทั้งขบวนการ
เคยรับงานจากตุ๊ดตู่-ลายจุด
ศาลหมายจับ9-อยู่เมืองนอก1
รื้อพรบ.คอมพ์เพิ่มโทษคุก20ปี
จากกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊คในชื่อกองทุนหนึ่งใน จ.ขอนแก่น หลังโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในลักษณะข้อความก้าวร้าว รุนแรง หยาบคายและชักจูงประชาชนเพื่อให้รับ หรือไม่รับรัฐธรรมนูญ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 61(1) มีเนื้อหาเป็นเท็จใส่ร้ายป้ายสี ข่มขู่ ก้าวร้าวรุนแรง ก่อให้เกิดความวุ่นวาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10ปี หรือปรับไม่เกิน 2แสนบาท หรืออาจถูกห้ามเลือกตั้ง 5ปีนั้น
จับสาวขอนแก่นโพสต์ผิดม.61
เวลา 22.30น.วันที่ 27เมษายน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2และพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ร่วมแถลงการจับกุม นางจีรพันธุ์ ตันมณี อายุ 59ปี ประธานกองทุนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 27เมษายน2559 ตามมาตรา61(1) ของพรบ.ออกเสียงประชามติฯโดยเจ้าหน้าที่เข้าเชิญตัวขณะประชุมอยู่ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
เจ้าตัวยอมรับทำผิดกม.จริง
นางจีรพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลเหมือนกับการเลือกตั้ง จึงคิดว่าการโพสต์ข้อความดังกล่าวก่อนจะถึงวันลงประชามติ จะไม่มีความผิด แต่มาทราบภายหลังว่า กฎหมายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22เมษายนแล้ว ปกติตนเป็นคนสนใจเรื่องผลประโยชน์บ้านเมืองบ้างนิดหน่อย แต่ไม่มีคดีติดตัว ไม่รู้กฎหมาย ที่โพสต์ข้อความดังกล่าวอยากให้ประชาชนสนใจ ซึ่งกลุ่มของตนก็เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ไม่รู้ว่าจะมีคนให้ความสนใจ อยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ว่า ควรจะใช้ถ้อยคำที่สุภาพมากกว่านี้
ปชช.-กกต.เเจ้งจับคนทำผิดได้
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.กล่าวว่า การควบคุมตัว นางจีรพันธุ์ เพราะกฎหมายบังคับใช้แล้ว โดยมีการบอกว่าสิ่งใดทำได้-ไม่ได้ ตามมาตรา61วรรค2 ประชาชนทุกคนแจ้งความในความผิดนี้ได้ ไม่ต้องเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ยืนยันตนไม่ล้ำหน้าใครและการประชุมกกต.ตนแจ้งเรื่องนี้ต่อที่ประชุมให้รับทราบ ยืนยันไม่มีใครตำหนิตน เพราะทุกคนมีสิทธิแจ้งความ และตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่ทำก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยที่ประชุมเพียงแต่บอกตนว่า หากจะทำอะไรก็ขอให้บอกกันก่อน รวมทั้งหากรับธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ กกต.แต่ละคนมีอำนาจตัดสินคดีได้เลย เพื่อให้ทำงานทันท่วงที
ออกหมายจับ9รายผิดพรบ.คอม
ส่วนความคืบหน้ากรณีทหารใช้ตามมาตรา44 ควบคุมตัวผู้มีพฤติกรรมกระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ 10คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมและมีข้อมูลร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แหล่างข่าวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า หลังนำตัวทั้งหมดมาสอบถามและพูดคุย ก็ให้การรับสารภาพ โดยทั้งหมดได้เซ็นชื่อรับทราบการให้การต่อเจ้าหน้าที่ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมาย คสช.ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามกับผู้ต้องหาทั้ง 9คนแล้ว
ต่อมา เวลา 10.00น.วันที่ 28เมษายน พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้นำสำนวนไปยื่นขออุมติศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับบุคคลทั้ง 9คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ หรือนัท 2.นายชัยธัช รัตนจันทร์ 3.นายนพเก้า คงสุวรรณ 4.นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรนันท์ หรืออ้วน 5.นายโยธิน มั่งคั่งสง่า หรือโย 6.นายธนวรรธน์ บูรณศิริ 7.นายศุภชัย สายบุตร หรือตั๋ม 8.นายหฤษฏ์ มหาทน และ9.นายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา หรือที โดยศาลอนุมัติออกหมายจับฐานผิดกฎหมายอาญา มาตรา116และกระทำผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ส่วน นายชัยธัช รัตนจันทร์ ผู้ต้องหาอีกรายยังอยู่ในต่างประเทศและทหารจะนำผู้ต้องหา 8 คน ไปพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อหาและสอบปากคำ ก่อนนำตัวไปฝากขังกับศาลทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเชิญ นายนิธิ กุลธนศิลป์ ผู้จัดการร้านราเมง จ.ขอนแก่น มาสอบถามพบว่า นายนิธิ น่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว จึงนำตัวส่งบ้านพักย่านลาดพร้าวแล้ว
คสช.แฉทำกันเป็นขบวนการ
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากลุ่มผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา 9คน ในจำนวนนี้อยู่ต่างประเทศ 1คน โดยวันที่ 27เมษายนที่ผ่านมา ที่มีการคุมตัว 10คนและปล่อยตัวไปแล้ว เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง 2คน โดยเป็น 1คนที่คุมมาจาก จ.ขอนแก่น สำหรับข้อกล่าวหาทั้ง 9 ราย คือมีกระทำความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์และผิดกฎหมายอาญา มาตรา116 มีการยุยง ปลุกปั่น ทั้งนี้ ไม่ใช่การกระทำในลักษณะของบุคคล แต่เป็นขบวนการ ซึ่งพฤติกรรมการโพสต์ข้อมูลมีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว ประกอบกับคำให้การ ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีได้
มีโม่งชักใย-ไม่ยืนยันโยงนปช.
ส่วนพฤติกรรมจะมีความสัมพันธ์และมีส่วนเกี่ยวข้องกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือไม่นั้น หากมองการเชื่อมโยงทางคดียังไม่ชัดเจน ซึ่งการที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ระบุว่า เป็นผู้บริหารเพจของ นายจตุพร นั้น เป็นเพียงความเชื่อมโยงส่วนบุคคล แต่ไม่ใช่การเชื่อมโยงทางคดี การกระทำของขบวนการนี้มีบุคคลอยู่เบื้องหลัง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ในการสืบสวนและขยายผลต่อไป ยืนยันว่า เมื่อเจ้าหน้าที่พบผู้กระทำผิด หรือผู้ต้องสงสัยนั้น ได้ปฏิบัติด้วยแนวทางสุภาพและเปิดเผย ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการกล่าวหาว่าดำเนินการในรูปแบบกระทำต่อคนที่ผิดพ.ร.บ.คอมมิวนิสต์ ที่ผ่านมายังไม่พบเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ ยกเว้นคนที่ใช้ความรู้สึกตัดสิน
โฆษก คสช. กล่าวต่อว่า การกระทำทั้ง 9คนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มีการโพสต์หวังผลทางจิตวิทยา ทำให้บุคคล องค์กร รัฐบาล เกิดความไม่น่าเชื่อถือและไม่ได้รับความไว้วางใจ ขัดกับแนวทางการบริหารราชการและรักษาความสงบของสังคมนำไปสู่การคล้อยตาม การต่อต้านและทำให้เกิดการปลุกระดมได้
แก๊งนปช.แห่ขอเยี่ยมที่มทบ.11
เวลา 13.00น.ที่บริเวณด้านหน้ามณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช.,นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช.,นพ.เหวง โตจิราการ, นายนิสิต สินธุไพร, นายอารี ไกรนรา เป็นต้น เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่ถูกทหารควบคุมตัวฐานกระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์
‘ตู่’ฉะยิ่งกว่าพรบ.คอมมินนิสต์
โดย นายจตุพร กล่าวว่า ตน และคณะมาเยี่ยมผู้ที่ถูกคุมตัว เพราะรู้จักกับนายนพเก้า คงสุวรรณ และน.ส.วรารัตน์ เหม็งประมูล ที่ทำเฟซบุ๊กให้กับตน ขณะที่นายธนวรรธ์ บูรณศิริ เคยเป็นอดีตพนักงานพีซทีวีแต่ลาออกไปตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ตนอยากสื่อสารกับผู้มีอำนาจว่าการใช้มาตรการอุ้มตัว และให้พนักงานสอบสวนหาความผิดในภายหลังนั้น เป็นการกระทำยิ่งกว่าพ.ร.บ.คอมมิวนิสต์ โดยใช้มาตรการอุ้มตัว ตนอยากให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ได้แล้ว การจับน้องๆทั้ง 10คน ขอให้เป็นกรณีสุดท้าย ในช่วงการทำประชามติ ไม่ควรสร้างบรรยากาศความหวาดกลัวให้กับประชาชน
‘เต้น’ท้าสู้ในสนามประชามติ
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ความหมายประชามติที่ทั่วโลกเข้าใจคือ การที่ผู้มีอำนาจต้องรับฟังเสียงประชาชน แต่วันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ประชาชนต้องฟังเสียงผู้มีอำนาจ ยืนยันว่าไม่มีบุคคลใดไปเดินเกมใต้ดินเพื่อเผชิญหน้ารัฐบาล ไม่มีขบวนการการเมืองไหนที่จะมาท้ารบกับผู้มีอำนาจ เพราะเชื่อว่าสนามการต่อสู้เกิดขึ้นจริงแล้ว คือสนามการลงประชามติ ซึ่งจะเป็นการหาคำตอบให้ประเทศอย่างสันติว่าประชาชนส่วนใหญ่คิดเห็นอย่างไร เพราะฉะนั้นขอให้สบายใจและลดความหวาดระแวงลง
สุดท้ายแห้ว-ทหารไม่ให้เยี่ยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแกนนำ นปช.เข้าติดต่อเจ้าหน้าที่ทหารด้านหน้า มทบ.11 เพื่อขอเข้าเยี่ยมผู้ถูกควบคุมตัวทั้ง 9คน แต่เจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาต โดยระบุว่า เตรียมจะนำทั้ง 9คน ไปแจ้งข้อหาที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมทั้งนำตัวไปขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังในวันที่ 28เมษายนนี้
สอบไม่เสร็จส่งฝากขัง29เม.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังส่งผู้ต้องหา 9คนที่กระทำความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์และกฎหมายอาญา มาตรา116 ให้อยู่ในการควบคุมของตำรวจกองปราบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและ สอบปากคำ ที่กองบังคับการกองปราบปรามฯเสร็จสิ้นเมื่อช่วงเย็นและเตรียมฝากขังต่อศาลทหาร แต่เนื่องจากผู้ต้องมีจำนวนหลายคน ทำให้การสอบสวนใช้เวลาพอสมควร จึงไม่สามารถฝากขังได้ทันเวลาในวันที่ 28เมษายน เนื่องจากศาลปิดทำการเวลา 16.30น.เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากไว้ที่ห้องควบคุม สน.พหลโยธินและสน.ใกล้เคียง โดยวันที่ 29เมษายน จะนำตัวไปฝากขังศาลทหารผัดแรก ในเวลา 09.00น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหา ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อทีมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พยายามจะฝ่าแนวกั้นของทหารและตำรวจ เพื่อแสดงความจำนงจะเข้าร่วมสอบปากคำ พร้อมอ้างว่ามีญาติผู้ต้องหาต้องการจะพบด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันที่จะให้พบภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนตรวจร่างกายและทำประวัติ สร้างความไม่พอใจให้กับทนายดังกล่าว
ร้องศาลอาญาปล่อย4เนวร่วม
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาพร้อมบิดามารดาและญาติของบุคคล 4คน ที่ถูกทหารคุมตัวไว้ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทหารปล่อยตัว นายนพเก้า คงสุวรรณ กับพวกรวม 4 คน อ้างว่าถูกคุมขังที่ มทบ.11โดยมิชอบ เพราะไม่มีการแสดงหมายจับและไม่แจ้งข้อกล่าวหา หลังศาลได้ไต่สวนทนายแล้วได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 29เมษายน
น.ส.ภาวิณี กล่าวว่า ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 29เมษายนว่า คดีมีมูลหรือไม่ หากคดีมีมูลศาลจะรับไว้พิจารณาและออกหมายเรียกตัวผู้ถูกควบคุมตัวมาไต่สวน แต่ถ้าฟังแล้วไม่มีมูล ศาลก็จะยกคำร้อง
ผบ.ตร.จับตากลุ่มต้านไม่รับร่าง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้มอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ที่ดูแลความมั่นคง เป็นผู้ดูแล กรณีพสต์ข้อความสุ่มเสี่ยงส่อในทางชักจูงไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมาย พรบ.คอมพิวเตอร์ ก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่ขอให้ปฏิบัติภายใต้สิทธิที่มีอยู่
สนช.รับหลักการแก้พรบ.คอมพ์
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับที่..พ.ศ....ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นผู้เสนอ โดยร่างดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พรบ.คอมพิวเตอร์2550 เพื่อให้ทันสมัยกับสภาวะกาลปัจจุบัน ที่มีการกระทำความผิดที่ซับซ้อนและรวดเร็ว แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน หลังสมาชิกอภิปรายเสร็จแล้ว ที่ประชุมรับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนน160 ต่อ0เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 15คน เพื่อพิจารณาในวาระ 2และ3ต่อไป
โดยสาระสำคัญของการแก้ไข พรบ.ฉบับดังกล่าว มีการคุมเข้มการกระทำผิดทั้งผู้ใช้-ผู้ให้บริการ รวมทั้งเพิ่มฐานความผิดและเพิ่มโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 4แสนบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี