ออกหมายจับ‘เมธี’
เบี้ยวฟังคำพิพากษา
หมิ่นประมาท‘จตุพร’
อมเงินบริจาคเสื้อแดง
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ศาลอาญาได้ออกหมายจับนายเมธี อมรวุฒิกุลอดีตดารานักแสดงชื่อดัง และอดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กรณีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลอุทรธรณ์คดีหมิ่นประมาทนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำนปช. ตามหมายนัดศาล
คดีนี้นายจตุพร เป็นโจทก์ฟ้อง นายเมธี จำเลยที่ 1กับพวกรวม 7 คนเป็นจำเลย 1 - 7 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 53 นายเมธี แถลงข่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทำนองว่านายจตุพร โจทก์ อมเงินบริจาคของคนเสื้อแดงจำนวน 68 ล้านบาท และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงบนชายหาดเมืองพัทยา รวมทั้งกล่าวหาว่านายจตุพรโทรศัพท์ขู่ฆ่าจำเลยด้วย
ซึ่งศาลชั้นต้นพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้กล่าวข้อความหมิ่นประมาท โดยมีการ นำข้อความไปตีพิมพ์เผยแพร่และตัดต่อแต่งเติมข้อความทำให้โจทก์ ได้รับความเสียหาย แต่ทางนำสืบโจทก์ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า จำเลยที่ 2 - 7มีการแต่งเติมข้อความส่วนใด อย่างไร จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา
ส่วนข้อความที่กล่าวถึงโจทก์ นั้นจำเลยที่ 1 ยอมรับว่าได้กล่าวจริง ทำนองว่า โจทก์ทำรุ่มร่ามกับหญิงบนชายหาด เห็นว่าคำว่า “รุ่มร่าม” หมายถึง ความไม่เรียบร้อย ไม่ได้แสดงว่าโจทก์มีพฤติการณ์เชิงชู้สาวกับหญิงอื่น จึงไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาททำให้โจทก์เสื่อมเสีย
สำหรับข้อความที่จำเลยที่ 1 กล่าวถึงเงินบริจาคคนเสื้อแดง 68 ล้านบาทว่า เป็นเงินบริสุทธิ์ ต้องทำให้โปร่งใส ไม่ใช่รับรู้เพียงโจทก์และพวก 3 คน โดยให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อความโปร่งใสนั้น เป็นการกล่าวทำให้โจทก์เสียหายว่า อมเงินบริจาค การกระทำของจำเลยที่ 1 ในส่วนนี้จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
พิพากษาว่า นายเมธี จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ จำคุก 2 ปี ปรับ 100,000 บาท คำให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ปรับ 66,666 บาทโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-7 พิพากษายกฟ้อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึง เวลา ปรากฎว่านายเมธี จำเลยที่ 1 ไม่มาศาล มีเพียงนายรุจรินทร์ ทองใหญ่ทนายความจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2-7มาศาล ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 ได้รับหมายศาลโดยชอบแล้ว ถือว่ามีเจตนาหลบเลี่ยงไม่มาฟังคำพิพากษา จึงให้ออกหมายจับเพื่อมาฟังคำพิพากษา และนัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์อีกครั้งวันที่ 9 มิ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.
ภายหลังนายรุจรินทร์ ทองใหญ่ ทนายความ กล่าวว่า ตนเองเพิ่งได้รับมอบหมายจากจำเลยที่ 1 เพื่อให้ช่วยเขียนคำร้องยื่นอุทธรณ์สู้คดีให้ แต่ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อนายเมธีได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจำเลยที่ 2 -7 ประกอบด้วย บริษัท นสพ.แนวหน้า จำกัด นายโชคชัย สุมน นายวัชระ เพชรทอง บริษัท เอ็นเอส ทีนิวส์ จำกัด บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี