5 พ.ค.59 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ในนามรัฐบาล โดยรัฐบาลได้เชิญบุคคลสำคัญและผู้แทนหน่วยงานองค์กรต่างๆ ทั้งฝ่ายไทยและต่างประเทศพร้อมคู่สมรส ได้แก่ องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดิน อัยการสูงสุด ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ 3 เหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาขับเคลื่อนประเทศ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการในสังกัดองค์กรตามรัฐธรรมนูญ พนักงานรัฐวิสาหกิจระดับอธิบดีขึ้นไป ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจระดับยศพลโทและพลตำรวจโทขึ้นไป ประธานมูลนิธิ/สมาคมการกุศล ผู้นำองค์กรภาคเอกชน/นักธุรกิจ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ส่วนฝ่ายต่างประเทศ ได้แก่ ทูตานุทูต กงสุลกิตติมศักดิ์ หัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างประเทศในประเทศไทย ระดับหัวหน้าสำนักงานเข้าร่วมพิธี จำนวน ประมาณ 3,000 คู่
โดย เมื่อได้เวลา นายกรัฐมนตรี ขึ้นบนเวที ถวายคำนับพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเปิดกรวยกระทงดอกไม้แล้วถวายคำนับ 1 ครั้ง จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความดังนี้ "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อมข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คู่สมรส คณะทูตานุทูต ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่ามีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายพระพรชัยมงคลในงานสโมสรสันนิบาตที่รัฐบาลจัดขึ้น เนื่องในโอกาสอันเป็นอภิลักขิตสมัยวันฉัตรมงคล ที่เวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่ง
นับตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 อันเป็นวันพระบรมราชาภิเษก จนถึงบัดนี้เป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง 66 ปี ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงครองแผ่นดินโดยยึดหลักทศพิธราชธรรม เพื่อประโยชน์และความผาสุกของประเทศชาติและราษฎร สมตามพระปฐมบรมราชโองการที่ได้พระราชทานไว้ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระวิริยะอุตสาหะ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระราชปณิธานที่มั่นคงแน่วแน่ ที่จะพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง ส่งเสริมชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ให้ดีขึ้น ทรงพระราชทานความรัก ความห่วงใย และความเอื้ออาทรแก่พสกนิกรทุกหย่อมหญ้าโดยเสมอหน้า ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระมหากรุณา ทรงส่งเสริมให้คนไทยรู้รักสามัคคี ยึดมั่นในวิถีชีวิตที่พอเพียง มีความหมั่นเพียรและเสียสละ พระราชกรณียกิจทั้งหลายทั้งปวงล้วนก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อชาติบ้านเมืองอย่างยั่งยืน
ณ มหามงคลโอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญพลานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง พระบารมีเพิ่มพูนแผ่ไพศาลไปทั่วทิศานุทิศ ธำรงฉัตรเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบกาลนิรันดร และในโอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เชิญชวน ผู้มีเกียรติที่มาร่วมในงานสโมสรสันนิบาต ดื่มถวายพระพรชัยมงคลเพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
จบแล้วนายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกล่าว "ทรงพระเจริญ" 3 ครั้ง แล้วดื่มถวายพระพร เป็นอันจบพิธี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี