ยื่นสตง.10พค.  สอบ2รองผู้ว่าฯกทม.  เอี่ยวโครงการไฟ39ล้าน

ยื่นสตง.10พค. สอบ2รองผู้ว่าฯกทม. เอี่ยวโครงการไฟ39ล้าน

วันจันทร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

ื่นสตง.10พค.

สอบ2รองผว่าฯกทม.

เอี่ยวโครงการไฟ39ล้าน

ร้องตรวจเพิ่มซื้อของแพง

‘เครื่องสูบน้ำ-รถขัดพื้น’

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตสส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ แถลงความคืบหน้ากรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ออกมาชี้มูลความผิด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมข้าราชการทั้งหมด 9 คน ทำผิดทุจริตและฮั้วประมูลในโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

(Motif of Light) ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณ 39 ล้านบาทว่า ได้ประสานงานไปยัง สตง.เพื่อเอาผิดกับนายจุมพล สำเภาพล และนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯกทม.ทั้ง 2 คน เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ จึงควรกล่าวหาเพิ่มเติม เนื่องจากบุคคลทั้งสองมีส่วนดำเนินการโครงการนี้ด้วย ในส่วนนายจุมพล เป็นผู้ลงนามอนุมัติ และนายอมรเป็นผู้ออกมารับรองว่าโครงการนี้มีความโปร่งใส โดยจะไปยื่นหนังสือถึงสตง.ในวันอังคารที่ 10พฤษภาคมนี้


นายวิลาศกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะยื่นเรื่องให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเดียวกับที่ได้งานประดับไฟ กทม.คือ กรณีการจัดอีเวนท์โฆษณาการท่องเที่ยว กทม.ในต่างประเทศ โดยมีเอกสารว่า สำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว จ้างบริษัทนี้ 9 ครั้ง ครั้งแรกปี 2553 ทำมาเรื่อยๆ จนถึงปี 2558 รวมงบประมาณ 36ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการในปีงบประมาณ 2558 มีการจัดซื้อเครื่องดนตรีไทย บริษัทนี้ก็ได้งานอีก ทั้งที่เพิ่งจดทะเบียนเพิ่มวัตถุประสงค์ในปี 2558

นายวิลาศกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน จะยื่นเรื่องให้ตรวจสอบอีกสองเรื่องคือ เครื่องสูบน้ำชนิดลากจูง ซึ่งของยุโรปมีราคาขายไม่เกิน 400,000 บาทต่อเครื่อง แต่กทม.ซื้อเครื่องจากจีนขายในราคากว่า 900,000บาท จำนวน 200 เครื่องแต่กองไว้ไม่สามารถใช้งานได้ จนมีการวิจารณ์ว่ากรณีนี้ไม่โง่ก็โกง นอกจากนี้ ยังมีกรณีการซื้อรถขัดพื้นคันละ 6 ล้านบาท มีการจัดซื้อไปแล้ว 20 คัน ซึ่งตามแผนจะจัดซื้อทั้งหมด 50 คันเหลืออีก 30 คัน ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ โดยกรณีนี้เกี่ยวข้องกับนายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม.ที่รับผิดชอบสำนักรักษาความสะอาดและสำนักโยธาฯ ซึ่งมีการนัดเซ็นต์สัญญากันแล้ว ถ้าทันจะยื่นพร้อมกันในวันที่ 10พฤษภาคม จากนั้นยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)ต่อไป

ส่วนกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่ายังไม่สามารถใช้มาตรา 44 ดำเนินการกับม.ร.ว. สุขุมพันธ์ได้ เพราะเพิ่งอยู่ในขั้นตอนที่สตง.ตรวจสอบเท่านั้น นายวิลาศกล่าวว่า ถ้านายวิษณุจะให้ความร่วมมือเกี่ยวกับการปราบทุจริต ถ้าสงสัยก็ต้องจัดการ เมื่อสตง.สอบแล้วก็ถือว่าเกินสงสัยไปแล้ว ซึ่งการใช้อำนาจมาตรา 44 ที่ผ่านมา ก็มาจากการตรวจสอบของ สตง.เป็นส่วนใหญ่

 

“คำพูดของนายวิษณุถือว่าแตกต่างจากแนวทางปฏิบัติเดิม ผมจึงไม่ทราบว่ามีการลักไก่หรือไม่ หากทำเช่นนี้ ผมคิดว่านายวิษณุขัดคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ต้องการปราบปรามการทุจริต เพราะสตง.แถลงพร้อมเอกสารชัดเจนใครได้อ่านก็หลับตานึกภาพได้ว่าได้กันไปเท่าไหร่จากที่แสดงราคานำเข้า 29 ล้านแต่มาเช่าไฟในราคา 39 ล้านบาท โชว์แล้วต้องเก็บคืน”นายวิลาศกล่าว และว่า นอกจากนี้ ยังมีที่ปรึกษาผู้ว่ากทม.คนหนึ่งโพสต์เฟสบุ๊คว่า กรณีนี้มีส่วนต่างเกิดขึ้นก็ยิ่งมีความชัดเจนว่าโครงการนี้มีปัญหา อีกทั้ง ขอฝากให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของสุภาพสตรีคนหนึ่งที่เป็นข้าราชการระดับกลางในกทม. ถือกระเป๋าแบรนด์เนมทุกวัน ซึ่งอยู่ในเรื่องร้องเรียนด้วย หากมีการตรวจสอบจะพบการโยงใยได้หมด เพราะตนมีพยานยืนยันว่ามีการผ่านเงินจากข้าราชการคนนี้ ซึ่งตนประสานไปยังป.ป.ง.แล้วแต่ป.ป.ง.ยังต้องรอให้มีการตั้งเรื่องจากสตง.หรือป.ป.ช. ทำให้ติดขัดอยู่ จึงอยากให้นายวิษณุดำเนินการในส่วนนี้ด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top