ริบ4.7พันล.‘คลองด่าน’ อายัดค่าโง่! ปปง.ซัดเอกชนเอี่ยวโกง

ริบ4.7พันล.‘คลองด่าน’ อายัดค่าโง่! ปปง.ซัดเอกชนเอี่ยวโกง

วันพฤหัสบดี ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

ริบ4.7พันล.‘คลองด่าน’

อายัดค่าโง่!

ปปง.ซัดเอกชนเอียวโกง

เข้าข่ายฐานความผิดต้องยึด

คำพิพากษามัดสัญญาโมฆะ

ทส.ขวาง-ยืนกรานต้องจ่าย

โยนครม.ออกมติสั่งพักชำระ

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. แถลงว่า สืบเนื่องจากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อม.2/2551 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 ลงโทษจำคุก นายวัฒนา อัศวเหม ขณะดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เป็นเวลา 10 ปี ในความผิดฐานใช้อำนาจข่มขู่หรือจูงใจเจ้าพนักงาฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ จ.สมุทรปราการ สาขาบางพลี ให้ออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบจำนวน 1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณะและที่ทิ้งขยะซึ่งเป็นที่หวงห้าม แล้วนำไปขายให้ต่อเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน

ขณะที่ศาลอาญามีคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4197/2558 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2558 ให้ นายปกิต กิระวานิช อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ อดีตรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และ นางยุวรี อินนา อดีตนักวิชาการสิ่งแวดล้อม 7 มีความผิดฐานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ในการดำเนินงานโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ให้ลงโทษจำคุกคนละ 20 ปี ซึ่งจากกรณีดังกล่าวมีกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG ที่มีพฤติการณ์แสดงให้เห็นถึงการวางแผนและการดำเนินการตามแผนเพื่อเอื้อประโยชน์หลายขั้นตอน


โดยตามคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4197/2558 ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่ากิจการร่วมค้า NVPSKG และกลุ่มเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ กรมควบคุมมลพิษ ได้ร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริง ดำเนินการเสนอเข้าประกวดราคาแต่ละขั้นตอนโดยทุจริต โดยจำเลยทั้ง 3 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกับผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ เลือกดำเนินการแต่ละขั้นตอนไปในทางที่ขัดต่อระเบียบทางราชการ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย สนองรับดำเนินการอันเป็นทุจริตและเอื้อประโยชน์เพื่อช่วยเหลือจนทุกขั้นตอนบรรลุผลสำเร็จ

“จากข้อเท็จจริงดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า สัญญาการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เกิดขึ้นจากการทุจริตของอธิบดีและเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษในขณะนั้น สมคบกับกิจการร่วมค้าในทุกขั้นตอนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มเอกชนดังกล่าวเข้ามาเป็นคู่สัญญา จึงเป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 ซึ่งมีผลในทางกฎหมายให้สัญญาดังกล่าวเสียเปล่ามาตั้งแต่ต้น เสมือนไม่มีการทำสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นเลย”

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวต่อว่า ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหนังสือที่ ปช 001.10/004 ลงวันที่ 27 เมษายน 2559 ส่งข้อมูลกรณีเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตต่อหน้าที่มายัง ป.ป.ง. และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีหนังสือที่ ตผ 005/0421 ลงวันที่ 27 เมษายน ขอให้ ป.ป.ง. ใช้อำนาจยึดหรือายัดผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีทุจริตคลองด่าน

โดย ป.ป.ง. ได้ดำเนินการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบเหตุอันควรน่าเชื่อว่า กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG กับพวก ซึ่งเข้ายึดถือ ครอบครอง และแสวงประโยชน์จากที่ดินสาธารณประโยชน์ที่เป็นคลองสาธารณะที่ลุ่มน้ำทะเลท่วมถึง และเป็นที่ทิ้งขยะของทางราชการที่ออกโฉนดมาโดยมิชอบ เป็นผู้มีพฤติการณ์ทำความผิดเกี่ยวกับการแสวงหาประโยชน์เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงกระบวนการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะในทางการค้า อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(15) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

นอกจากนี้ กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG กับพวก ยังมีส่วนร่วมเป็นผู้สนับสนุนหรือเกี่ยวข้องสัมพันธ์และได้รับประโยชน์ที่เป็นทรัพย์สิน จากการกระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ ของ นายวัฒนา กับพวก และ นายปกิต กับพวก ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

ดังนั้นในที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 7/2559 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด กรณีกลุ่มบุคคลมีพฤติการณ์ในการทุจริตและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายจากโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้ตามข้อตกลงที่ กรมควบคุมมลพิษ จะต้องจ่ายให้กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG จำนวน 2 งวด โดยให้มีผลในวันที่ครบกำหนดชำระในแต่ละงวด ประกอบด้วย 1.สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินงวดที่ 2 เป็นเงิน 2,380,936,174.53 บาท และ 16,288,391.55 เหรียญสหรัฐ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2559 2.สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินงวดที่ 3 เป็นเงิน 2,380,936,174.53 บาท และ 16,288,391.55 เหรียญสหรัฐอเมริกา มีผลตั้งแต่วันที่ 21พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป รวมมูลค่าตามสิทธิเรียกร้องในหนี้ จำนวน 4,761,872,349.06 บาท และ 32,576,783.10 เหรียญสหรัฐอเมริกา

ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ตนในฐานะประธาน ศอตช. ได้ทำเรื่องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อให้ทบทวนการจ่ายเงินค่าโง่คลองด่าน โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าหารือ ก่อนมีข้อยุติตามที่ ป.ป.ง. ได้ดำเนินการ

เมื่อถามว่า กรณีที่รัฐบาลจ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว จะต้องเรียกคืนหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ ตอบว่า การจ่ายเงินงวดแรกเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ซึ่งขณะนั้นศาลอาญายังไม่มีคำตัดสินใดๆ ออกมา รัฐบาลจึงต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อศาลอาญามีคำตัดสินออกมา จึงต้องนำตรงนี้มาพิจารณาและดำเนินการ ซึ่งเราก็ทำเป็นขั้นเป็นตอนตามกระบวนการยุติธรรมที่มี โดยหลังจากนี้ก็ต้องรอให้สิ้นสุดกระบวนการในชั้นศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาในคดีอาญาของเจ้าหน้าที่รัฐเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ทส.ต้องทำตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คือ การจ่ายเงินอีก 2 งวดที่เหลือให้กับกลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG นอกจาก ครม.จะมีมติออกมาว่าไม่ต้องจ่ายเงินงวดต่อไป หรือให้พักการจ่ายค่าเสียหายเอาไว้ก่อน โดยจะต้องชัดเจนก่อนวันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันครบกำหนดต้องชำระเงินงวดที่ 2

นายเกษมสันต์ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ได้เข้าร่วมประชุมหารือกรณีดังกล่าวด้วย ซึ่งได้ตกลงกันว่าเรื่องนี้จะไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมป.ป.ง.ต้องออกมาแถลงข่าว

ส่วนความคืบหน้ากรณีตรวจสอบโครงการขุดบึงหนองพลู อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งดำเนินการโดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) และเกิดข้อสงสัยเรื่องการทุจริตนั้น วันเดียวกันนี้ พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทร ผู้อำนวยการ อพศ. เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนตนเข้ามารับตำแหน่ง โดยบริษัทที่รับงานไปแล้วไม่ยอมทำงาน จึงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบว่า โครงการไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ทั้งยังเกินเวลาที่กำหนด จึงสั่งให้ยึดคืนสัญญาทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องหาบริษัทใหม่ที่อยู่ในพื้นที่นำมาทำงาน

ด้าน นายนคร มาฉิม อดีต สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่นใน ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ขุดบึงหนองพลู ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) เชิญตัวไปพูดคุยที่กองทัพภาคที่ 3 ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ แต่เนื่องจากตนติดภารกิจจึงไม่ได้เดินทางไป โดยขอเลื่อนนัดเป็นวันที่ 15 พฤษภาคม ส่วนแกนนำและชาวบ้านคนอื่นทราบว่าได้เดินทางเข้าพบแล้ว

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า การเชิญตัวดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกลุ่มนักการเมืองลงตรวจสอบพื้นที่ กกล.รส. จึงต้องการพูดคุยและสอบทราบข้อเท็จจริงจากคนในพื้นที่ว่า เปิดปัญหาหรือมีความเดือดร้อนอย่างไร เพื่อจะได้รับไปดำเนินการแก้ไขให้อย่างตรงประเด็น เนื่องจากหากเป็นกลุ่มนักการเมืองซึ่งอยู่นอกพื้นที่เข้าไป ก็อาจเอาไปดำเนินการอย่างไม่ถูกจุด

“การเชิญบุคคลทั้งหมดมาพูดคุยและให้ข้อมูลนั้น ไม่ต้องตกใจเกินกว่าเหตุ เราแค่ต้องการทราบข้อมูลโครงการต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร ขอให้สบายใจได้เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ลูกหลานของพวกท่านทั้งนั้น พวกท่านมีความทุกเดือดร้อน ทหารเราที่เป็นลูกหลานก็ต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขให้ทันที” รายงานข่าวระบุ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top