15 พ.ค.59 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผู้อำนวยสถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.51 ว่า ตนไม่สบายใจที่มีข่าวจากวงใน ป.ป.ช.ที่ยังมีความพยายามที่จะผลักดันในเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่กระแสสังคมไม่เห็นด้วย และมองว่าเรื่องนี้ส่อเจตนาที่ไม่สุจริตใจของกรรมการ ป.ป.ช.บางส่วน เพราะเท่าที่ทราบ กรรมการ ป.ป.ช.หลายท่านอึดอัดในความพยายามนี้ เพราะนอกจากจะเป็นการท้าทายสังคมแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายเสียเอง ทำให้เรื่องนี้ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า ถูกบงการโดยกลุ่มคนและอำนาจพิเศษบางอย่าง การถอนฟ้องคดี 7 ต.ค.51 เป็นเหมือน "Saving private ryan ภาคพิศดาร" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เอาพลทหารไปรบในสงครามจำนวนมาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าพ่ายแพ้ ซึ่งกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน จะผลักดันให้ได้โดยไม่คำนึงว่าจะกระทบกับหลักการ ขื่อแปของบ้านเมืองแค่ไหนก็ตาม แต่ทำเพื่อเป้าหมายของใครบางคน โดยที่ ป.ป.ช.ก็ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาทั้งนั้น
ทั้งนี้ นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า อนุกรรมการ ป.ป.ช.ที่ดูเรื่องนี้ก็อึดอัด เพราะมีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า ทั้งที่นักกฎหมายหลายคนก็ทักท้วงว่าเป็นเรื่องที่อยู่นอกเขตอำนาจ ป.ป.ช.ไปอยู่ในเขตอำนาจศาลแล้ว นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช.ก็บอกว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจ และอาจเป็นการกระทำที่มิชอบเสียเอง ซึ่งเรื่องที่เป็นข้อห่วงใยของ ป.ป.ช.ภายในกันเอง ยังมีอีกประเด็นคือ หากเรื่องนี้ทำได้ถอนฟ้องได้ จะมีเรื่องอื่นตามมาอีกหรือไม่ หรือจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีให้คดีอื่น ผู้ถูกกล่าวหาก็อาจใช้สิทธิเดินตามเอาอย่าง ร้องทุกข์ถอนฟ้องกันทั้งประเทศ แล้ว ป.ป.ช.จะใช้หลักอะไรเป็นบรรทัดฐานในการวินิจฉัยว่าถอนได้หรือไม่ได้ และอาจถูกมองว่าถูกเลือกปฏิบัติได้ในที่สุด อีกหน่อยคงมีผู้ถูกกล่าวหาคดีทุจริตจำนำข้าวขอใช้สิทธินี้บ้าง ป.ป.ช.จะอธิบายสังคมอย่างไร
นอกจากนี้ นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ล่อแหลมและอ่อนไหวที่สุดจะถือเป็นการกดดันและผลักภาระไปให้ศาลหรือไม่ เพราะคดี 7 ต.ค.51 อยู่ระหว่างการไต่สวนคดี ดังนั้น กรรมการ ป.ป.ช.ที่ผลักดันถอนฟ้องจะรู้ได้อย่างไรว่าศาลท่านเอาด้วยหรือยอมให้ถอนฟ้อง และอะไรทำให้มั่นใจกล้าผลักดันมติที่สุ่มเสี่ยงได้ขนาดนั้น และถ้าศาลท่านไม่อนุญาตให้ถอนฟ้อง ป.ป.ช.จะรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร หวังว่าคงไม่ออกมาบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของศาล
"เรื่องนี้ ป.ป.ช.ต้องยุติให้เร็วที่สุด ไปต่อไม่ได้ก็ไม่ควรดื้อดึง เพราะกระทบและสวนทางกับบรรยากาศที่หลายฝ่ายอยากเห็นการปฏิรูป ควรเอาเวลาไปทุ่มเทคดีที่ค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.มากมาย ที่กำลังจะหมดอายุความจะดีกว่า ในยุคที่อยากเห็นการปราบโกงอย่างจริงจัง แต่บรรยากาศใน ป.ป.ช.กับถูกปกคลุมด้วยวาระบางอย่าง จนอาจกระทบกับการทำงานปราบปราการทุจริตคอร์รัปชั่นที่สังคมคาดหวัง ป.ป.ช." นายสุริยะใส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี