เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา นำคณะ ออกเดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งนายกฯปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงเรื่องการตัดสินใจซื้อเฮลิคอปเตอร์ หรือแนวคิดยกเลิกการชิญบุคคลมาปรับทัศนคติ
ถกรัสเซียขยายความร่วมมือทุกด้าน
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า การเดินทางเยือนรัสเซียของนายกฯครั้งนี้ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ในโอกาสจะครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย และร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซียสมัยพิเศษ ที่เมืองโซชิ นอกจากนี้ นายกฯและนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย จะหารือความร่วมมือทั้งด้านทหาร วิชาการ พลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความมั่นคง การค้าการลงทุนและการเกษตร โดยรัสเซียมองไทยมีส่วนสำคัญในความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารแก่รัสเซีย ขณะที่รัสเซียก็มีบทบาทในความร่วมมือด้านความมั่นคงทางพลังงานกับไทย รวมถึงหารือการซื้อสินค้าเกษตรที่สำคัญ เช่น ข้าว ยางพารา อ้อย และมันสำปะหลัง นอกจากนี้ นายกฯยังได้นำตัวแทนภาคธุรกิจไทยหารือภาคธุรกิจรัสเซียด้วย
“บิ๊กป้อม”ปัดซื้ออาวุธเล็งซื้อฮ.
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวถึงกรณีนายกฯเดินทางไปรัสเซียจะมีการเจรจาซื้ออาวุธหรือไม่ว่า คงไปซื้อเฮลิคอปเตอร์ใช้เพื่อการขนส่ง และดับไฟป่า ไม่ได้ไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะรถถังของรัสเซีย ส่วนกรณีกองทัพบกจัดซื้อรถถังจากจีนนั้น ตนคิดว่าซื้อไปก่อนแล้ว ต้องไปถามพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ถึงราคาขีดความสามารถเป็นอย่างไร เพราะต้องผ่านคณะกรรมการกําหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก (กมย.ทบ.) ผ่านการทดสอบ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีมาก่อนแล้ว ไม่ใช่อยู่ๆจะไปซื้อ ถ้าจะซื้อจากรัสเซียต้องเป็นหน้าที่ของกองทัพบกพิจารณาดำเนินการตามแผนงาน และรายงานให้รัฐบาลทราบตามกรอบยุทธศาสตร์พัฒนากองทัพให้ทันสมัย
ทุกรบ.ก็ซื้ออาวุธเหมือนกัน
ส่วนที่รมว.ผลิตยุทธภัณฑ์และรมว.วิทยาศาสตร์แห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานมาพบ พล.อ.ประวิตรปฎิเสธว่า ไม่ได้พูดคุยความร่วมมือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือด้านทหารเป็นพิเศษ แต่หารือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เป็นการพูดคุยครั้งแรก คงเป็นเพียงการศึกษา การฝึก
“การร่วมมือกันโดยไม่ผูกขาดประเทศใดเป็นเรื่องดี แต่เราต้องดูเรื่องการซ่อม และส่งกำลังบำรุงด้วย และขอย้ำว่าไม่ใช่เป็นเพราะยุครัฐบาลทหารเท่านั้นที่จะจัดซื้ออาวุธได้ สมัยผมเป็นรมว.กลาโหม พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็จัดซื้อเหมือนกันทุกรัฐบาลที่ดำเนินการตามนโนบายกองทัพ”พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่า การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะรัสเซียกับจีนนั้น เรายึดนโยบายอิสระ ประกอบกับการเป็นประเทศเล็กก็ต้องร่วมมือทุกประเทศ ให้ดูแลช่วยเหลือเราได้ทุกเรื่อง ส่วนอนาคตจะซ้อมรบกระสุนจริงกับรัสเซียหรือไม่ ต้องดูก่อน อาจเริ่มระดับต่ำ และคุยกันว่าจะฝึกอะไรบ้าง รวมทั้งจีนด้วย
ผบ.ทบ.ย้ำซื้อMi-17V5แทนชีนุก
ขณะที่พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณีกองทัพบกจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ Mi-17V5 จากรัสเซียเพื่อใช้บรรเทาสาธารธารณภัยว่า ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกที่จะนำมาใช้แทนเฮลิคอปเตอร์แบบลำเลียง CH-47 ชีนุกไม่มี จึงขอสนับสนุนจากรัฐบาลว่ากองทัพบกขาดแคลนอากาศยานลำเลียงและบรรเทาสาธารณภัยจำนวนมาก แต่ไม่มีงบประมาณ โดยกองทัพบกใช้งบอัตราที่ต่ำสุดขอเพียง 50% เท่านั้น โดยแจ้งให้นายกฯทราบแล้ว ส่วนจะจัดซื้อรถถังที-90 ของรัสเซียด้วยหรือไม่นั้น กองทัพบกพอแล้ว
การันตีรถถังจีนเจ๋งยันไปดูเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะจัดซื้อรถถังที 90 เพื่อมาแทนโอพล็อต (oplot)ของยูเครนที่มีปัญหาส่งมอบล่าช้าหรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า เราไม่ได้เปลี่ยน แต่การจัดซื้อจัดหายุทโธปกรณ์ต้องผ่านคณะกรรมการและดูความเหมาะสมกับงบประมาณของรัฐบาล และความพร้อมของกองทัพบกที่จะมาชดเชยยุทโธปกรณ์เก่าและล่าสมัย เราขอแค่ระดับหนึ่ง ซึ่งดำเนินการไปแล้ว โดยซื้อรถถังvt-4 ของจีนและเราก็พอแล้ว ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นในราคา คุณภาพ ประสิทธิภาพ ศักยภาพรถถัง vt-4 ของจีนว่าเหมาะสม เพราะตนไปดูมาเอง และผ่านคณะกรรมการฯของกองทัพบก นอกจากนี้ ยังส่งเจ้าหน้าที่ไปดูหลายรอบ ในส่วนโอพล็อตที่มีปัญหาจัดส่งก็ต้องให้เวลาเขา แต่ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามสัญญา
แหล่งข่าวจากกองทัพบกเผยว่า กองทัพบกเสนอความต้องการโครงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ Mi-17V5 จากรัสเซีย 12 ลำ เพื่อใช้บรรเทาสาธารณภัย อยู่ระหว่างรอครม.อนุมัติโดยรัฐบาลเป็นผู้พิจารณาว่าสามารถจัดงบให้ได้เท่าใด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการจัดซื้องบผูกพัน 3 ปีๆละ 4 ลำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี