20 พ.ค.59 วันนี้ (19 พ.ค. 59) เวลา 13.45 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย ณ โรงแรมเรดิสัน บลู รีสอร์ท เมืองโซชิ สหพันธรัฐรัสเซีย ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลตรีวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณประธานาธิบดีปูติน ที่ได้เชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-รัสเซียในครั้งนี้ ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 20 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-รัสเซียด้วย ในโอกาสที่ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซียจะครบรอบ 120 ปี ในปีหน้าซึ่งประชาชนของทั้งสองประเทศจะได้เฉลิมฉลองโอกาสพิเศษร่วมกัน รัฐบาลไทยยินดีสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการจัดงานแก่ฝ่ายรัสเซีย และหวังว่ารัฐบาลรัสเซียจะสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของฝ่ายไทยเช่นกัน นอกจากนี้รัฐบาลไทยพร้อมจะส่งผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากร (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์) มาช่วยบูรณะสิ่งของที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานให้กับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 อันจะเป็นของขวัญที่รัฐบาลไทยจะมอบให้กับรัฐบาลรัสเซียในวาระครบรอบ 120 ปีความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย
ด้านความร่วมมือทวิภาคี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเมื่อวานนี้ได้พบกับนายดิมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามความตกลงร่วมกันทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังให้ผลักดันการดำเนินการตามความตกลงเพื่อให้มีผลสำเร็จเป็นรูปธรรม
ด้านการค้า นายกรัฐมนตรีหวังให้ประธานาธิบดีปูตินสนับสนุนความพยายามของทั้งสองประเทศในการบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคี เป็น 5 เท่าใน 5 ปี (จากประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 เป็นประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563) โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้เพิ่มมูลค่าการค้าให้ได้เป็น 2 เท่าในสองปีแรกก่อน จาก ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 เป็น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2560 เพื่อให้เห็นผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว สำหรับการลงทุนนั้น ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่ารัสเซียยินดีเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการลงทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนพัฒนาระบบรถไฟไทยให้ทันสมัย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลไทยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการจัดทำ FTA เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุน และยกระดับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและะสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย โดยประธานาธิบดีปูตินหวังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับองค์กรระหว่างประเทศที่มีบทบาทสูง เช่น สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ โดยรัสเซียพร้อมเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับความร่วมมือด้านความมั่นคงนั้น ทั้งสองฝ่ายยินดีที่บรรลุความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหารเพื่อเป็นกรอบความร่วมระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาและยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงและทางทหารไทย-รัสเซีย และเพื่อพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศของไทยต่อไป ทั้งนี้ประเทศไทยยินดีสนับสนุนความร่วมมือกับรัสเซียเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
ประเด็นความร่วมมือในกรอบภูมิภาคและองค์การระหว่างประเทศ ASEAN นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยมีความยินดีในโอกาสครบรอบ 20 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-รัสเซียและแสดงความขอบคุณที่รัสเซียสนับสนุนการเป็นประชาคมของอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรียืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือกับรัสเซียในทุกมิติเพื่อความมั่นคงและมั่งคั่งของภูมิภาค และเพื่อพัฒนาความร่มมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นในสาขาสำคัญ เช่น พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การบรรเทาภัยพิบัติ การเกษตร การคมนาคม รวมถึงการขยายความเชื่อมโยงในภูมิภาค ACD นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่รัสเซียสนับสนุนไทยในฐานะประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรี ACD ครั้งที่ 14 ณ กรุงเทพฯ APEC ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าเอเปคเป็นเวทีแห่งความร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และศักยภาพ โดยอาจพิจารณาร่วมมือกันภายใต้กรอบเอเปค
โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายยังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่รัสเซียมีส่วนร่วมในภูมิภาคเอเชียตะวันอออกอย่างต่อเนื่องและหวังว่ารัสเซียจะยังคงแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคต่อไปผ่านกลไกต่างๆ ที่มีอยู่ อาทิ ARF EAS และความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี